ChatGPT ความทันสมัยของเทคโนโลยี AI

เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) หรือระบบปัญญาประดิษฐ์ เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตประจำวันที่เราทุกคนคุ้นเคยและใช้งาน มีการนำไปใช้ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมรถยนต์ไฟฟ้าผ่านการสั่งงานด้วยเสียง, การปรับความเหมาะสมของคอนเทนต์ในโซเชียวมีเดียตามความสนใจ, หรือการสั่งการ Device ใกล้ตัวเช่น Siri ใน iPhone หรือ Google AI ที่มีความสามารถในการสื่อสารกับผู้ใช้

นับจากว่าที่ ChatBot ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาจนถึง ณ ขณะนี้ โลกก็ได้พบกับ ChatBot อัจฉริยะตัวใหม่ ที่มีความฉลาดคล้ายมนุษย์เข้าไปทุกที เทคโนโลยีนี้ก็คือ ChatGPT

ChatGPT คืออะไร?

ChatGPT คือระบบการสนทนาที่พัฒนาขึ้นโดย OpenAI ซึ่งใช้โมเดลภาษา GPT (Generative Pre-trained Transformer) เพื่อสร้างการตอบสนองในการสนทนา GPT นี้ถูกฝึกสอนด้วยปริมาณข้อมูลมากมายและสามารถทำนายและสร้างข้อความในลักษณะภาษาธรรมชาติได้

ChatGPT ถูกออกแบบมาเพื่อให้บริการในหลายๆ รูปแบบของการสนทนา เช่น การตอบคำถาม , การเล่าเรื่อง , การสนทนาทั่วไป หรือการช่วยในงานที่ต้องการการให้คำปรึกษาทางภาษา ระบบนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นจาก GPT-3.5 architecture ที่ใหญ่ที่สุดจาก OpenAI ในขณะที่ข้อมูลสารสนเทศของ ChatGPT ถูกอัปเดตครั้งล่าสุดในมกราคม 2022

กำเนิด ChatGPT

ChatGPT ถูกสร้างโดย ChatGPT ถูกพัฒนาโดย OpenAI บริษัทที่มีต้นกำเนิดมาจากการวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์และปัญญาประดิษฐ์ที่ลึกซึ้ง. OpenAI ได้รับการก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มของผู้ประกอบการและนักวิทยาศาสตร์ด้านเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียง เช่น Elon Musk , Sam Altman , Greg Brockman , Ilya Sutskever , John Schulman , Wojciech Zaremba และนักวิจัยอื่น ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้

ChatGPT ไม่ได้มีผู้สร้างเฉพาะคนเดียว, แต่เป็นผลงานที่มีความเสมือนจริงและสร้างขึ้นจากทีมคนหลายคนที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและวิจัยทางปัญญาประดิษฐ์. OpenAI มุ่งมั่นที่จะสร้างเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่มีประสิทธิภาพ , ปลอดภัย และมีเป้าหมายที่จะแบ่งปันความรู้และเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อประโยชน์ของสังคม

ChatGPT มีการเรียนรู้ข้อมูลอย่างไร?

ChatGPT ถูกสร้างขึ้นโดยใช้วิธีการที่เรียกว่า “pre-training” หรือการฝึกก่อน ซึ่งเป็นกระบวนการการเรียนรู้ที่ทำในขั้นตอนแรกก่อนที่ระบบจะถูกทำให้พร้อมใช้งาน กระบวนการนี้ให้ ChatGPT มีความเข้าใจเกี่ยวกับโลกและภาษา

ต้นแบบที่ใช้ใน pre-training คือ GPT (Generative Pre-trained Transformer) ซึ่งเป็นโมเดลที่ใช้การทำนายคำถัดไปในประโยคที่มีความยาวต่ำลง. ในกระบวนการนี้ GPT ถูกฝึกด้วยปริมาณข้อมูลมหาศาลจากอินเทอร์เน็ตเพื่อเรียนรู้โครงสร้างภาษา , ความหมาย และตัวแสดงทางภาษา

หลังจาก pre-training กระบวนการถัดมาคือ “fine-tuning” หรือการปรับแต่ง ที่ทำในขั้นตอนต่อมาเพื่อปรับแต่งโมเดลให้เข้ากับงานหรือโปรเจ็คที่เฉพาะเจาะจง ในกระบวนการนี้นักพัฒนาทำการฝึก ChatGPT ด้วยชุดข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงและทำการปรับแต่งตามความต้องการของแอปพลิเคชันหรือบริการที่ต้องการใช้ ChatGPT

การฝึกแบบนี้ช่วยให้ ChatGPT มีความสามารถในการสร้างข้อความที่มีความหมาย , การตอบสนอง และการทำนายคำถัดไปในบริบทของการสนทนา คำตอบและข้อความที่ถูกสร้างขึ้นจาก GPT จะขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ใช้ฝึก ซึ่งต้องมีการระมัดระวังเพื่อป้องกันการสร้างข้อมูลที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง

ประโยชน์ของ ChatGPT

ChatGPT มีประโยชน์มากมายในการให้บริการต่าง ๆ ตามความสามารถของระบบสนทนาที่ถูกพัฒนาขึ้น นี่คือประโยชน์ที่สำคัญของ ChatGPT :

  • ChatGPT สามารถให้คำตอบที่เป็นประโยชน์ในการตอบคำถามที่สามารถตอบได้ด้วยข้อมูลที่มีอยู่
  • สามารถใช้ ChatGPT เพื่อช่วยในการเขียนเรื่องราวหรือสร้างเนื้อเรื่องต่าง ๆ ในงานเขียน
  • สำหรับการสนทนาทั่วไปหรือการพูดคุย ChatGPT สามารถทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนกับการสนทนากับบุคคลจริง
  • ChatGPT สามารถให้คำปรึกษาในหลายประเด็น เช่น การแนะนำการแก้ปัญหา , การสนับสนุนทางการทำธุรกิจ หรือการให้คำปรึกษาทางการศึกษา
  • นักเรียนสามารถใช้ ChatGPT เพื่อขอความช่วยเหลือในการศึกษาหรือการเรียนรู้เกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ
  • ChatGPT สามารถช่วยในการสร้างเนื้อหาต่าง ๆ สำหรับเว็บไซต์ , บทความ หรือการโฆษณา

แต่ต้องทราบว่าในบางกรณี ChatGPT อาจมีข้อจำกัดในการเข้าใจข้อความหรือการให้คำตอบที่ถูกต้อง และการให้คำปรึกษาทางแพทย์ , การเงิน หรือด้านที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะอาชีพอาจต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ข้อเสียหรือข้อจำกัดของ ChatGPT

นักพัฒนาและผู้ใช้ที่ใช้ ChatGPT พบข้อเสีย หรือข้อจำกัดของ ChatGPT แยกเป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้ :

  • ChatGPT อาจไม่เข้าใจบางข้อความที่ซับซ้อนหรือมีข้อมูลที่ซับซ้อนมาก, ทำให้การตอบสนองไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม
  • ChatGPT อาจสร้างข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง, สับสน, หรือไม่เหมาะสมหากไม่ตรวจสอบอาจก่อให้เกิดข้อผิดพลาดได้
  • ระบบอาจจะนำข้อมูลที่ไม่ได้ตั้งใจหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมมาให้ผู้ใช้
  • ในบางกรณีระบบอาจให้คำแนะนำที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ดีต่อสุขภาพทางจิต
  • การนำ ChatGPT มาใช้ในการสร้างข้อมูลหรือการกระทำที่เสี่ยงต่อความสัมพันธ์ทางสังคม , การสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่เหมาะสม หรือการให้คำปรึกษาที่ไม่ถูกต้องซึ่งอาจมีผลกระทบทางทางสังคม
  • ในกรณีที่ข้อมูลที่ให้มีเนื้อหาที่ไม่ปลอดภัย, อาจเกิดความเสี่ยงทางด้านความมั่นคง
  • การให้ข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่มีความลับอาจเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดความเสียหายได้

ทั้งนี้การใช้ ChatGPT จึงต้องใช้อย่างระมัดระวัง และมีการตรวจสอบข้อมูลให้ดี เพื่อป้องกันผลเสียที่อาจเกิดขึ้น และในปัจจุบันก็ได้มีการปรับปรุงระบบ OpenAI ตลอดเวลา เพื่อลดข้อจำกัดและข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น