ตำนาน ประตูชุมพล! นอกจากมีห้องลับ เชื่อว่า”คนโสดต้องมาลอดผ่าน”สักครั้ง

ตำนาน ประตูชุมพล! "ตำนานประตูชุมพล: ความลึกลับของสถานที่โบราณในจังหวัดนครราชสีมา" ในยุคที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กคุณ พงศธร พนาสรรค์, อดีตเลขานุการกระทรวงแรงงาน, ถูกยั่วยุให้เผยแพร่ประวัติที่เกี่ยวข้องกับประตูชุมพลในจังหวัดนครราชสีมา หลายคนได้รับทราบถึงเรื่องราวที่เคยซ่อนเร้นเกี่ยวกับสถานที่นี้อย่างไม่คาดคิด ประตูชุมพลถือเป็นสถานที่สำคัญที่มีหลายวงการสนใจ เนื่องจากมีความเชื่อทางประชากรท้องถิ่นว่า หลังบันทึกประวัติของสถานที่นี้ในโลกออนไลน์ การแชร์ข้อมูลกันไปต่อไป ได้สร้างความฮือฮาและน่าสนใจในวงกว้าง "ประตูชุมพล" นั้นมีความหมายว่า "ชุมนุมพล", ซึ่งได้ชื่อตามความสัมพันธ์กับการเตรียมไพร่พลยามออกศึกในอดีต โดยมีความเชื่อทางวัฒนธรรมว่า ผู้ที่ลอดผ่านประตูชุมพลเพื่อเข้าสู่การทำศึกจะได้กลับมาอย่างปลอดภัย มีเส้นทางทางการค้าในอดีตที่ต้องผ่านประตูชุมพลเพื่อเข้าสู่เมืองนครราชสีมา นอกจากนี้, ประตูชุมพลยังถือเป็นที่ตั้งของห้องใช้เก็บของโบราณล้ำค่า ซึ่งมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น มีความเชื่อว่าห้องนี้เป็นที่เก็บรักษาดาบของท้าวสุรนารี (ย่าโม) ทำให้ประตูชุมพลกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีมูลค่าทางประวัติศาสตร์ ด้วยตำนานและความลึกลับของประตูชุมพล, สถานที่นี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป…

ทำความรู้จักกับ “กันตรึม” การละเล่นพื้นเมืองทางภาคอีสานตอนใต้

กันตรึมหรือโจ๊ะกันตรึม เป็นการละเล่นพื้นเมืองของชาวไทยเชื้อสายเขมรในเขตอีสานใต้ เป็นชุมชนที่ใช้ภาษาเขมรเป็นภาษาถิ่น เช่น จังหวัดสุรินทร์, บุรีรัมย์, และศรีสะเกษ เป็นการละเล่นที่มีดนตรีประกอบ และถือว่าดนตรีมีความสำคัญและมีบทบาทมากที่สุด ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน ตามประวัติแต่โบราณใช้สำหรับขับร้องประกอบการร่ายรำบวงสรวง รำคู่ และรำหมู่ ศิลปะการละเล่นนี้มีวิวัฒนาการจากการเล่นเพลงปฏิพากย์ในภาคกลาง ในการเล่นกันตรึม, มีกลองที่เรียกว่า “กลองกันตรึม” เป็นหลัก เมื่อตีเสียงจะออกเป็นเสียง กันตรึม โจ๊ะ ตรึม ตรึม การเล่นจะเริ่มด้วยบทไหว้ครู เพื่อระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า, พระวิศวกรรม, ครูบาอาจารย์ และเริ่มทักทายกัน เล่นได้ทุกโอกาสไม่กำหนดว่าเป็นงานมงคลหรืออวมงคล ท่วงทำนองของเพลงกันตรึมมีกว่า…

ประเพณีทานข้าวใหม่ ทานหลัวหิงไฟ

ประเพณีทานข้าวใหม่ – ทานหลัวหิงไฟพระเจ้า ชาวล้านนามีประเพณีสำคัญที่ปฏิญาณในช่วงปลายเหมันตฤดู ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมกราคม ซึ่งเป็นประเพณีที่มีลักษณะเฉพาะและเป็นที่ตั้งใจในวงการชาวนา. ในวันที่ 15 ค่ำของเดือน ชาวล้านนาจะทำประเพณีที่เรียกว่า "ทานข้าวใหม่-หิงไฟพระเจ้า หลังการเก็บเกี่ยวข้าวในนาแล้ว ชาวนาจะยกให้กับคุณของ "ผีปู่ผีย่า ผีฟ้าผีน้ำ ผีค้ำดินดำ" ซึ่งเป็นผีที่ถือความสำคัญในการรักษาและส่งเสริมการเจริญเติบโตของนา. ผีบรรพบุรุษผู้บุกเบิกเนื้อไร่แดนนา และผีบนฟ้าที่ประทานสายฝน มีบทบาทในการหล่อเลี้ยงข้าวกล้าให้เติบโต. ผีดินค่ำหนุนก็มีคุณที่ประทานเนื้อดินให้อุดมสมบูรณ์, ทำให้ผลผลิตข้าวเติบโตงาม. จากนั้นจึงจัดพิธีเซ่นสรวงบูชาโดยการจัดแบ่งข้าวเปลือกและข้าวสารใส่กระทงพร้อมอาหารคาวหวาน, ขนม, ผลไม้, หมวกพลูบุหรี่, กระบะบัตรพลี และประกอบพิธีบูชา. หลังจากนั้นชาวล้านนาได้รับพุทธศาสนามาเป็นศาสนาหลัก, จึงทำบุญอุทิศตามคติความเชื่อทางพุทธศาสนา.…

“ผีกะ” ผีพื้นบ้านภาคเหนือ

เจาะลึกเรื่องหลอน “ผีกะ” ผีพื้นบ้านภาคเหนือ มีที่มาอย่างไร เลี้ยงแบบไหน "ผีกะ" หรือ "ผีกละ" เป็นส่วนหนึ่งของชนิดของผีที่มีตำนานและภูมิปัญญาท้องถิ่นในภาคเหนือของประเทศไทย เฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีสถานะวัฒนธรรมเฉพาะ เช่น ภาคเหนือตอนบนที่มีอาณาเขตเผ่าเลอค่า และมีการสืบทอดประเพณีอันเข้มงวด หรือในพื้นที่ที่มีความศรัทธาทางศาสนาเฉพาะ เช่น ในบริเวณที่มีคนนับถือศาสนาฮินดู ซึ่งอยู่ในพื้นที่ทางตะวันออกของภาคเหนือ "ผีกะ" มักจะถูกบอกว่าเป็นผีที่มีลักษณะหน้าตาเป็นหน้าคน แต่มีขาสามขาหรือมีหัวสามหัว และมีทั้งหางตะปู หางอาจจะมีลักษณะเป็นหางสัตว์ ทั้งหางนกหรืองู การเลี้ยงดูผีกะมักจะเกี่ยวข้องกับธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น และมักมีการตั้งนายผีกะเป็นที่เคารพและได้รับการสักการะสูงสุดจากชุมชน ตามความเชื่อท้องถิ่น ผีกะมีความสามารถในการทำดีและทำชั่ว โดยการตามคำสั่งของผู้เลี้ยงดู ถ้าผู้เลี้ยงดูดี ผีกะก็จะทำความดี…

ประวัติความเป็นมา ประเพณีแห่นางแมว

  ประเพณีแห่นางแมว เป็นประเพณีที่มีความเกี่ยวข้องกับสัตว์และมีลักษณะเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย การจัดประเพณีนี้มีรากฐานอยู่มาช้านานและเป็นที่รู้จักทั่วประเทศไทย ประเพณีนี้มักจะถูกจัดขึ้นในปีที่ไม่มีฝนตกตามฤดูการหรือฝนแลง เพื่ออ้อนวอนขอให้ฝนตกลงมาและสร้างความชุ่มชื่นให้แผ่นดินและพื้นที่ทำสวนทำไร่ของทุกคน ในประเพณีนี้ นางแมวถูกนำมาเป็นตัวแทนของสัตว์ที่สำคัญในการควบคุมหนูและสัตว์ที่ทำลายข้าวนา นางแมวจึงถือเป็นเทพธิดาแห่งนา เป็นสัญลักษณ์ของการเจริญรุ่งเรืองและความร่ำรวยในทุกๆ ด้าน ในวันจัดประเพณี ชาวบ้านจะแต่งตัวเป็นนางแมวโดยใส่ชุดปักษ์ไพ่และตกแต่งด้วยปักษ์ทองคำ และสวมเข็มขัดที่มีลวดลายนางแมว หลังจากนั้นจะมีการแห่นางแมวทั่วหมู่ในหมู่บ้านโดยมีการร้องเพลงสุดสนุกและมีพิธีการเพื่ออ้อนวอนฝน การแห่นางแมวไม่เพียงแค่เป็นกิจกรรมสันทนาการเท่านั้น แต่ยังเป็นทางให้ชาวนาได้รวมกันทำสิ่งที่ดีต่อชุมชน และส่งเสริมความเข้มแข็งของความเชื่อทางวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างยั่งยืน" ประวัติความเป็นมาและความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีแห่นางแมว "ในสังคมไทยที่มีลักษณะเป็นสังคมเกษตรกรรม การทำนาและปลูกพืชต่างๆเป็นกิจกรรมที่ขึ้นอยู่กับการได้รับน้ำฝนในฤดูกาลเกษตรกรรม. หากมีปัญหาที่เกิดขึ้นเช่น ฝนไม่ตกตามฤดูกาล ก็อาจส่งผลกระทบที่หนักแน่นต่อชาวนาชาวไร่. เพื่อต้องการให้ฝนตกลงมาเพียงพอในการทำกิจกรรมเกษตรกรรม, การทำประเพณีแห่นางแมวจึงกลายเป็นทางเลือกที่ชาวนาไร่ทั่วไปเลือกใช้. ประเพณีนี้มีรากฐานและเชื่อมโยงกับความเชื่อทางวัฒนธรรมของคนไทย. ชาวนาเชื่อว่าฝนตกลงมาเนื่องจากเทวดา, และเมื่อฝนไม่ตกจึงต้องทำพิธีขอฝนกับเทวดา. บางความเชื่อกล่าวว่าเมื่อแผ่นดินแห้งแล้ง…

ประเพณีสมโภชแม่โพสพ (ทำขวัญข้าว)

พิธีทำขวัญข้าว "พิธีทำขวัญข้าว" เป็นพิธีทางศาสนาที่เป็นส่วนสำคัญของชาวนาในประเทศไทย ซึ่งเป็นประเพณีท้องถิ่นที่แสดงถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนไทยที่มีการผูกพันกับสายน้ำมาเนิ่นนาน พิธีทำขวัญข้าวมักถูกดำเนินการหลังจากการดำนา เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนที่ร้อนของปี ซึ่งเป็นระยะเวลาตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงเดือนพฤศจิกายน ที่น้ำหลากจะเต็มตลิ่งในนาข้าว ประเพณีทำขวัญแม่โพสพ (ข้าว) เกิดขึ้นจากความเชื่อทางวัฒนธรรมว่า แม่โพสพมีพระคุณและความกรุณา จึงต้องทำขวัญเพื่อขอขมาต่อต้นข้าว มีการทำบุญทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงในสถานะข้าว เช่น เกิดข้าวต้นและการเกี่ยวข้าว บางจังหวัดมีการทำขวัญข้าวอยู่ใน 2 ช่วง คือ ช่วงที่ข้าวตั้งท้องและช่วงข้าวพร้อมเกี่ยว แต่ทุกครั้งจะมีเครื่องเซ่นที่ไม่เหมือนกัน เครื่องเซ่นของการทำขวัญข้าวตอนตั้งท้องมักมีรสเปรี้ยว อ้อย และน้ำมะพร้าว และมีของที่ใส่ลงในชะลอมเล็ก ๆ ที่มีเส้นด้ายสีแดงและสีขาว เพื่อผูกเครื่องเซ่นเข้ากับต้นข้าว นอกจากนี้ยังมีหลายอย่างอื่น…

รู้จัก “ตักบาตรเทโว” ประเพณีสำคัญช่วงออกพรรษา ต่างจากตักบาตรทั่วไปอย่างไร

"ตักบาตรเทโว" เป็นประเพณีสำคัญทางทหารในวัฒนธรรมไทยที่เกี่ยวข้องกับการทำบุญตักบาตรเพื่อเรียกร้องพระพุทธเจ้าเทโวโรหณะในวันแรมที่ 1 เดือน 11 ของทุกปี  ทุกทีมูลค่าสิ่งที่ใช้ในการตักบาตรแตกต่างกันไปตามแต่ละวัด และมีทัศนคติต่างๆ ที่เชื่อกันไป ตำนานของประเพณีนี้มีต้นกำเนิดมาจากวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังจากเทศนาอภิธรรมปิฎกโปรดพุทธมารดา ในวันที่พระองค์ทรงจำพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน พระอินทร์ได้ทำบันไดทอง บันไดแก้วมณี และบันไดเงิน ซึ่งตั้งอยู่ที่ยอดเขาสิเนรุและประตูเมืองสังกัสสนคร ต่อมาเมื่อเสด็จลงพระพุทธองค์ใช้บันไดแก้วมณีทางเทวดาลงทางบันไดทอง และมหาพรหมลงทางบันไดเงิน ประชาชนจึงตักบาตรในวันนี้เพื่อรับเสด็จพระพุทธองค์ ประเพณีนี้ยังมีการเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "วันพระเจ้าเปิดโลก" เนื่องจากวันนี้ถือเป็นเวลาที่เทวดา มนุษย์ และสัตว์นรก สามารถมองเห็นกันได้ทั้ง 3 โลก การเตรียมของที่ใช้ในการตักบาตรจะแตกต่างกันไปตามแต่ละวัด แต่ทุกที่จะมีการทำบุญตักบาตรเพื่อรับพระพุทธองค์ในวันนี้…

Ainokura และ Suganuma Village หมู่บ้าน มรดกโลก

หมู่บ้าน Ainokura และ Saganuma เป็นสองหมู่บ้านโบราณที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค Chubu ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถูกลงทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO เนื่องจากบ้านโบราณเหล่านี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากมาย นี่คือบางข้อมูลเกี่ยวกับทั้งสองหมู่บ้าน:   Ainokura Village (อายโนคุระ): ตำแหน่งท geอ่: Ainokura Village ตั้งอยู่ในอำเภอ Nanto ในจังหวัด Toyama. โครงสร้างบ้านโบราณ: Ainokura มีบ้านโบราณชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "Gassho-zukuri" ซึ่งมีหลังคาเป็นรูปหัวใจเหมือนกับมือที่รวมตัวกัน หลังคาแบบนี้มีประสิทธิภาพในการต่อต้านหิมะหนาในช่วงฤดูหนาว. ประวัติความเป็นมา:…

ประวัติลอยกระทงที่มาของวันลอยกระทง

ประวัติลอยกระทง เปิดตำนานและที่มาของ วันลอยกระทง ประวัติลอยกระทง: การลอยกระทงในวัฒนธรรมไทยและที่มาของประเพณีนี้ วันลอยกระทงเป็นประเพณีที่ซึ่งเกิดขึ้นในหลายวัฒนธรรมแถบเอเชีย ซึ่งมีหลายตำนานและเรื่องเล่าที่เป็นที่นิยมในวัฒนธรรมไทย การลอยกระทงไม่ได้มีเริ่มต้นที่ชัดเจนตั้งแต่เมื่อไร แต่มีความเชื่อว่าเป็นประเพณีที่มีต้นกำเนิดมาจากการลอยน้ำและบูชาต่อพระพุทธบาทและเทพเจ้าต่างๆ ในทางศาสนา นอกจากนี้ยังมีตำนานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลอยกระทงในหลายประเทศของเอเชีย 1. การลอยกระทงเพื่อบูชาพระพุทธบาท ในบางที่เชื่อว่าการลอยกระทงมีรากฐานจากเรื่องราวในสมัยพุทธกาล โดยเฉพาะเรื่องของพระพุทธเจ้าที่ลอยถาดทองน้ำเนินตามน้ำ เพื่อบูชาพระบาทและคาดหวังว่าพระพุทธเจ้าจะสมทบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 2. การลอยกระทงเพื่อบูชาเทพเจ้า ในวัฒนธรรมพราหมณ์-ฮินดู, การลอยกระทงมีการปฏิบัติเพื่อบูชาพระอิศวร, พระนารายณ์ และพระพรหม ซึ่งมีต้นกำเนิดจากพิธีลอยโคมประทีปในพระราชพิธีลอยพระประทีป 3. การลอยกระทงเพื่อรำลึกการปกป้องศาสนา มีตำนานที่เชื่อว่าการลอยกระทงมีต้นกำเนิดจากการปกป้องศาสนาของพญานาค ตำนานเล่าถึงการขอความช่วยเหลือจากพญานาคในการสร้างเจดีย์ ณ สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช…