ไรฝุ่น เป็นหนึ่งศัตรูตัวร้ายสำหรับระบบทางเดินหายใจและผิวหนัง ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ไรฝุ่นจะอาศัยและเติบโตบนเตียงนอนของเรา โดยไรฝุ่นเป็นตัวการที่ทำให้เกิดอาการผื่นคัน ไอจาม และน้ำมูกไหล ส่งผลให้การนอนหลับไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้นการเลือกผ้าปูที่นอนที่มีคุณสมบัติกันไรฝุ่นจึงช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพได้ สำหรับบทความนี้จะนำเสนอวิธีเลือกผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่นมาฝากกัน ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้
1. เลือกจากวัสดุที่ใช้ผลิต
ผ้าปูที่นอนในท้องตลาดมักใช้วัสดุจาก 2 ประเภทหลัก คือ ผ้าฝ้ายและผ้าโพลีเอสเตอร์ ซึ่งวัสดุทั้งสองประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้ :
- ผ้าฝ้าย (Cotton): เป็นเส้นใยจากธรรมชาติที่มีความทนทานและนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้นและไม่ร้อน แต่มีข้อเสียคือยับง่ายและรีดยาก
- ผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester): เป็นเส้นใยที่ความเหนียว ทนทานต่อความร้อน แม้จะไม่นุ่มเท่าผ้าฝ้าย แต่โดดเด่นในเรื่องการดูแลรักษา และรีดง่าย
นอกจากนี้ ผ้าปูที่นอนบางยี่ห้อยังได้ผสมวัสดุทั้งสองประเภทเข้าด้วยกัน เพื่อผสมผสานจุดเด่น และลดจุดด้อยของแต่ละวัสดุ
2. เลือกจากจำนวนเส้นด้ายที่ใช้ผลิต
นอกจากวัสดุของผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่นแล้ว, การตรวจสอบจำนวนเส้นด้าย (Thread Count) เป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีผลต่อความนุ่มสบายของผ้าปูที่นอน เนื่องจากจำนวนเส้นด้ายมีความสัมพันธ์กับความละเอียดของผ้าปูที่นอน
ปกติแล้ว, จำนวนเส้นด้ายจะระบุในรายละเอียดของผ้าปูที่นอน โดยนับจำนวนเส้นด้ายต่อตารางนิ้วหรือตารางเซนติเมตร มาตรฐานของผ้าปูที่นอนคุณภาพดีทั่วไปจะมีจำนวนเส้นด้ายอยู่ที่ 300 – 500 เส้นต่อตารางนิ้ว
ความละเอียดของผ้าปูที่นอนส่งผลต่อความสบายของผิวหนัง เพราะยิ่งมีเส้นด้ายมากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้ผ้าปูที่นอนมีการสัมผัสที่เนียนละเอียดมากขึ้น
3. เลือกจากเครื่องนอนที่มาพร้อมผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่นแบบครบเซ็ต
เพื่อป้องกันไรฝุ่นอย่างเต็มรูปแบบ จึงควรพิจารณาเลือกผ้าปูที่นอนที่มาพร้อมเครื่องนอนกันไรฝุ่นทั้งหมอนและผ้าห่ม เนื่องจากไรฝุ่นไม่ได้อาศัยอยู่เฉพาะบนเตียงนอนเท่านั้น แต่ยังพบได้ทั้งหมอนและผ้าห่ม การเลือกเครื่องนอนที่สามารถกันไรฝุ่นได้ครบวงจร จึงจะช่วยป้องกันไรฝุ่นอย่างเต็มที่
หากเราไม่ให้ความสำคัญกับการกันไรฝุ่นในทุกชิ้นของเครื่องนอน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเผชิญกับปัญหาผิวหนังและทางเดินหายใจ การที่เครื่องนอนไม่สามารถป้องกันไรฝุ่นได้ครบวงจรอาจส่งผลให้เกิดอาการแพ้และมีแนวโน้มที่จะเป็นภูมิแพ้มากขึ้นได้
4. เลือกจากผ้าปูนที่นอนที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้
เพื่อความสะดวกสบายและความสะอาดในการใช้งาน จึงควรพิจารณาเลือกผ้าปูที่นอนที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้ โดยเฉพาะที่นอนสำหรับเด็กเล็ก เนื่องจากเด็ก ๆ มักมีปัญหาเรื่องนม อ้วก หรือปัสสาวะรดที่นอน การเลือกผ้าปูที่นอนที่กันน้ำจะช่วยลดภาระในการซักและทำความสะอาดบ่อย ๆ นอกจากนี้ผ้าปูที่นอนที่กันน้ำยังเหมาะสำหรับสภาพอากาศร้อน เนื่องจากมันช่วยกันเหงื่อซึมซับเข้าไปที่ผ้าปูที่นอน ซึ่งอาจเป็นที่อยู่ของเชื้อโรคได้ด้วย