ดงพญาเย็น: สถานที่ผจญภัยในตำนานไทย
ย้อนหลังไปในอดีตมากกว่า 120 ปี ป่าดงดิบที่กว้างใหญ่ระหว่างที่ราบลุ่มภาคกลางและที่ราบสูงภาคอีสานถูกเคลือบด้วยตำนานของเทือกเขาพนมดงรัก ที่เรียกกันว่า “ดงพญาไฟ” มีเรื่องราวที่น่าสะท้อนอักษรในเส้นทางของชาวบ้านนครราชสีมาและสระบุรี
ในอดีตหนึ่ง ขุนบรมราชาได้สร้างเมืองขวางทะบุรีและประกาศห้ามการฆ่าสัตว์ในวันพระ เมื่อพระยาแถนทราบถึงการละเมิดนี้ ได้ส่งงูร้ายมาทำอันตรายในเมือง ทั้งคนทั้งประชาชนเจ็บป่วยล้มตาย ต่อมา คัทธกุมาร ราชธิดาของเจ้าผู้ครองเมือง รู้จักชื่อว่าคัทธกุมาร ร่วมทราบข่าวและได้ร่วมพยายามทำให้มีแสงสว่างในเมือง งูร้ายที่ทำความร้ายคนทั้งเมืองจึงถูกทำลาย และคัทธกุมารได้ชุบชีวิตใหม่พร้อมกับพระชาติและไพร่บ้านทั้งหลาย
ด้วยความกล้าหาญและพลังของคัทธกุมาร พระยาแถนได้ทราบว่า ที่ดงพญาไฟจะมีการละเมิดห้ามหลังจากการสร้างเมืองขวางทะบุรี ทางเดินผ่านดงนี้มีความยากลำบากต้องเดินเท้า ด้วยเรื่องราวนี้ทางเจ้าหลายคนเดินทางไปภาคอีสานจึงต้องพักแรมถึง 2 คืนในป่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่น่ากลัว โดยต้องเสียบูรพาจากสัตว์ป่าทั้งหลาย
ดงพญาเย็น: ทางผ่านที่กลางความสงบในป่า
ในสมัยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้มีการสร้างทางรถไฟผ่านดงพญาไฟ เพื่อให้การเดินทางทางทั้งหลายสะดวกสบายขึ้น สู่เมืองนครราชสีมา ในช่วงนั้นเป็นช่องทางเดินทางที่สำคัญมีเพียงเส้นทางเดียว โดยต้องเดินเท้าตลอดทางและผ่านป่าที่อุดมไปด้วยสัตว์ร้ายและความเสี่ยงต่อชีวิต
ดงพญาเย็น: เส้นทางสุดปลอดภัยในท้องถิ่น
พระองค์ท่านพระนิพนธ์ได้เล่าถึงป่าดงพญาเย็นในเส้นทางรถไฟ ในสมัยรัชกาลที่ 4 พระองค์ท่านได้แก้ชื่อเป็น “ดงพญาเย็น” เพื่อให้ไม่มีความกลัวและน่าสงสารในชื่อของที่นี้ ตั้งแต่นั้นมีการเรียกดงนี้ว่า “ดงพญาเย็น” จนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่คนนิยมใช้ทางรถไฟที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และป่านี้กลับกลายเป็นที่รู้จักและสวยงามในบรรยากาศของธรรมชาติ และมีเรื่องราวที่น่าสนใจจากอดีตที่ผ่านมา ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น “ดงพญาเย็น” หรือ “ดงพญาไฟ” กลับกลายเป็นชื่อเสียงที่มีเรื่องราวน่าสนใจที่ผู้คนนิยมและต้องการสำรวจไปทุกที