ส้มโอ: ประโยชน์ สรรพคุณ โทษ ข้อควรระวัง

ส้มโอ: ประโยชน์ สรรพคุณ โทษ ข้อควรระวัง

ส้มโอ (Pomelo)

ส้มโอ (Pomelo) หรือที่มักเรียกกันว่าโกรัยตะลอง มะขุน มะโอ ส้มมะโอ ลีมาบาลี หรือสังอู เป็นพืชที่มีผลลักษณะใหญ่ที่สุดในตระกูลส้ม ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของส้มโอคือ Citrus maxima และเป็นผลไม้ที่คนไทยชอบรับประทานมากในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากมีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน และเป็นแหล่งของวิตามินซีที่สูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย นอกจากนี้ยังมีปริมาณน้ำมากทำให้ช่วยบรรเทาอาการกระหายน้ำได้ดีอีกด้วย

ส้มโอมีกำเนิดที่อาศัยอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประเทศจีนเป็นหนึ่งในที่มาของส้มโอที่มีชื่อเสียง เชื่อกันว่าส้มโอเป็นสัญลักษณ์ของความมงคลและโชคดี ซึ่งจึงเป็นที่นิยมที่จะนำส้มโอขึ้นโต๊ะในงานเฉลิมฉลองต่างๆ และหลังจากทำการไหว้บูชาเสร็จสิ้นก็มักจะตัดส้มโอเป็นชิ้นแล้วผ่าออกเป็นผลแห้ง ซึ่งเชื่อว่าจะนำโชคดีมาให้ตลอดทั้งปี

ลักษณะทางกายภาพของส้มโอ

เมื่อพูดถึงลักษณะทางกายภาพของส้มโอ จะพบว่ามันมีลักษณะทรงกลมหรือทรงแพร์ที่ตั้งอยู่รอบๆ ศูนย์กลาง มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 11-17 เซนติเมตร และบริเวณขั้วผลจะนูนขึ้นมาเป็นกระจุกเล็กๆ ผลส้มโอเมื่อยังอ่อนจะมีสีเขียว แต่เมื่อแก่มากขึ้นจะเป็นสีเขียวอมเหลือง ผิวของส้มโอมีความหนาประมาณ 1-2 เซนติเมตร และมีเปลือกที่เรียบ มีการสร้างต่อมน้ำมันอยู่มากๆ ในเปลือก ภายในผลจะมีเยื่อสีขาวหรือสีชมพูซึ่งมีลักษณะเนื้อหยุ่นนุ่ม และมีรสชาติที่หวาน และเล็กน้อยขม

นอกจากนี้ภายในผลยังมีช่องๆ ที่กั้นด้วยแผ่นใยบางสีขาวอีกด้วย ทำให้ส้มโอมีความเป็นเอกลักษณ์และเป็นที่รู้จักในวงกว้างของผู้ชื่นชอบผลไม้ทั่วโลก

 

ประโยชน์ สรรพคุณของ ส้มโอ ผลไม้น้ำเยอะ รสหวาน วิตามินซีสูง

คุณค่าทางโภชนาการของส้มโอ

ส้มโอเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แม้ว่าขนาดของส้มโอจะใหญ่มาก แต่มันมีพลังงานที่ไม่สูงมากนัก แต่มีประโยชน์ทางโภชนาการอย่างมาก หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ส้มโอน่าสนใจมากขึ้นคือการมีปริมาณวิตามินซีที่สูง ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญที่มนุษย์ต้องการในการรักษาสุขภาพของผิวหนังและระบบภูมิคุ้มกัน

นอกจากนี้ ส้มโอยังมีสารอาหารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ใยอาหารที่ช่วยในกระบวนการขับถ่ายและสมดุลในระบบย่อยอาหาร และสารอาหารเสริมอื่นๆ เช่น แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม และอื่นๆ อีกมากมาย

แต่ควรระวังในการรับประทานส้มโอในช่วงท้องว่าง เนื่องจากมีปริมาณวิตามินซีที่สูง อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารได้ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องแผลในกระเพาะอาหาร ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานส้มโอในช่วงท้องว่าง รวมถึงการบริโภคส้มโอที่มีรสชาติเปรี้ยวมากๆ อย่างเช่นในกรณีที่เป็นส้มโอที่ไม่สุกเต็มที่ ซึ่งอาจทำให้ระบบย่อยอาหารไม่ทำงานได้ดีและทำให้เกิดความระคายเคืองในกระเพาะอาหารได้ ดังนั้น ควรรับประทานส้มโอในช่วงเวลาที่มีอาหารอื่นๆ เข้าสู่กระเพาะอาหารด้วย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาในระบบย่อยอาหาร

ส้มโอ: ประโยชน์ สรรพคุณ โทษ ข้อควรระวัง | HDmall

สรรพคุณของส้มโอ

ส้มโอเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ การบำรุงร่างกาย หรือการป้องกันโรคต่างๆ ส้มโอมีผลมากในการส่งเสริมสุขภาพอย่างครอบคลุม

1. ลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ: การรับประทานส้มโออย่างสม่ำเสมอช่วยในการลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ สารชนิดหนึ่งที่อยู่ในน้ำมันของส้มโอมีคุณสมบัติในการช่วยยืดอายุของเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด และป้องกันอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคหัวใจ

2. บำรุงตับ: สารสกัดจากใบส้มโอช่วยลดการสะสมสารพิษในตับและป้องกันการทำลายตับจากสารพิษเช่นแอลกอฮอล์และคาร์บอนเตตระคลอไรด์

3. รักษาเบาหวาน: สารสกัดจากส้มโอสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ ทำให้ส้มโอเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีเบาหวาน

4. ลดอาการเบื่ออาหาร: รสชาติเปรี้ยวอมหวานของส้มโอช่วยกระตุ้นการอาหารและลดอาการเบื่ออาหารได้

5. รักษาเลือดออกตามไรฟัน: วิตามินซีที่มีมากในส้มโอช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันและลดอาการเหงือกอักเสบ

6. เพิ่มภูมิต้านทาน: วิตามินซีช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหวัด

7. บำรุงดวงตา: ส้มโอมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงดวงตา เช่น วิตามินเอ ซึ่งทำให้ดวงตาแข็งแรงและแจ่มใส

8. ระบบขับถ่ายดีขึ้น: ใยอาหารสูงในส้มโอช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

9.บำรุงเส้นผม: ส้มโอมีส่วนผสมที่ช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและเงางาม

10. ย่อยอาหาร: ใยอาหารที่มากในส้มโอช่วยในกระบวนการย่อยอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ

11. ต่อต้านอนุมูลอิสระ: วิตามินซีในส้มโอเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันริ้วรอย แผลเป็น และควบคุมระดับน้ำหนัก

12. รักษามะเร็ง: สารสกัดจากใบส้มโอมีศักยภาพในการป้องกันและรักษามะเร็งได้

ส้มโอเป็นผลไม้ที่มีผลต่อสุขภาพอย่างมากมาย การรับประทานส้มโออย่างเหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรงและสมบูรณ์อย่างมีความสุข

กิน 'ส้มโอ' ตรงฤดูกาล | ผลไม้หน้าฝน รสสดชื่น – The Gen C Blog

เปลือกส้มโอสามารถใช้เป็นยาสารพัดประโยชน์

เปลือกส้มโอมักถูกนำมาใช้ในการแพทย์เป็นยาสมุนไพรต่างๆ เพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่พบบ่อยในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังมีการนำเปลือกส้มโอมาใช้ในการบำบัดโรคต่างๆ ในตำราแพทย์จีนและไทยอีกด้วย

การใช้เป็นยาหอม:
เปลือกส้มโอมีกลิ่นหอมฉุนเล็กน้อยที่เป็นลักษณะเฉพาะ หลายครั้งมันถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งของยาหอมเพื่อบรรเทาอาการต่าง ๆ อาทิเช่น วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือถ้าไม่ชอบกลิ่นเปลือกส้มโอ สามารถนำเปลือกมาจิ้มกับยาหอมแล้วรับประทานได้

ส้มโอ : สรรพคุณและข้อควรระวัง | ส้มโอ

การใช้ในการแพทย์:
แก้ไอและลมพิษ: การต้มเปลือกส้มโอด้วยน้ำสะอาดและนำมาอาบโดยรับประทานวันละ 1-2 ครั้ง สามารถช่วยบรรเทาผื่นคันจากลมพิษได้
แก้เสมหะ เปลือกส้มโอใช้ในการผสมเป็นส่วนผสมของยาหอมที่มีสมบัติแก้เสมหะ โดยช่วยลดการทำงานของเสมหะในระบบทางเดินหายใจ
ปรุงเป็นยาหอม: เปลือกส้มโอใช้ในการปรุงเป็นยาหอมที่มีสมบัติบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต และช่วยแก้อาการต่าง ๆ ได้

เมนูสุขภาพที่ทำจากส้มโอ:

1. ยำส้มโอกุ้งสด: ส้มโอมีรสชาติเฉพาะตัวที่เหมาะกับการนำมาประกอบอาหารประเภทยำ โดยส่วนผสมของกุ้งสดจะเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติอีกที
2. เมี่ยงส้มโอไก่กรอบ: เมนูนี้นำส้มโอมาผสมกับเนื้อไก่ที่ถูกคั่วกรอ