วันเด็กแห่งชาติ คำขวัญวันเด็ก ประวัติวันเด็ก
คำขวัญวันเด็ก
วันเด็กแห่งชาติในประเทศไทยถูกกำหนดให้เป็นวันที่เสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม ซึ่งนับเป็นวันหยุดราชการ. นายกรัฐมนตรีไทยมีการให้คำขวัญเกี่ยวกับวันเด็กนี้. แม้ว่าวันเด็กแห่งชาติจะเป็นวันหยุดราชการ, แต่ไม่มีกำหนดให้มีการชดเชยในวันทำการถัดไป.
วันเด็กแห่งชาติเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2498, โดยในช่วงนั้นกำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมเป็นวันเด็กแห่งชาติ. แต่ในปี พ.ศ. 2506 มีมติเปลี่ยนแปลงวันเด็กแห่งชาติใหม่ให้เป็นวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม. การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้งานวันเด็กเริ่มจัดขึ้นในปี พ.ศ. 2508 เป็นต้นมา.
ประวัติวันเด็ก
วันเด็กแห่งชาติในประเทศไทยมีกำหนดการจัดขึ้นครั้งแรกในวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม พ.ศ. 2498 ตามคำเชิญชวนของนาย วี.เอ็ม. กุลกานี ผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศแห่งสหประชาชาติ.
เป้าหมายหลักของงานนี้คือการทำให้ประชาชนเห็นความสำคัญและความต้องการของเด็ก, พร้อมทั้งกระตุ้นให้เด็กเข้าใจบทบาทของตนในสังคม. งานนี้มีเป้าหมายในการปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม, เตรียมพร้อมกับการขึ้นเป็นกำลังของชาติ.
รัฐบาลไทยในปีที่งานเริ่มจัดได้จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ, รัฐวิสาหกิจ, และเอกชน เพื่อจัดให้มีการเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค.
การจัดงานวันเด็กแห่งชาติมีจุดประสงค์เพื่อให้เด็กทั่วประเทศได้เรียนรู้ถึงสิทธิ, หน้าที่, ความรับผิดชอบ, และระเบียบวินัยของตนเองในสังคม. นอกจากนี้, เด็กได้รับการสอนให้มีความยึดมั่นในสถาบันชาติ, ศาสนา, พระมหากษัตริย์, และระบอบประชาธิปไตย.
วันเด็กถูกกำหนดให้มีการจัดงานแห่งชาติทุกปี โดยมีการเปลี่ยนแปลงวันจัดงานมาตามปี พ.ศ. 2508 เพื่อให้ตรงกับสภาพอากาศและการมีวันหยุดราชการ. จากนั้น, งานวันเด็กได้กลายเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นในช่วงที่หมดฤดูฝนและมีวันหยุดราชการมาจนถึงปัจจุบัน.
คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ: ตำนานที่สืบทอดมา
ในแต่ละปีของงานวันเด็กแห่งชาติ, นายกรัฐมนตรีไทยมักจะมอบคำขวัญที่จะเป็นแรงบันดาลใจและแนวทางในการพัฒนาเด็กโดยเฉพาะ. คำขวัญนี้มีความสำคัญมากและถูกสืบทอดมาตลอดปีก่อน. ในปี พ.ศ. 2499, จอมพล ป. พิบูลสงคราม, นายกรัฐมนตรีที่เวลานั้น, ให้คำขวัญวันเด็กแห่งชาติครั้งแรก
ความว่า “จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม”
เป็นคำขวัญวันเด็กครั้งแรกและครั้งเดียวของจอมพล ป. พิบูลสงคราม
ต่อมาในสมัยของนายกรัฐมนตรี จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ให้คำขวัญวันเด็กไว้ดังนี้
พ.ศ. 2502 “ขอให้เด็กในสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า”
พ.ศ. 2503 “ขอให้เด็กในสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด”
พ.ศ. 2504 “ขอให้เด็กในสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย”
พ.ศ. 2505 “ขอให้เด็กในสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด”
พ.ศ. 2506 “ขอให้เด็กในสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ขยันหมั่นเพียร”
วันเด็กแห่งชาติ กำหนดจัดงานในวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม และได้ยึดปฏิบัติเรื่อยมาจนถึง พ.ศ. 2506 คณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติมีความเห็นว่า ควรเลื่อนกำหนดการจัดงานวันเด็ก เพราะเหตุที่ว่าเดือนตุลาคมของไทยนั้นอยู่ในช่วงฤดูฝน มีฝนตกชุก เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของเด็กที่จะมาร่วมทำกิจกรรม
ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์. พ.ศ. 2507 จึงมีมติเปลี่ยนกำหนดการจัดงานวันเด็กแห่งชาติจากวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม เป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
“รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” คือคำขวัญวันเด็กแห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2566 จากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
คำขวัญวันเด็กที่ พลเอก ประยุทธ์ ได้ให้ไว้ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีดังนี้
พ.ศ. 2558 “ความรู้ คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต”
พ.ศ. 2559 “เด็กดี หมั่นเพียร เรียนรู้สู่อนาคต”
พ.ศ. 2560 “เด็กไทย ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง”
พ.ศ. 2561 “รู้คิด รู้เท่าทัน สร้างสรรค์เทคโนโลยี”
พ.ศ. 2562 “เด็ก เยาวชน จิตอาสา ร่วมพัฒนาชาติ”
พ.ศ. 2563 “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู็หน้าที่พลเมือง”
พ.ศ. 2564 “เด็กไทยวิถีใหม่ รวมไทยสร้างชาติ ด้วยภักดีมีคุณธรรม”
พ.ศ. 2565 “รู้คิด รอบคอบ รับผิดชอบต่อสังคม”
พ.ศ. 2566 “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี”
ส่วนคำขวัญวันเด็กแห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2567 จากนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน คือ “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย”