“บัวรดน้ำ” เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับชาวสวน ชาวไร่ และผู้ที่รักการปลูกต้นไม้ เพราะการรดน้ำเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกต้นไม้ต้องการในการเจริญเติบโต แม้ว่ารูปทรงและขนาดของบัวรดน้ำจะหลากหลาย และบางครั้งอาจทำให้ไม่แน่ใจว่าบัวรดน้ำแบบใดเหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์การปลูกต้นไม้ของเรา นอกจากนี้ บัวรดน้ำยังเป็นอุปกรณ์ที่เราใช้แทบทุกวัน ดังนั้น เราควรใส่ใจในการเลือกซื้อบัวรดน้ำอย่างเหมาะสม เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน
ในบทความนี้ เราจะแบ่งปันเคล็ดลับดี ๆ เกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อบัวรดน้ำที่เหมาะสมทั้งสำหรับชาวสวน และผู้ที่กำลังปลูกต้นไม้ในบ้านหรือคอนโด เพื่อช่วยให้คุณประหยัดเวลาและเงินทอง มาติดตามรายละเอียดเหล่านี้พร้อมกันเลย
ปัจจัยสำคัญในการเลือกบัวรดน้ำ
เมื่อคุณกำลังเลือกบัวรดน้ำสำหรับใช้ในสวนหรือสวนผลไม้ของคุณ ควรพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด นอกจากขนาดและรูปทรงของปากบัวรดน้ำแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรพิจารณาด้วยดังนี้ :
1. เลือกบัวรดน้ำที่มีขนาดความจุให้เหมาะสมกับต้นไม้ที่เราปลูก
เมื่อพิจารณาถึงการเลือกบัวรดน้ำสำหรับต้นไม้ เราควรใส่ใจกับหลักสำคัญที่สุด ซึ่งคือการเลือกปริมาณน้ำที่เหมาะสมกับขนาดของต้นไม้ตามกระถางที่ใช้ ในกรณีทั่วไป เราควรพิจารณาจากขนาดของกระถาง โดยให้ความสำคัญกับการให้น้ำไหลลงมาถึงดินในกระถางอย่างเพียงพอ เช่น กระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 15 เซนติเมตร ควรใช้บัวรดน้ำที่มีความจุอยู่ระหว่าง 100 – 600 มิลลิลิตร ส่วนกระถางขนาด 21 เซนติเมตร ควรใช้บัวรดน้ำที่มีความจุมากกว่า 600 มิลลิลิตร
นอกจากนี้ เรายังต้องคำนึงถึงการเลือกซื้อบัวรดน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งานด้วย ซึ่งบัวรดน้ำที่มีปริมาณน้ำมากจะมีข้อดีที่ไม่ต้องเติมน้ำบ่อย ๆ แต่ก็มักมีน้ำหนักที่มากและเทอะทะ เมื่อใช้งานนานอาจทำให้เจ็บข้อมือได้ ดังนั้น เราควรพิจารณาอย่างละเอียดทั้งในด้านของต้นไม้และความสะดวกสบายของผู้ใช้งานก่อนที่จะเลือกซื้อบัวรดน้ำลงในกระถางของเรา
2. เลือกปากของบัวรดน้ำให้เหมาะสมกับต้นไม้ที่เราปลูก
ปากของบัวรดน้ำจะมี 2 แบบด้วยกัน คือ บัวรดน้ำแบบปากยาว กับบัวรดน้ำแบบรูเล็กละเอียดคล้ายฝักบัวอาบน้ำ ซึ่งทั้งสองแบบเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้
- บัวรดน้ำแบบปากยาว เหมาะสำหรับคนที่ปลูกต้นไม้ในพื้นที่จำกัด เช่น ในห้องหรือคอนโด เนื่องจากปลายปากของบัวรดน้ำค่อนข้างแคบ จึงรดลงไปได้อย่างตรงจุดมากกว่า
- บัวรดน้ำแบบฝักบัวอาบน้ำเหมาะสำหรับคนที่ต้องการรดน้ำต้นไม้ให้มีวงกว้างและละอองน้ำที่ละเอียดและนุ่มนวลยิ่งขึ้น การยกปากบัวรดน้ำสูงขึ้นอีกนิดจะทำให้สายน้ำละเอียดและบอบช้ำยากขึ้น ทำให้ต้นไม้ลูกรักไม่เสียหายง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นบัวรดน้ำที่สามารถถอดปากเปลี่ยนได้ ก็จะช่วยให้การรดน้ำต้นไม้สะดวกมากขึ้น เพราะสามารถรดน้ำต้นไม้ได้ตั้งแต่กระถางเล็กไปจนถึงต้นไม้ใหญ่ในสวนกว้าง
3. เลือกวัสดุที่ใช้ผลิตบัวรดน้ำตามลักษณะการใช้งาน
บัวรดน้ำผลิตจากวัสดุที่หลากหลาย ซึ่งวัสดุแต่ละประเภท ก็อาจจะเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ตามรายละเอียดดังนี้
- บัวรดน้ำที่ผลิตจากวัสดุดีบุก หรือสังกะสี
บัวรดน้ำจากวัสดุประเภทนี้จะเหมาะกับสวนที่ประดับประดาด้วยของเก่า ของสะสม จากวัสดุเหลือใช้ ซึ่งบัวรดน้ำดีบุกมีสีสันให้เลือกมากมาย ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ อย่างมาก เมื่อนำมาใช้ตกแต่งในสวน จะช่วยให้สวนดูสวยสดใสและเก๋ไก๋มากยิ่งขึ้น แต่สำหรับคนที่ต้องการความทนทานในการใช้งาน เราแนะนำให้เลือกบัวรดน้ำที่ผลิตจากสังกะสีแทน
- บัวรดน้ำที่ผลิตจากสแตนเลส
จุดเด่นของบัวรดน้ำที่ทำจากสเตนเลสคือความแข็งแรงและทนทานต่อสนิม ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม มีบางประเภทของสเตนเลสที่มีการผสมนิกเกิลหรือโครเมียมเข้าไป ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป สเตนเลสชนิดนี้อาจเกิดการสนิมได้ เนื่องจากมีปฏิกิริยากับออกซิเจนหรือสารอื่นในอากาศ อย่างไรก็ตาม การผสมโครเมียมในปริมาณที่มากขึ้นจะช่วยเสริมเกราะป้องกันและเพิ่มความทนทานให้กับสเตนเลส
สำหรับวัสดุโลหะอื่น ๆ เช่น สังกะสีและอะลูมิเนียม มีโอกาสถูกสนิมเกาะกินได้ง่าย ดังนั้น ผู้ที่เลือกใช้บัวรดน้ำจากวัสดุเหล่านี้ควรระมัดระวังเพื่อป้องกันการสนิมในระยะยาว
- บัวรดน้ำที่ผลิตจากพลาสติก
สำหรับผู้ที่ต้องการบัวรดน้ำที่มีน้ำหนักเบา เราขอแนะนำให้เลือกบัวรดน้ำทำจากพลาสติก แม้จะต้องเติมน้ำลงไป แต่บัวรดน้ำพลาสติกยังคงมีน้ำหนักเบาและใช้งานได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ พลาสติกยังเป็นวัสดุที่ไม่เป็นสนิมง่าย และมีหลากหลายสีสันให้เลือก ตั้งแต่สีสดใสจนถึงสีโปร่งแสง เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้ซื้อ นอกจากนี้ การซื้อบัวรดน้ำพลาสติกยังทำให้มั่นใจได้ว่า บัวรดน้ำนี้จะเป็นคู่ความสวยงามของสวนของคุณอย่างยาวนาน
4. หากต้องรดน้ำต้นไม้เป็นประจำ ควรเลือกบัวรดน้ำที่น้ำหนักเบา ไม่หนักจนเกินไป
นอกจากการคำนึงถึงปริมาณความจุของบัวรดน้ำแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรละเลยคือ น้ำหนักของบัวรดน้ำ แน่นอนว่า เมื่อเราเติมน้ำลงไปแล้ว บัวรดน้ำก็จะมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม หากใครต้องใช้บัวรดน้ำเป็นประจำทุกวัน การถือบัวรดน้ำที่มีน้ำหนักมากเป็นประจำอาจส่งผลเสียในระยะยาวได้ ดังนั้น คุณควรเลือกซื้อบัวรดน้ำโดยพิจารณาถึงน้ำหนักหลังเติมน้ำลงไปด้วย
นอกจากนี้ วัสดุบางประเภทยังมีผลต่อน้ำหนักของบัวรดน้ำด้วย เช่น วัสดุโลหะที่จะมีน้ำหนักมากกว่าพลาสติก เป็นต้น ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อบัวรดน้ำ อย่าลืมลองยกหรือถือด้วยตนเองเพื่อเช็กน้ำหนักของวัสดุให้สอดคล้องกับการใช้งานของคุณ แต่ในกรณีที่สั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ เราขอแนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดสินค้าให้รอบคอบหรือสอบถามกับพนักงานขายให้แน่ใจก่อนทำการสั่งซื้อ
