ไม้กวาดถือเป็นไอเทมคู่บ้านคู่ครัวของบ้านทุก ๆ หลังเลย ว่าได้เพราะเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างมากในการกวาดพื้นทำความสะอาดห้องนอนและห้องครัวต่าง ๆ การที่ไม้กวาดได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ส่วนหนึ่งเพราะราคาไม่แพงมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องดูดฝุ่น นอกจากนี้ยังใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่เปลืองไฟ และยังจัดเก็บได้สะดวกโดยไม่เกะกะอีกด้วย
ในบทความนี้เราจะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อไม้กวาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งการเลือกซื้อไม้กวาดอาจจะดูเป็นเรื่องง่าย เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติใด ๆ ที่ต้องคำนึงถึงมากนัก แต่ประเด็นนี้จริงๆ แล้วมีความสำคัญมาก เนื่องจากประเภทของไม้กวาดมีหลากหลาย ซึ่งการเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของวัสดุ ขนาด หรือด้ามจับ การเลือกซื้อไม้กวาดที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่สำคัญและควรให้ความสำคัญกับมันอย่างเท่าเทียมกับการเลือกซื้ออุปกรณ์อื่น ๆ ในบ้านไปด้วย
วิธีการเลือกซื้อไม้กวาดที่ใช้งานได้อย่างเหมาะสม
เรื่องวิธีการเลือกไม้กวาดมีความสำคัญมาก เนื่องจากมีหลายสิ่งที่ต้องใส่ใจ เช่น วัสดุของขนแปรง น้ำหนักของด้ามจับ และความหนาแน่นของขนแปรง ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักวิธีการเลือกไม้กวาดอย่างละเอียด ดังนี้
1. เลือกวัสดุของขนแปรงไม้กวาดตามการใช้งานเพื่อผลลัพธ์ที่ดี
ขนแปรงของไม้กวาดเป็นส่วนสำคัญที่สุด ดังนั้นการเลือกขนแปรงที่เหมาะสมจะมีผลต่อประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
โดยปกติแล้ว ขนแปรงของไม้กวาดมี 2 แบบคือ วัสดุธรรมชาติและวัสดุสังเคราะห์ แต่ละชนิดมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน
1) ขนแปรงไม้กวาดที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ
เป็นไม้กวาดแบบดั้งเดิม โดยวัสดุที่นำมาใช้ก็มีหลากหลาย แต่ที่ยอดนิยมที่สุดคือ ดอกหญ้า หรือที่เราเรียกว่า ไม้กวาดดอกหญ้า ซึ่งไม้กวาดประเภทนี้มีจุดเด่นในเรื่องของราคาที่ถูกกว่าไม้กวาดที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ อีกทั้งยังกวาดได้ดี ไม่มีฝุ่นผงเล็ดลอดให้รำคาญใจ ขนแปรงก็อ่อนนุ่ม ทำให้ฝุ่นผงที่กวาดไม่กระเด็นกระดอน ที่สำคัญ ถือเป็นการอุดหนุนภูมิปัญหาชาวบ้านอีกหนึ่งช่องทางด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม้กวาดที่มีขนแปรงทำจากวัสดุธรรมชาติก็มีข้อเสียคือ ห้ามใช้กวาดในที่เปียก ต้องกวาดในที่แห้งเท่านั้น รวมไปถึงเมื่อใช้ไปนาน ๆ ขนแปรงมักจะหลุดร่วงออก ซึ่งก็อาจจะทำให้รำคาญใจที่ต้องเก็บกวาดพอสมควร
2) ขนแปรงไม้กวาดที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์
ไม้กวาดที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ เช่น ไนลอน พลาสติก เป็นต้น เป็นไม้กวาดรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาของขนไม้กวาดที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เพราะเป็นขนไม้กวาดที่สามารถกวาดได้แม้ในพื้นที่เปียก แถมตัวขนแปรงก็มีความแข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่ายเหมือนวัสดุธรรมชาติ
แต่ถึงกระนั้น ไม้กวาดที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ก็มีข้อเสียในเรื่องของราคาที่สูงกว่า รวมไปถึงขนแปรงที่ค่อนข้างแข็ง เมื่อใช้กวาดฝุ่นผงมักจะมีเศษฝุ่นผงเล็ดลอดออกมา หรือเกิดการกระเด็นกระดอนในขณะที่กวาดได้ง่าย ทำให้ความนิยมในการใช้ไม้กวาดที่ขนแปรงทำจากวัสดุสังเคราะห์อาจจะยังไม่มากเท่ากับวัสดุธรรมชาติ
2. เลือกไม้กวาดที่มีขนแปรงแน่น
ไม้กวาดที่ดีคือไม้กวาดที่มีขนแปรงไม้กวาดแน่น เพราะขนแปรงไม้กวาดที่แน่นนั้น นอกจากจะช่วยให้การกวาดฝุ่นผงบนพื้นได้ดีและไม่มีเล็ดลอดออกไปในขณะกวาด ก็ยังช่วยให้ขนแปรงไม่หลุดร่วงได้ง่าย สามารถใช้กวาดได้นาน และไม่ก่อความรำคาญในขณะที่กวาดบ้าน
นอกจากนี้ ขนแปรงไม้กวาดที่แน่นยังช่วยให้เราออกแรงในการกวาดได้ดีขึ้น ซึ่งสามารถกวาดคราบสิ่งสกปรกที่ยึดแน่นตามพื้นได้มากขึ้นอีกด้วย ดังนั้น เพื่อการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ และไม่รำคาญใจเวลาเศษไม้กวาดร่วงหล่นตามพื้น ขอแนะนำให้เลือกซื้อไม้กวาดที่ขนแปรงแน่นจะดีที่สุด
3. เลือกด้ามจับไม้กวาดที่แข็งแรงทนทาน และมีน้ำหนักเบา
ในส่วนของด้ามไม้กวาดมักจะทำมาจากวัสดุอยู่ 3 ชนิด คือ พลาสติก ไม้ และโลหะ พลาสติกนั้นแม้จะมีความแข็งแรงทนทานน้อยที่สุด แต่ก็มีน้ำหนักเบา ไม่ต้องการการดูแลมากนัก ส่วนแบบไม้อาจจะหนักขึ้นมาสักนิด แต่ก็มีความแข็งแรงทนทานที่มากกว่า แต่ข้อเสียก็คือหากโดนน้ำแล้วเกิดความชื้นอาจจะก่อให้เกิดเชื้อราได้ จึงจำเป็นต้องหมั่นเช็ดให้แห้งเสมอ เช่นเดียวกับแบบโลหะที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องความทนทานแข็งแรง แต่ก็มีน้ำหนักมาก แถมใช้ไปนาน ๆ ก็อาจมีสนิมได้เช่นกัน
หากวัดในเรื่องความนิยมแล้ว ไม้กวาดที่มีด้ามจับเป็นไม้และพลาสติกจะได้รับความนิยมที่สุด แต่หากจะเลือกไม้กวาดที่เหมาะสมกับการใช้งานที่สุดนั้น เราขอแนะนำให้เน้นเลือกไม้กวาดที่มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงทนทาน ไม่ว่าจะเป็นด้ามจับแบบใด เพื่อที่จะใช้กวาดได้สะอาดมากขึ้น และกวาดได้นานโดยไม่เมื่อยมือ
4. เลือกด้ามไม้กวาดที่มีความยาวเหมาะสมกับการใช้งาน
การตรวจสอบความยาวของด้ามไม้กวาดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าหากด้ามไม้กวาดมีความยาวที่ไม่สอดคล้องกับลักษณะความต้องการใช้งาน ก็จะทำให้การทำความสะอาดไม่มีประสิทธิภาพ
ในท้องตลาดมีทั้งไม้กวาดด้ามยาวและด้ามสั้น โดยปกติแล้วจะมีให้เลือกตั้งแต่ 15 ซม. ไปจนถึง 100 ซม. โดยที่นิยมจะเป็นแบบด้ามที่มีความยาวประมาณ 100 ซม. ที่เหมาะสำหรับกวาดพื้นทั่วไป ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องก้ม
แต่ถ้าคุณต้องการกวาดสิ่งสกปรกบนโต๊ะทำงาน เราขอแนะนำด้ามสั้น เพราะจะใช้งานง่ายกว่า นอกจากนี้ ยังมีไม้กวาดที่สามารถปรับความยาวได้เพื่อใช้กวาดหยากไย่โดยเฉพาะ