บรรเทาอาการเจ็บคอด้วยอาหารและเคล็ดลับที่ง่ายดาย
การรับรู้ถึงอาการเจ็บคอเป็นเรื่องที่คนหลายคนคุ้นเคย ซึ่งมักจะเกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อลำคอ เช่น ผนังช่องคอ ต่อมทอนซิล หรือกล่องเสียง อาการเจ็บคอส่วนมากจะเพิ่มขึ้นเมื่อกลืนอาหาร และการรักษาอาการไอมักเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
นอกจากการรับประทานยาแก้ไอแล้ว ยังมีอาหารบางอย่างที่สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้อีกด้วย เช่น น้ำอุ่น ซุปไก่ ชาเขียว น้ำขิง และข้าวโอ๊ต ซึ่งมีสารอาหารและสมบัติที่ช่วยลดอาการอักเสบของลำคอได้ดี
น้ำอุ่นมีคุณสมบัติในการช่วยลดการระคายเคืองและทำให้รู้สึกสบายคอ ซึ่งช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อลำคอได้ เพราะการรับประทานน้ำเพียงพอช่วยให้ร่างกายมีความชุ่มชื้นพอเพียง เพื่อต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียได้อย่างดี
สำหรับซุปไก่ นอกจากที่เป็นอาหารยอดฮิตสำหรับการรักษาอาการเจ็บคอแล้ว ยังมีโซเดียมที่ช่วยลดอาการอักเสบ และเหมาะสำหรับคนที่มีอาการเจ็บคอมาก ๆ
การดื่มชาเขียวอุ่นๆ ช่วยให้รู้สึกสบายคอ และช่วยรักษาอาการติดเชื้อ และช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้อีกด้วย
น้ำขิงมีสรรพคุณในการรักษาไข้หวัดและฆ่าเชื้อ สูตรง่ายๆ ในการทำน้ำขิงก็สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สุดท้าย ข้าวโอ๊ตไม่เพียงแต่เป็นอาหารที่อ่อนโยนต่อคอ ยังมีสารอาหารและไฟเบอร์มากมายที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงขึ้นได้อีกด้วย
ดังนั้น หากคุณมีอาการเจ็บคอ อาจลองบรรเทาด้วยวิธีนี้ดูได้นะคะ และอย่าลืมรับประทานยาแก้ไอตามคำแนะนำของแพทย์อีกด้วยนะคะ ทุกคำแนะนำที่ให้มีไว้เพียงเป็นการแนะนำเท่านั้น หากอาการมีความรุนแรงหรือไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมที่สุดค่ะ
เจ็บคอนานๆ อาจไม่ใช่แค่เป็นหวัด!!
**เจ็บคอนานๆ อาจไม่ใช่แค่เป็นหวัด!!**
การเจ็บคอนานๆ อาจไม่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อหวัดเท่านั้น แทนที่จะเป็นผลมาจากไวรัสหรือแบคทีเรีย เจ็บคอยังอาจมาจากสาเหตุอื่น เมื่อเจ็บคอนานๆ ควรระวังอาการที่เกิดขึ้น เพราะอาจเป็นสัญญาณบอกว่ามีโรคร้ายอยู่ในร่างกาย
อาการที่ควรสังเกตเมื่อเจ็บคอนานๆ ได้แก่
– เจ็บคอติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์
– เจ็บคอบ่อยๆ แม้จะทานยาแก้อักเสบก็ไม่หาย
– เจ็บคอพร้อมกับมีไข้ติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์
– เจ็บคอทำให้หายใจลำบาก
– กลืนลำบาก แม้แค่กลืนน้ำลายก็รู้สึกเจ็บ
หากพบอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม
เพื่อป้องกันการระบาดของโรคร้าย ควรสังเกตอาการและปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไปนี้
– หากมีไข้หรือปวดหัว ให้รับประทานยาพาราเซตามอล
– พักผ่อนให้เพียงพอและควรอยู่บ้าน
– รักษาระยะห่างจากบุคคลอื่น และไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
อาการที่พบบ่อยในผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ Omicron ได้แก่ ปวดศีรษะ มีน้ำมูก เจ็บคอ มีไข้ และอาจไม่ค่อยสูญเสียการรับรส หากมีอาการเช่นนี้ แนะนำให้รีบพบแพทย์ เพื่อการรักษาและการจัดการอย่างทันท่วงที