เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด 10 USB HUB ที่ควรคำนึงถึงในปี 2024

เลือกซื้อ USB HUB ในปี 2024: คำแนะนำและรายชื่อยี่ห้อยอดนิยม

ในปี 2024 นี้ เราได้เห็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่งของเทคโนโลยีที่ทำให้การใช้งานอุปกรณ์ไอทีมีความสะดวกสบายมากขึ้น โดย USB HUB เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และในบทความนี้ เราได้รวบรวม USB HUB ที่เป็นที่นิยมในปี 2024 มาฝากคุณ รวมทั้งวิธีการเลือก USB HUB ที่เหมาะสม พร้อมกับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีด้วย ตามนี้เลยครับ!

วิธีการเลือก USB HUB ที่เหมาะสม

  1. ประเภทของพอร์ต: ควรพิจารณาจำนวนและประเภทของพอร์ตที่ต้องการ รวมถึง USB Type A และ USB Type C ซึ่งช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ทั้งแบบใหม่และเก่าได้
  2. ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล: ควรเลือก USB HUB ที่มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูง เช่น USB 3.0 หรือสูงกว่า เพื่อให้การถ่ายโอนข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็ว
  3. ความสามารถในการจ่ายไฟ: หากคุณต้องการใช้งานอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงาน เช่น ฮาร์ดไดรฟ์พอร์ต หรืออุปกรณ์ชาร์จ ควรเลือก USB HUB ที่สามารถจ่ายไฟได้
  4. ความพอดีของขนาด: ควรเลือก USB HUB ที่มีขนาดที่พอดีกับการใช้งานของคุณ ไม่ใหญ่เกินไปทำให้ไม่สะดวกต่อการพกพา หรือไม่เล็กเกินไปทำให้ใช้งานไม่สะดวก
  5. ความทนทานและความเสถียรภาพ: ควรเลือก USB HUB ที่มีความทนทานและเสถียรภาพที่ดี เพื่อป้องกันการเสียหายหรือปัญหาในการใช้งานในอนาคต

10 อันดับ USB HUB ยี่ห้อดีประจำปี 2024

  1. Belkin USB-C Multimedia Hub
  2. Vention 7-in-1 USB-C Hub
  3. ORICO Aluminum USB 3.0 Hub
  4. UGREEN 9-in-1 USB-C Hub
  5. Anker PowerExpand+ 7-in-1 USB-C PD Ethernet Hub
  6. HyperDrive 18-in-1 USB-C Hub
  7. Satechi Aluminum Multi-Port Adapter V2
  8. Anker 4-Port USB 3.0 Ultra Slim Data Hub
  9. Aukey USB-C Hub 12-in-1 Type C Adapter with Ethernet
  10. Sabrent Premium 4 Port Aluminum USB 3.0 Hub

การเลือกซื้อ USB HUB ที่เหมาะสมให้กับคุณคือการพิจารณาความต้องการในการใช้งานและคุณสมบัติของอุปกรณ์ โดยควรเลือก USB HUB ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อทั้ง USB Type A และ USB Type C พร้อมกับความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลที่สูงและความเสถียรภาพที่ดี อีกทั้งยังควรพิจารณาเลือกใช้จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้เพื่อความพึงพอใจในการใช้งานอย่างยาวนาน

การเรียบเรียงบทความ: USB HUB คืออะไร  มีแบบไหนบ้าง

USB Hub (Universal Serial Bus Hub) เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มจำนวนพอร์ต USB บนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีพอร์ต USB จำกัด เพื่อให้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB ได้พร้อมกันหลายตัว มันมีทั้งหมด 2 ประเภท คือ

1. USB Hub ประเภทไม่สามารถต่อไฟเลี้ยงได้ (Bus-Powered)

อุปกรณ์ประเภทนี้จะใช้พลังงานจากคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเพื่อให้พลังงานแก่อุปกรณ์ที่ต่ออยู่ ทำให้สามารถเสียบแล้วใช้งานได้ทันที แต่หากนำไปเสียบกับโน้ตบุ๊กที่มีแบตเตอรี่จำกัดอาจทำให้ระยะเวลาการใช้งานลดลงและมีอาการไฟไม่เพียงพอเมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บางอย่าง

2. USB Hub ประเภทต่อไฟเลี้ยงเพิ่มเองได้ (Self-Powered)

อุปกรณ์ประเภทนี้มีสายเสียบไฟเพิ่มเติม ทำให้สามารถให้พลังงานแก่อุปกรณ์ที่ต่ออยู่ได้เองโดยไม่ต้องใช้พลังงานจากคอมพิวเตอร์ ข้อดีคือสามารถทำการชาร์จอุปกรณ์แบบ Fast Charging ได้ และยังสามารถจ่ายไฟให้เพียงพอกับอุปกรณ์บางอย่างที่ต้องการไฟเลี้ยงพิเศษ แต่ในทางกลับกันก็อาจไม่ค่อยสะดวกสบายนักสำหรับการใช้งานแบบพกพาเนื่องจากต้องการการเสียบปลั๊กไฟเพิ่ม

USB Hub เหมาะสำหรับผู้ที่มีคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่มีจำนวนพอร์ต USB จำกัดและต้องการเพิ่มพอร์ตเพื่อให้สามารถต่อเชื่อมต่ออุปกรณ์มากขึ้น ช่วยเพิ่มจำนวนพอร์ต USB ให้มีความสามารถในการเชื่อมต่อมากขึ้น และช่วยให้การจัดการอุปกรณ์ที่ต่อกับคอมพิวเตอร์เป็นไปได้อย่างสะดวก ในกรณีของ USB Hub ประเภท Self-Powered ยังสามารถให้พลังงานแก่อุปกรณ์ได้เองอีกด้วย

เลือกซื้อ USB HUB ในปี 2024 การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

วิธีการเลือก USB HUB

การเลือกซื้อ USB HUB อาจดูง่ายแต่ในความเป็นจริงแล้วมีข้อควรระวังหลายประการ ดังนี้ค่ะ:

  1. การใช้งานและต่อกับคอมพิวเตอร์ / แล็ปท็อป:
    • สำหรับการใช้งานกับคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป เลือก USB Hub ประเภทไม่สามารถต่อไฟเลี้ยงได้
    • USB Hub ประเภทนี้สะดวกและเหมาะสำหรับการพกพา เพราะไม่ต้องใช้ปลั๊กไฟเสริม และมักมีราคาไม่แพง
  2. การใช้งานกับทีวี, โปรเจคเตอร์, สแกนเนอร์:
    • สำหรับการใช้งานกับทีวี, โปรเจคเตอร์, สแกนเนอร์ เลือก USB Hub ประเภทต่อไฟเลี้ยงเพิ่มเองได้
    • ควรเลือก USB Hub ที่มีพอร์ต USB 3.0 หรือสูงกว่า เพื่อความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล
  3. ความยาวของสาย USB:
    • ควรพิจารณาความยาวของสาย USB ตามการใช้งาน เพื่อความสะดวกในการต่อและการใช้งาน
    • สาย USB 2.0 สามารถทนได้ประมาณ 5 เมตร ส่วนสาย USB 3.0 สามารถทนได้ประมาณ 3 เมตร
  4. วัสดุของ USB Hub:
    • เลือก USB Hub ที่มีวัสดุที่ทนทานและไม่ร้อน เช่น โลหะหรือพลาสติกที่สามารถระบายความร้อนได้ดี
    • ควรตรวจสอบรีวิวจากผู้ใช้งานเกี่ยวกับความร้อนของอุปกรณ์เพื่อความมั่นใจในการเลือกซื้อ
  5. ความต้องการในการจ่ายไฟ:
    • หากต้องการใช้งานกับอุปกรณ์ที่กินพลังงานมากหรือมีการทำงานต่อเนื่อง ควรเลือก USB Hub ประเภทต่อไฟเลี้ยงเพิ่มเองได้ เพื่อความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลและรองรับการใช้งานของอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเลือก USB HUB ไม่ใช่เรื่องง่ายเพียงแค่ดูเผิน ๆ เพราะมีความสำคัญในการตรวจสอบรายละเอียดเล็กน้อยเพื่อให้ได้ผลการใช้งานที่ดีและปลอดภัยในระยะยาวค่ะ

เลือก USB HUB ที่มีสวิตช์แยกแต่ละตัวเพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน

การเลือกซื้อ USB HUB ที่มีสวิตช์แยกแต่ละตัวช่วยควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถปิด-เปิดตามต้องการเพื่อป้องกันการชำรุดที่อาจเกิดขึ้นจากการถอดหรือเสียบอุปกรณ์ในขณะที่อุปกรณ์อื่นกำลังทำงานได้ นอกจากนี้ยังช่วยในการจัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ USB และปิดการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้งาน ทำให้การใช้งาน USB Hub เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ขยายความสามารถของอุปกรณ์ของคุณด้วย USB HUB ยอดนิยมในปี 2024

วิธีการเลือก USB HUB ที่มีสวิตช์แยกแต่ละตัว

  1. การใช้งาน:
    • เลือก USB HUB ที่มีสวิตช์เพื่อควบคุมการเชื่อมต่ออุปกรณ์ตามความต้องการ
    • ช่วยลดการใช้พลังงานของอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้งาน และป้องกันการชำรุดจากการถอดหรือเสียบอุปกรณ์ในขณะที่อุปกรณ์อื่นกำลังทำงาน
  2. ความต้องการของ Connector:
    • ตรวจสอบชนิดของ Connector ที่ USB HUB รองรับ เพื่อให้เข้ากับอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ
    • ควรพิจารณาชนิดของ Connector เช่น Type-A, Type-B, Type-B Micro, หรือ Type-C ตามความเหมาะสมของอุปกรณ์
  3. ความสะดวกสบาย:
    • เลือก USB HUB ที่มีจำนวนพอร์ตและความสามารถต่อเชื่อมต่อที่เหมาะสมกับความต้องการ
    • ควรเลือก USB HUB ที่มีพอร์ตที่ต้องการ เช่น SD Card Slot, HDMI Port, หรือ Port สายแลน (Ethernet Port) ตามความต้องการใช้งาน
  4. คุณภาพวัสดุ:
    • เลือก USB HUB ที่มีวัสดุที่ทนทานและไม่ร้อน เช่น โลหะหรือพลาสติก
    • ควรตรวจสอบรีวิวเกี่ยวกับความร้อนของอุปกรณ์เพื่อความมั่นใจในการเลือกซื้อ

การเลือก USB HUB ที่มีสวิตช์แยกแต่ละตัวเป็นการลงมือที่สำคัญ เพื่อให้การใช้งานอุปกรณ์ USB ของคุณมีประสิทธิภาพและปลอดภัยตามต้องการค่ะ

4 ตรวจสอบรุ่น USB เพื่อเลือก USB HUB ให้ตรงกับการใช้งานในยุคปัจจุบันนี้ รุ่นของ USB HUB มีหลายชนิดและมีความสามารถในการส่งข้อมูลที่แตกต่างกันออกไปอย่างมาก การเลือก USB HUB ที่ตรงกับการใช้งานของคุณมีความสำคัญมาก เพื่อให้คุณได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด ดังนั้น มาดูกันว่ารุ่น USB ต่าง ๆ มีคุณสมบัติอย่างไรและเหมาะกับการใช้งานอย่างไรบ้าง

USB 2.0

  • ความเร็วในการถ่ายโอน: สูงสุด 480 Mbps
  • เหมาะกับการใช้งาน: ทั่วไป, เช่น เมาส์, คีย์บอร์ด, หรืออุปกรณ์พกพา

USB 3.2 Gen 1

  • ความเร็วในการถ่ายโอน: สูงสุด 5 Gbps
  • เหมาะกับการใช้งาน: การถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็ว, เช่น ฮาร์ดไดรฟ์พกพาหรือกล้องถ่ายรูป

USB 3.2 Gen 2

  • ความเร็วในการถ่ายโอน: สูงสุด 10 Gbps
  • เหมาะกับการใช้งาน: การถ่ายโอนวิดีโอ HD, การเชื่อมต่อ SSD

USB 3.2 Gen 2×2

  • ความเร็วในการถ่ายโอน: สูงสุด 20 Gbps
  • เหมาะกับการใช้งาน: การถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่, การใช้งานที่ต้องการความเร็วสูงมาก

USB 4

  • ความเร็วในการถ่ายโอน: สูงสุด 40 Gbps
  • เหมาะกับการใช้งาน: การถ่ายโอนข้อมูลที่มีปริมาณมาก, การใช้งานที่ต้องการความเร็วที่มีประสิทธิภาพ

การเลือก USB HUB ที่มีรุ่นที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของคุณเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณได้ประสบการณ์การใช้งานที่มีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของคุณอย่างแท้จริง หากคุณมีความจำเป็นที่จะถ่ายโอนข้อมูลอย่างรวดเร็วหรือต้องการความเร็วที่มีประสิทธิภาพสูง คุณอาจต้องพิจารณาการใช้งานรุ่น USB ที่มีความเร็วสูงกว่า

5 เลือกจำนวนพอร์ตสำหรับ USB Hub

การเลือกจำนวนพอร์ตของ USB Hub มีผลต่อความสะดวกในการเชื่อมต่ออุปกรณ์และควรเลือกตามความต้องการและจุดประสงค์ในการใช้งาน หากต้องการใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้มีการเชื่อมต่อมาก เราแนะนำจำนวนพอร์ตที่ 4-8 พอร์ต แต่ถ้ามีความต้องการในการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกันควรเลือก USB Hub ที่มีจำนวนพอร์ตมากขึ้น ควรใช้ประมาณ 10-12 พอร์ตหรือมากกว่านั้น

การมีจำนวนพอร์ตมากกว่า 4-8 พอร์ต เหมาะสำหรับการใช้งานที่ไม่มีความต้องการในการเชื่อมต่อมาก ๆ หรือการใช้งานที่ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกัน เช่น ใช้งานในบ้านหรือในสำนักงานทั่วไป ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พื้นฐานได้อย่างสะดวกสบาย

สำหรับการใช้งานที่มีความต้องการในการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกัน เช่น ในสถานที่ที่ต้องการการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลาย ๆ ตัวเพื่อการทำงานหรือบันทึกข้อมูล เราแนะนำให้เลือก USB Hub ที่มีจำนวนพอร์ตประมาณ 10-12 พอร์ตหรือมากกว่านั้น เพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่คุณต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย

ดังนั้น การเลือกจำนวนพอร์ตของ USB Hub นั้นควรพิจารณาจากความต้องการและการใช้งานของคุณอย่างละเอียด เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดที่เหมาะกับคุณ