10 หูฟังบลูทูธที่ควรพิจารณาในปี 2023
หูฟังบลูทูธที่คุณควรพิจารณาในปี 2023: เสียงดี แบตทน และคุณภาพเยี่ยม หูฟังไร้สายหรือหูฟังบลูทูธ (Bluetooth) ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเนื่องจากความสะดวกสบายที่มีให้ผู้ใช้ โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีบลูทูธเพื่อให้ฟังเพลงได้ทุกที่โดยไม่มีสายมากวน และมีความคล่องตัวสูง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานทุกสถานการณ์ เช่น การฟังเพลง การออกกำลังกาย การเล่นเกม และการสนทนาทางโทรศัพท์ได้ชัดเจน นอกจากนี้ หูฟังบลูทูธในปัจจุบันยังมีคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมและมีแบตเตอรี่ที่ทนนาน บางรุ่นยังมีความกันน้ำและฝุ่นอีกด้วย การเลือกหูฟังบลูทูธที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณไม่ยากนัก
วิธีการเลือกหูฟังบลูทูธ
1. คุณภาพเสียง: ค้นหาหูฟังที่มีเสียงที่คมชัดและมีการดีไซน์ที่สามารถตอบสนองต่อแบบเสียงที่คุณชื่นชอบ
2. แบตเตอรี่: ตรวจสอบว่าหูฟังมีแบตเตอรี่ที่ทนนานเพียงพอสำหรับการใช้งานของคุณ
3. การกันน้ำและฝุ่น: หากคุณต้องการใช้งานในสถานการณ์ที่อาจมีน้ำหรือฝุ่น ควรเลือกหูฟังที่มีความกันน้ำและฝุ่น
การเลือกหูฟังบลูทูธที่เหมาะสม
การเลือกหูฟังบลูทูธที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานของเราไม่ใช่เรื่องยาก นอกจากนี้การตัดสินใจยังขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลักและความต้องการเฉพาะของเราเอง ดังนั้น ข้าพเจ้าขอนำเสนอวิธีการเลือกหูฟังบลูทูธตามประเภทการใช้งานต่าง ๆ พร้อมกับคำแนะนำหูฟังที่คุ้มค่าในปี 2023 ต่อไปนี้:
1. หูฟังสำหรับการคุยโทรศัพท์
หากคุณใช้หูฟังส่วนใหญ่เพื่อการคุยโทรศัพท์ ควรเลือกหูฟังที่มีการออกแบบเพื่อการคุยอย่างชัดเจนและสะดวกสบาย เช่น หูฟังโมโน (Mono) ที่มีข้างเดียวหรือหูฟัง Earbuds ที่ไม่มีจุก ที่ช่วยลดอาการล้าในระหว่างการใช้งาน แนะนำ: Sony WH-1000XM4 หรือ Jabra Elite 75t
2. หูฟังสำหรับเล่นเกม
สำหรับสายเกมเมอร์ ควรเลือกหูฟังที่มีฟังก์ชัน Game mode ที่มีสัญญาณนิ่งและแบตเตอรี่ที่ทนนาน เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด แนะนำ: Sennheiser Momentum True Wireless 2 หรือ Bose QuietComfort Earbuds
3. หูฟังสำหรับการออกกำลังกาย
หากใช้งานในสถานการณ์ที่ต้องเจอน้ำหรือฝุ่น ควรเลือกหูฟังที่มีการกันน้ำและฝุ่น เช่น หูฟัง Bone Conduction หรือ In-ear ที่มีการตัดเสียงรบกวนภายนอก แนะนำ: Samsung Galaxy Buds Proหรือ Anker Soundcore Liberty Air 2 Pro
4. หูฟังสำหรับการฟังเพลงทั่วไป
สำหรับการฟังเพลงทั่วไป ควรเลือกหูฟังที่มีระบบเสียงสเตอริโอ (Stereo) และ Over-Ear ที่มีเวทีเสียงกว้าง แนะนำ: Apple AirPods Pro หรือ Beats Powerbeats Pro
ฟังก์ชันเพิ่มเติมที่ควรพิจารณา
Noise Cancelling (ตัดเสียงรบกวน): สำหรับการฟังเพลงหรือการเดินทางในสถานที่ที่มีเสียงรบกวนมาก
Transparency mode (โหมดการได้ยินเสียงภายนอก): ช่วยให้ได้ยินเสียงภายนอกโดยไม่ต้องถอดหูฟัง
ด้วยการพิจารณาเหล่านี้ คุณจะสามารถเลือกหูฟังบลูทูธที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างแม่นยำ
เลือกตามประเภทของหูฟังบลูทูธ
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกหูฟังบลูทูธแบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานหรือไลฟ์สไตล์ของคุณ ลองพิจารณาจากประเภทของหูฟังบลูทูธและเปรียบเทียบว่าเหมาะกับการใช้งานหรือไม่:
1. หูฟังบลูทูธแบบ Mono
เหมาะสำหรับ: การคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา คุยงาน คุยประชุม การขับรถหรือเดินทาง
แนะนำ: Sony WH-1000XM4, Jabra Elite 75t
2. หูฟังบลูทูธแบบ In-Ear
เหมาะสำหรับ: การฟังเพลง ดูหนัง ออกกำลังกาย เล่นเกม
แนะนำ: Samsung Galaxy Buds Pro, Anker Soundcore Liberty Air 2 Pro
3. หูฟังบลูทูธแบบครอบหู (Over-Ear)
เหมาะสำหรับ: ประสบการณ์การฟังเพลงที่ดีที่สุด, การสวมใส่ที่สบาย, การออกกำลังกาย
แนะนำ: Apple AirPods Pro, Beats Powerbeats Pro
4. หูฟัง Bone Conduction
เหมาะสำหรับ: นักกีฬา, ผู้ที่ต้องการฟังเสียงภายนอกและเพลงพร้อมกัน
ข้อควรระวัง: อาจไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการอรรถรสในการฟังเพลงมาก
ด้วยข้อมูลนี้, คุณสามารถทำการเลือกหูฟังบลูทูธที่ตรงกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณได้อย่างแม่นยำครับ.
1. JBL Tour Pro 2
หูฟัง JBL Tour Pro 2 ไม่เพียงเตรียมพร้อมด้วยคุณสมบัติที่ทำให้ต่างไปจากหูฟังทั่วๆ ไป แต่ยังเสนอประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ธรรมดา ด้วยดีไซน์ที่คึกคักและคมชัดของหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 1.45 นิ้ว ที่บอกถึงสถานะของหูฟังอย่างครบถ้วน ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถควบคุมหูฟังได้โดยตรงผ่านหน้าจอนี้ด้วย
เมื่อเราพูดถึงคุณภาพเสียง JBL Tour Pro 2 ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 10 มม. และเทคโนโลยีเสียง Legendary Pro Sound ที่ทำให้เสียงแบบเบสแน่นกระชับและรายละเอียดมีครบทุกรายละเอียด ทำให้คุณได้ยินเสียงที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมาตรฐานที่สูงสุด
แถมทั้งมีแบตเตอรี่ที่ทนทานถึง 10 ชั่วโมง ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเสียงดนตรีหรือการสนทนาได้โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดในทางกลับบ้าน ด้วยคุณสมบัติที่ครบครันและความสวยงามที่นับถือ JBL Tour Pro 2 เป็นหูฟังที่จะทำให้คุณตกหลุมรักจนไม่อยากถอนหูฟังออกอีกต่อไป
2. BOSE QuitComfort Ultra
4. SONY WH-1000XM5
SONY WH-1000XM5 หูฟัง Full Size ทรงครอบหูที่ตัดเสียงรบกวนได้ดีที่สุดทรงครอบหูที่สามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดของแบรนด์ SONY ด้วยการใช้ชิปประมวลผล Noise Cancelling 2 ตัว ได้แก่ ชิป QN1 และ V1 ที่ประมวลผลรวมกันอย่างลงตัว ทำให้รับรองคุณภาพเสียงที่ไม่มีการรบกวนจากสภาพแวดล้อมภายนอก
ด้วยการใช้ไมโครโฟน 8 ตัวที่ทำให้การสนทนาเป็นไปอย่างชัดเจนและลื่นไหล ผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์การสนทนาที่ดีที่สุด
แบตเตอรี่ที่ทนทานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง ทำให้ WH-1000XM5 เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเสีย
ระบบชาร์จเร็วที่ใช้เพียง 3 นาทีก็สามารถเล่นเพลงได้นานถึง 3 ชั่วโมง ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องรอนาน
ทั้งนี้, SONY WH-1000XM5 ยังคงเป็นหูฟังที่เน้นทุกรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นการออกแบบทรงครอบหูที่สวยงาม, คุณภาพเสียงที่ดี, และความสบายในการสวมใส่ที่นับถืออย่างสูง
EDIFIER Neobuds Pro 2: เสนอประสบการณ์การฟังที่คมชัดและเสียงเบสที่เด่นชัด
EDIFIER Neobuds Pro 2 กลับมาด้วยรุ่นอัปเกรดที่ทันสมัยและเต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้ประสบการณ์การฟังเพลงกลับมามีสีสันมากขึ้น รองรับ Codec เสียง LHDC 192 และ LHDC X ทำให้รายละเอียดของเสียงสูงสุดไปถึง 192kHz/24bit ซึ่งเป็นเล่มโซ่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ฟังที่ต้องการคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด
การจูนคาแรคเตอร์เสียงเบสได้ถูกปรับปรุงให้เด่นชัดมากยิ่งขึ้น เสียงเบสที่ชัดเจนและมีความลึก ทำให้ทุกรายละเอียดของเสียงเพลงสามารถแสดงออกมาได้อย่างเต็มที่
การรองรับการตัดเสียงรบกวน ANC ที่ถึง -50dB ทำให้ Neobuds Pro 2 เหมาะสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ จากการใช้งานในสถานที่สงบไปจนถึงการใช้งานในสถานที่ที่มีเสียงรบกวนไมโครโฟน 8 ตัวที่รองรับ IP54 ทำให้สามารถกันฝุ่นและน้ำได้ ทำให้การใช้งานสะดวกสบายในทุกสภาพแวดล้อม
EDIFIER Neobuds Pro 2 กลับมาด้วยคุณสมบัติที่ทันสมัยและเสนอประสบการณ์การฟังที่คมชัดและเสียงเบสที่เด่นชัดมากยิ่งขึ้น