แมวไม่มีขน 7 สายพันธุ์ที่คนอยากเลี้ยงแมวแต่แพ้ขนแมว

แมวไม่มีขน 7 สายพันธุ์ที่คนอยากเลี้ยงแมวแต่แพ้ขนแมวควรรู้จัก

แมวไม่มีขน 7 สายพันธุ์ที่คนอยากเลี้ยงแมวแต่แพ้ขนแมว

การมีภูมิแพ้ต่อขนแมวเป็นเรื่องที่มักจะทำให้คนหลายคนตกใจ เนื่องจากความรักและความสนใจต่อการเลี้ยงแมวมักมีมาก แต่ปัญหาของการภูมิแพ้กับขนแมวทำให้มีคำถามหลายอย่างเกี่ยวกับความเหมาะสมของการเลี้ยงแมวในบ้านที่มีสมาชิกที่เป็นโรคภูมิแพ้ แม้ว่าคำตอบอาจไม่เสมอไปตามปัญหาของแต่ละบุคคล แต่ยังมีทางเลือกอื่นๆ ที่สามารถพิจารณาได้ เช่น การเลี้ยงแมวที่ไม่มีขน หรือสายพันธุ์ที่มีขนน้อย ดังนี้

  1. Sphynx (สฟิงซ์)

    • ลักษณะที่ปรากฏ: สฟิงซ์เป็นสายพันธุ์แมวไร้ขนที่มีผิวที่อ่อนนุ่มและมีรอยย่นที่ให้ความรู้สึกเหมือนหนังกลับ
    • ลักษณะนิสัย: เป็นแมวที่น่ารัก ขี้เล่น และเข้ากับคนง่าย
    • แหล่งกำเนิด: แคนาดา
    • ราคา: 10,000-30,000 บาท

      สฟิงซ์ (Sphynx) – CAFE

  2. Bambino (แบมบิโน่)

    • ลักษณะที่ปรากฏ: มีลักษณะคล้ายสฟิงซ์แต่มีขาสั้น
    • ลักษณะนิสัย: สืบทอดธรรมชาติที่เป็นมิตรและขี้เล่น
    • แหล่งกำเนิด: สหรัฐอเมริกา
    • ราคา: 40,000-50,000 บาท

      12.แมวแบมบิโน่(Bambino Cat) | ENNXO

  3. Peterbald (ปีเตอร์บัลด์)

    • ลักษณะที่ปรากฏ: มีลักษณะของการไม่มีขนและการมีขนละเอียดมากตามร่างกาย
    • ลักษณะนิสัย: เป็นแมวที่ฉลาด คล่องแคล่ว และน่ารัก
    • แหล่งกำเนิด: รัสเซีย
    • ราคา: เริ่มต้น 30,000 บาท

      ปีเตอร์บัลด์ แมวสุดน่ารักที่เหมาะสำหรับคนเป็นโรคภูมิแพ้

  4. Don Sphynx (ดอนสคอย)

    • ลักษณะที่ปรากฏ: มีระดับของการไม่มีขนตั้งแต่หัวล้านไปจนถึงขนสั้นบางๆติดผิวเพียงนิดเดียว
    • ลักษณะนิสัย: เป็นแมวที่ฉลาด ชอบเข้าสังคม รักใคร่ และขี้สงสัย
    • แหล่งกำเนิด: รัสเซีย
    • ราคา: เริ่มต้น 35,000 บาท

      ดอนสกอย แมวที่มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแมวสฟิงซ์ - guscats

  5. Ukrainian Levkoy (ยูเครเนียน เลฟคอย)

    • ลักษณะที่ปรากฏ: มีหูพับและร่างกายไม่มีขนหรือเกือบไม่มีขน
    • ลักษณะนิสัย: เป็นแมวที่อ่อนโยน สงบ และเป็นมิตร
    • แหล่งกำเนิด: ยูเครน
    • ราคา: เริ่มต้น 50,000 บาท

      แมวยูเครเนียน เลฟคอย - Meowbarn

  6. Elf Cat (เอลฟ์ แคท)

    • ลักษณะที่ปรากฏ: ลูกผสมระหว่างสฟิงซ์และ American Curl
    • ลักษณะนิสัย: มิตรและน่ารัก
    • แหล่งกำเนิด: สหรัฐอเมริกา
    • ราคา: เริ่มต้น 70,000 บาท

      Elf เอลฟ์ (สฟิงซ์หูพลิก) ใบเพ็ดwcf พร้อมย้ายบ้าน | แคทดีวา  แหล่งรวมความรู้เรื่องแมว ประกาศซื้อขายแมว ฟรี

  7. Dwelf (ดเวลฟ์)

    • ลักษณะที่ปรากฏ: ผสมสายพันธุ์ Sphynx, Munchkin, และ American Curl มีขาสั้นและหูม้วนงอ
    • ลักษณะนิสัย: ที่รักใคร่ ขี้เล่น และชอบอยู่ร่วมกับมนุษย์
    • แหล่งกำเนิด: สหรัฐอเมริกา
    • ราคา: เริ่มต้น 90,000 บาท

      แมวสฟิงซ์ ตาสองสี ดเวลฟ์ (Dwelf) ขาสั้น+หูพลิก ชาย ใบเพ็ด WCF มีคลิป  รายละเอียดโพสต์ | ใครตามหาสัตว์เลี้ยงมาที่ pecgoของสัตว์เลี้ยง

ข้อควรระวังในการเลี้ยงแมวไม่มีขน

การเลี้ยงแมวที่ไม่มีขนมีข้อควรระวังและควรพิจารณาที่สำคัญที่คุณควรรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณสนใจเป็นพ่อแมวแม่แมวมือใหม่ แม้ว่าแมวเหล่านี้ส่วนมากจะอัธยาศัยดี มีเพื่อนได้หลากหลาย แต่ลักษณะเฉพาะและความต้องการในการดูแลของพวกมันก็ต้องการได้รับการเอาใจใส่เป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่อง การดูแลผิว การรักษาความสะอาด ด้านสังคมกับมนุษย์หรือแมวหมาตัวอื่น และการตรวจสุขภาพทั้งของคนและแมว ดังต่อไปนี้:

1. ความไวต่ออุณหภูมิ

แมวไม่มีขน ซึ่งไม่มีขนตามชื่อ ก็เลยไม่มีฉนวนที่กันความร้อนหรือกันความเย็นแบบที่แมวมีขนมี ทำให้พวกเขาไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ น้องแมวจะเป็นหวัดได้ง่าย ดังนั้นคุณต้องมีพื้นที่อบอุ่นให้น้องแมว และจัดหาผ้าห่มหรือเสื้อผ้าที่นุ่มสบายให้พวกมันในช่วงเดือนที่อากาศหนาวเย็น

2. การป้องกันแสงแดด กันผิวไหม้

ในทางกลับกัน แมวไม่มีขนจะไวต่อการถูกแดดเผาเพราะไม่มีขนที่จะปกป้องผิวหนัง ต้องระวังอากาศร้อนและแดดของประเทศไทย เพราะถ้าน้องโดดแดดประเทศไทยน้องก็จะรับความร้อนได้โดยตรง ไม่มีขนมากรองหรือรองรับ และอาจเป็นฮีทสโตรกได้ จึงควรจัดที่ๆเย็นสบายไว้ให้น้องโดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนด้วย หากน้องแมวจะต้องออกไปใช้เวลากลางแจ้ง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทาครีมกันแดดที่ปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงบนผิวหนังที่สัมผัส หรืออีกทางหนึ่งคือ จำกัดการออกกลางแจ้งในช่วงเวลาที่มีแสงแดดจ้าเพราะผิวน้องแมวอาจไหม้ได้

3. การดูแลผิว การอาบน้ำ

ผิวหนังของแมวไม่มีขนจะผลิตน้ำมันที่โดยปกติแล้วจะถูกดูดซึมโดยขน ดังนั้นการอาบน้ำเป็นประจำจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันการสะสมของน้ำมันและสิ่งสกปรกบนผิวหนังของแมว ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยนสำหรับแมวโดยเฉพาะ และปฏิบัติตามคำแนะนำของสัตวแพทย์เกี่ยวกับความถี่ในการอาบน้ำ โดยเฉลี่ยแล้วให้อาบน้ำให้น้องแมวไม่มีขนสัปดาห์ละครั้ง

4. การใช้ชีวิตในร่ม

โดยทั่วไปแล้วแมวไม่มีขนจะเหมาะกับการใช้ชีวิตในร่มมากกว่า เนื่องจากมีความเปราะบางต่ออุณหภูมิที่ร้อนจัดและแสงแดดจัด นอกจากนี้ การใช้ชีวิตในร่มยังช่วยปกป้องพวกมันจากอันตราย โรคภัย และสัตว์นักล่าที่อาจเกิดขึ้นได้

5. โภชนาการ อาหารทุกอย่าง

อาหารที่สมดุลมีความสำคัญต่อสุขภาพของแมวทุกตัว รวมถึง แมวขนไม่ร่วง นี้ด้วย ให้เลือกอาหารแมวสูตรที่ไม่ใช่สำหรับบำรุงขน ถ้ามีสูตรบำรุงผิวหนังโดยตรงก็จะดี อย่าลืมทดลองให้น้องแมวทานและเปลี่ยนถ้าจำเป็นด้วย เพราะอาหารสูตรที่เหมาะสมก็สำคัญแต่ถ้าน้องแมวไม่กินก็ไร้ความหมาย คุณอาจลองปรึกษากับสัตวแพทย์ของคุณเพื่อเลือกอาหารแมวที่เหมาะสมซึ่งตรงกับความต้องการทางโภชนาการและส่งเสริมสุขภาพผิวหนังของแมวก็ได้

6. การดูแลรักษาความสะอาด (Grooming)

แม้ว่าแมวไม่มีขนจะไม่มีขนที่หลุดร่วง แต่ก็ยังต้องการการกรูมมิ่งเป็นประจำ ทำความสะอาดหูเป็นประจำ ตัดเล็บ เหมือนแมวพันธุ์อื่นๆทั่วไป และอย่าลืมเช็ดผิวหนังด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมัน ออกทุกวันเว้นวัน และอาบน้ำประมาณสัปดาห์ละครั้ง

7. ปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

แมวหลายสายพันธุ์ไม่มีขนชอบเข้าสังคมและต้องการความเป็นเพื่อนกับมนุษย์ รวมถึงเป็นเพื่อนกับแมวหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆอย่างสุนัขได้ด้วย เตรียมพร้อมที่จะใช้เวลาคุณภาพกับเหล่าน้องแมว ทำให้น้องแมวอารมณ์ดี และมีส่วนร่วมในการเล่นแบบโต้ตอบเพื่อป้องกันน้องแมวเบื่อ (เพราะเมื่อแมวเบื่อก็อาจส่งผลต่อจิตใจ หรือที่แย่พอกันคือน้องเริ่มมีพฤติกรรมทำลายข้าวของ ก็เป็นได้!)

8. ข้อควรพิจารณาด้านสุขภาพ

แมวไม่มีขนบางสายพันธุ์อาจมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง ดังนั้นการเลือกผู้เพาะพันธุ์ หรือ ฟาร์มแมว ที่มีชื่อเสียง เพราะการคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมเป็นสิ่งสำคัญ แมวควรได้รับการตรวจสุขภาพโดยสัตวแพทย์เป็นประจำ

9. การแพ้

แม้ว่าแมวไม่มีขนมักถูกมองว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ แต่บางคนอาจยังแพ้น้ำลายหรือสะเก็ดผิวหนังของพวกน้องแมวได้อยู่ดี ใช้เวลากับสายพันธุ์ที่คุณสนใจเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่มีอาการไม่พึงประสงค์ใดๆก่อนตัดสินใจรับน้องมาอยู่ด้วยกัน