เมื่อรองเท้าที่สวมใส่เป็นเวลานานจนเริ่มเสื่อมสภาพ อาจจะทำให้กาวที่ติดรองเท้าก็หลุดออกอย่างไม่คาดคิด และร้านที่ซ่อมรองเท้าอาจจะหากยา สำหรับปัญหานี้มีวิธีการแก้ไขเบื้องต้นอย่างง่าย ๆ ก็คือ “กาวติดรองเท้า” ที่มีให้เลือกในรูปแบบพกพาหรือกระปุกเล็ก ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่สามารถซ่อมเองได้ทั้งที่บ้านและนอกสถานที่
ดังนั้น บทความนี้จะแนะนำวิธีการเลือกใช้กาวติดรองเท้าให้เหมาะสมกับประเภทของรองเท้าที่คุณใช้ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้ากีฬาหรือรองเท้าทำงาน เราจะช่วยคุณเลือกกาวที่เหมาะสมที่สุด ทำให้คุณสามารถซ่อมรองเท้าได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องสูญเสียเวลาในการค้นหาร้านซ่อมรองเท้า
วิธีการเลือกกาวติดรองเท้าที่เหมาะสมกับการใช้งาน
การเลือกกาวติดรองเท้ามีความสำคัญเพราะถึงแม้ว่าจะสามารถหาซื้อได้ง่าย แต่หากไม่เลือกซื้อตามประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งาน อาจทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกกาวติดรองเท้าที่เหมาะสมกับรองเท้าของตนเองได้ตามที่ต้องการ
1. เลือกกาวติดรองเท้าให้เหมาะกับประเภทของรองเท้า
การเลือกกาวติดรองเท้าที่เหมาะกับประเภทของรองเท้าเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากกาวติดรองเท้ามีหลายประเภทที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับวัสดุของรองเท้าที่แตกต่างกัน เช่น รองเท้าหนัง รองเท้าผ้าใบ และรองเท้ากีฬา
นอกจากนี้ความยืดหยุ่นของกาวติดรองเท้าก็มีความหลากหลาย ดังนั้น การเลือกกาวติดรองเท้าต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของกาวเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานและวัสดุของรองเท้า
ตัวอย่างเช่น รองเท้ากีฬาควรเลือกกาวที่ทนน้ำได้ดีเพื่อความคงทนขณะใส่รองเท้าที่มีโอกาสถูกแช่น้ำ ส่วนรองเท้าหนังไม่ควรใช้กาวแบบร้อนเนื่องจากอาจทำให้กาวเกาะติดได้ไม่นาน และอาจสร้างคราบที่ยากต่อการทำความสะอาด ดังนั้น การก่อนการซื้อกาวติดรองเท้าควรอ่านรายละเอียดของสินค้าอย่างถี่ถ้วนและเลือกกาวที่เหมาะสมกับประเภทของรองเท้าที่คุณใช้
2. เลือกกาวติดรองเท้าที่แห้งเร็ว ไม่ต้องรอนาน
เพื่อการซ่อมแซมพื้นรองเท้าที่มีการชำรุดอย่างรวดเร็วและไม่พลาดนัดสำคัญ เราขอแนะนำวิธีใช้กาวติดรองเท้าที่มีคุณสมบัติแห้งเร็ว นี้เป็นวิธีที่สะดวกและไม่ต้องรีบไปที่ร้านซ่อมรองเท้า
- เตรียมพื้นรองเท้า: ก่อนที่จะใช้กาวควรเช็ดทำความสะอาดคราบฝุ่นที่พื้นรองเท้าด้านในให้หมดเพื่อให้กาวติดแน่นและป้องกันการหลุดของกาวขณะเดิน
- ทากาว: ทากาวติดรองเท้าให้ทั่วพื้นรองเท้าที่มีการชำรุด
- ประกบและกด: ประกบพื้นรองเท้าให้เข้ากันดีจากนั้นกดให้แน่น
- รอให้แห้ง: รอให้กาวแห้งสนิทประมาณ 10 นาที กาวจะทำหน้าที่แข็งและทนทาน ทำตามขั้นตอนนี้,คุณสามารถใช้รองเท้าของคุณได้ทันทีโดยไม่ต้องรีบไปที่ร้านซ่อมรองเท้าและมีความสะดวกสบายมากขึ้น
3. เลือกกาวติดรองเท้าแบบกันน้ำและทนความร้อนได้
รองเท้ากีฬา โดยเฉพาะรองเท้าฟุตบอลหรือรองเท้าสตั๊ด เป็นรองเท้าที่มักจะถูกใช้งานค่อนข้างสมบุกสมบัน เนื่องจากมักต้องเผชิญกับน้ำ , ฝน และโคลนแทบจะตลอดเวลา เมื่อรองเท้าถูกใช้งานบ่อยครั้ง อาจทำให้พื้นรองเท้าหลุดออกมาได้เร็วกว่ารองเท้าประเภทอื่น ดังนั้นเพื่อให้รองเท้าทนทานและให้การยึดเกาะที่ดี ควรใช้กาวติดรองเท้าที่มีคุณสมบัติกันน้ำและทนความร้อน กาวติดรองเท้าที่มีการประสานของเนื้อกาวที่เหนียวหนืดเป็นทางเลือกที่ดี เนื้อกาวที่ดีจะช่วยให้พื้นรองเท้ายึดเกาะแน่นยาวนาน และป้องกันน้ำไม่ให้ทำลายเนื้อกาว ทั้งยังสามารถกันความร้อนได้ เพื่อไม่ให้เนื้อกาวแห้งกรอบอีกด้วย
เพื่อให้การใช้กาวมีประสิทธิภาพควรเช็ดคราบสกปรกต่าง ๆ ออกและปล่อยให้แห้งสนิทก่อนที่จะทากาวลงไป
4. เลือกกาวติดรองเท้าที่ใช้งานได้กับหลายวัสดุ เช่น หนัง ผ้า โลหะ
กาวติดรองเท้าบางยี่ห้อไม่เพียงแค่ใช้กับรองเท้าเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้กับวัสดุอื่น ๆ ได้อีกด้วย เช่น หนัง , ผ้า , โลหะ , แก้ว , พลาสติก เป็นต้น นอกจากนี้กาวอเนกประสงค์เหล่านี้ยังเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าเมื่อต้องใช้กาวในงานต่าง ๆ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อกาวมากขึ้น
อย่างไรก็ตามควรระวังเมื่อใช้กาวบางยี่ห้อที่มีเนื้อสัมผัสเหนียวและความร้อนสูง ไม่ควรให้กาวโดนผิวหนัง , มือ หรือนิ้วมือ เนื่องจากอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการระคายเคือง และควรศึกษาวิธีการใช้งานของกาวและรักษาความสะอาดของสิ่งของหรือรองเท้าที่ใช้กาวติดอีกด้วย
