สุขสันต์วันฮินะ: เทศกาลน่ารักของเด็กผู้หญิงในญี่ปุ่น
เทศกาลฮินะ (Hina Matsuri) หรือฮินะ มัตสุริ เป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยเอโดะ Edo (1603-1867) ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม เป็นประจำทุกปีในประเทศญี่ปุ่น เทศกาลนี้เป็นเวลาที่ครอบครัวญี่ปุ่นและชุมชนต่างกันทั่วประเทศจะมารวมตัวเพื่อเฉลิมฉลองความสุขและความเจริญของเด็กผู้หญิง โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การจัดตุ๊กตาญี่ปุ่นและเครื่องบูชาต่างๆ ซึ่งใช้เป็นสัญลักษณ์ในการส่งเสริมความเป็นผู้หญิงที่มีคุณค่าและสุขภาพที่แข็งแรง
เทศกาลฮินะมีถิ่นกำเนิดมาจากวัฒนธรรมจีน โดยที่เครื่องบูชาและการจัดตุ๊กตามีบทบาทสำคัญในการขจัดความร้ายและเคราะห์ภาวนาให้กับเด็กผู้หญิง เพื่อให้พวกเธอเติบโตอย่างสมบูรณ์และมีความสุข ดังนั้น เทศกาลฮินะเป็นโอกาสที่ครอบครัวจะนำตุ๊กตาฮินะมาวางและจัดบูชาร่วมกัน เพื่อเชื่อมั่นในการให้พรและความอาลัยกับบ้านเรือนและบุคคลทั้งหลาย
การเตรียมตุ๊กตาฮินะนั้นเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและใช้เวลาในการจัดทำ ซึ่งเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยจะมีการเลือกสรรตุ๊กตาที่สวยงามและให้เกิดความสร้างสรรค์ หลังจากนั้น ตุ๊กตาจะถูกจัดวางลงบนชั้นหรือชุดชั้นที่เตรียมไว้ โดยมักจะมีทั้งหมด 7 ชั้น โดยตุ๊กตาเจ้าชายและเจ้าหญิงจะถูกวางไว้บนชั้นบนสุดและมีการตกแต่งด้วยของหวานและขนมหวานต่างๆ
อย่างไรก็ตาม เทศกาลฮินะไม่เพียงแค่เป็นการจัดตุ๊กตาและบูชาเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ครอบครัวและชุมชนจะมารวมตัวเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น การจัดงานเลี้ยง การทำบุญ หรือการเล่นเกมพื้นบ้านร่วมกัน เพื่อสร้างความสุขและความอบอุ่นในครอบครัวและชุมชน
นอกจากนี้ เทศกาลฮินะยังเป็นโอกาสที่ลูกสาวจะได้รับการสนับสนุนและการส่งเสริมให้เติบโตอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญในวัยเรียนและการเติบโตของเด็กผู้หญิง ซึ่งทำให้เทศกาลนี้มีความหมายอันมีความสำคัญในวงการการศึกษาและการพัฒนาบุคลิกภาพของเด็กผู้หญิง
การจัดตกแต่งตุ๊กตาฮินะบนแท่น ขั้นแรกควรเริ่มจากด้านบนลงมาดังนี้
ชั้นที่ 1: ท่านฮินะ (おひなさま) และท่านโอนาอิริ (おないりさま) ท่านฮินะเป็นผู้หญิง (おひなさま) และท่านโอนาอิริซึ่งเป็นผู้ชาย (おないりさま) ทั้ง 2 ท่านนี้เป็นองค์จักรพรรดิและองค์จักรพรรดินี
ชั้นที่ 2: พัด (ひおうぎ) เป็นพัดที่องค์จักรพรรดินีถือเวลาออกงานพิธีต่างๆ ซึ่งตามบันทึกแล้ว องค์จักรพรรดินีถือไว้เพื่อเป็นการรักษามารยาทและเพื่อปิดซ่อนใบหน้าไม่ให้ผู้คนเห็น (เนื่องจากเป็นธรรมเนียมที่องค์จักรพรรดินีต้องปกปิดใบหน้ามิให้ผู้อื่นเห็น) ในราชสำนักแล้วพัดถือเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญเป็นอย่างมาก
ชั้นที่ 3: คทา (しゃく) สิ่งที่มือของจักรพรรดิถืออยู่คือ คทา ว่ากันว่าด้านหลังของคทาที่จักรพรรดิถืออยู่นั้น จะมีลำดับพิธีการ รวมไปถึงข้อควรระวังต่างๆ ซ่อนเอาไว้อยู่
ชั้นที่ 4: สาวรับใช้ 3 คน (さんにんかんじょ) คนดูแลทรัพย์สินของจักรพรรดินี ซึ่ง 1 ใน 3 คนนี้จะมีคนที่ไม่มีคิ้วหรือคิ้วบาง หรือฟันดำ ซึ่งคนที่มีลักษณะเช่นนี้ถือว่าเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว
ชั้นที่ 5: คนบรรเลงดนตรี 5 คน (ごにんばやし) เป็นกลุ่มนักบรรเลงดนตรีผู้ชาย 5 คน เครื่องดนตรีจะเริ่มจากทางด้านขวามือโดยเรียงจากน้อยไปหามาก และคนที่อยู่ทางขวาสุดจะเป็นคนร้องเพลง ซึ่ง 1 ใน 5 คนนี้จะมี 1 คนที่ไม่ได้ถือเครื่องดนตรีใดๆ
ชั้นที่ 6: ผู้ดูแล (ずいじん) ผู้ดูแลจักรพรรดิและจักรพรรดินี ซึ่งจะเป็นรัฐมนตรีฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา 2 คน รัฐมนตรีคนซ้ายจะหันหน้าไปทาง “ขวา” ส่วนรัฐมนตรีคนขวาจะหันหน้าไปทาง “ซ้าย” โดยรัฐมนตรีคนซ้ายจะมีอายุมากกว่า
ชั้นที่ 7: คนดูแลส่วนกลาง (しちょう) ผู้แลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด
รูปแบบที่แนะนำในที่นี้เป็นการจัดเรียงแบบพื้นฐานจากบนลงล่าง ซึ่งการจัดตุ๊กตาฮินะจะเริ่มตั้งแต่ต้นฤดูใบไม้ผลิ (ประมาณวันที่ 4 กุมภาพันธ์) ไปจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และเก็บตุ๊กตาฮินะหลังจากเทศกาลตุ๊กตาสิ้นสุดลง
อาหารการกินในช่วงเทศกาล “ฮินะ มัตสึริ” (Hina Matsuri)
ในช่วงเทศกาล “ฮินะ มัตสึริ” (Hina Matsuri) เป็นประจำทุกปีในประเทศญี่ปุ่น มีการเสริมศิลปะและวัฒนธรรมทางการกินอย่างมากเพื่อเฉลิมฉลองการเจริญเติบโตของเด็กผู้หญิง อาหารที่รับประทานในเทศกาลนี้มีความหลากหลายและมีความหมายที่เฉพาะเจาะจง
- ฮิชิโมจิ (Hishimochi):
ฮิชิโมจิ (Hishimochi) เป็นอาหารที่น่ารักและสดใสที่มีรูปทรงเหมือนใบฮิชิ (Hishi) ซึ่งเป็นพืชน้ำที่ใบของมันขยายตัวขึ้นเหนือผิวน้ำเป็นสัญลักษณ์ของการเติบโตและความรุ่งเรืองตั้งแต่อดีตโบราณ ด้วยรูปร่างที่สวยงามและสีสันสดใส ฮิชิโมจิเป็นของขวัญที่ส่งต่อความหวังให้เด็กผู้หญิงเติบโตอย่างแข็งแรงและอุดมสมบูรณ์
การรับประทานฮิชิโมจิในวันเด็กผู้หญิงมีความหมายหลากหลาย ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมให้เด็กผู้หญิงเติบโตอย่างแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังเป็นการอวยพรให้เจ้าหญิงเหล่านั้นมีชีวิตที่มีความสุขและอุ่นใจอีกด้วย ด้วยความหวังและความอบอุ่นจากใจ ฮิชิโมจิเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความเอื้อเฟื้อของครอบครัวที่มอบให้กับเด็กผู้หญิงในช่วงเทศกาลฮินะมัตสึริได้อย่างเหมาะสมและสดใส
- ฮินะอาราเระ (Hina-arare):
ขนมฮินะอาราเร่ (雛あられ, Hina arare) เป็นขนมที่ทำจากข้าวและถั่วที่เคลือบน้ำตาลและใส่สีเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความสวยงาม มีรสชาติหวานอ่อนที่น่าติดใจ และมักถูกนำมาเสิร์ฟในช่วงเทศกาลฮินะมัตสึริ
เป็นที่รู้กันว่าขนมฮินะอาราเร่เป็นการพัฒนาจากฮิชิโมจิแบบดั้งเดิม โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้สามารถรับประทานได้ง่ายขึ้นเมื่อต้องการนำไปใช้ข้างนอก จึงมีการนำฮิชิโมจิมาบดและทอดเพื่อให้ได้รูปแบบของขนมฮินะอาราเร่ที่เห็นในปัจจุบัน โดยยังคงความสดใสและความหวานอ่อนที่ทำให้เป็นที่นิยมในช่วงเทศกาลฮินะมัตสึริอย่างต่อเนื่อง
- สาเกขาว:
อามะสาเก (甘酒, amazake) เป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวานซึ่งสร้างจากข้าว ชิโอะโคจิ (麹, koji) และสาเกคาสุ (酒粕, sake kasu) ซึ่งเป็นกากเหล้าญี่ปุ่นที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย
การดื่มอามะสาเกมีความหมายทางศาสนาและประเพณีมากมายในวัฒนธรรมญี่ปุ่น เชื่อว่าการดื่มอามะสาเกจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและอวยพรให้มีอายุยืนยาว นอกจากนี้ อามะสาเกยังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย
ทั้งนี้ อามะสาเกยังถือเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองในงานเฉิดฉายและเทศกาลต่าง ๆ ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำให้มันเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมและประเพณีของชาวญี่ปุ่นอย่างไม่แพ้กับอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงอย่างซูชิและสาโทะ
- ซุปหอยตลับ:
ในทุกๆ ช่วงฮินะมัตสึริ (Hina Matsuri) ชาวญี่ปุ่นจะมีประเพณีการรับประทานซุปหอยตลับ เมนูนี้ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีความหมายที่สำคัญอันซ่อนเร้นอยู่ เป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์ที่ดีและคู่สมรสที่เหมาะสม การเปลือกหอยตลับที่ประกบกันได้อย่างสมบูรณ์แบบและสนิท นั้นเพียงเพื่อคู่ของมันเท่านั้น ทำให้หอยตลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ที่แข็งแรงและยั่งยืน
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการรับประทานซุปหอยตลับก็คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ชาวญี่ปุ่นเฉลิมฉลองเทศกาลฮินะมัตสึริอย่างเต็มรูปแบบ ในช่วงเวลานี้เด็กสาวจะถูกส่งอวยพรและหวังให้พบเนื้อคู่ที่เหมาะสม และการรับประทานซุปหอยตลับก็เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมนี้ที่แสดงถึงความอบอุ่นและความหวังในความรักและความสุขของคู่รักในอนาคต
- ชิราชิซูชิ (Chirashi sushi):
จิราชิซูชิ (ちらし寿司, Chirashi sushi) เป็นรูปแบบหนึ่งของซูชิที่นำเครื่องซูชิต่าง ๆ โปะลงบนข้าวซูชิที่ผสมกับน้ำส้มสายชู เป็นการเสิร์ฟซูชิที่มีรสชาติสมดุลและรสชาติที่หลากหลายในแบบที่สวยงามและสดใส
รูปร่างและสีสันของจิราชิซูชิมักจะนับถือเป็นสิ่งที่สวยงามและน่าติดตาม นอกจากนี้ ความหมายที่ซ่อนอยู่ในเครื่องซูชิต่าง ๆ ที่โรยหน้ายังเพิ่มความน่าสนใจให้กับจิราชิซูชิอีกด้วย เช่น กุ้งที่งอโค้งแสดงถึงการยืนยาวในชีวิต หรือ รูที่ยาวลอดไปด้านหลังของรากบัวที่แสดงถึงการมองเห็นอนาคตที่กระจ่างแจ้ง เป็นต้น
จิราชิซูชิไม่เพียงแต่เป็นอาหารที่อร่อยและเพลิดเพลินใจ แต่ยังเป็นศิลปะที่แสดงถึงความสวยงามและความละเอียดอ่อนของวัฒนธรรมญี่ปุ่น
- ซากุระโมจิ: สัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิและความรักในวันเด็กผู้หญิง
ซากุระโมจิเป็นขนมโบราณของญี่ปุ่นที่ผลิตจากข้าวเหนียวผสมด้วยสีชมพู ด้วยความพิเศษของสีแม่น้ำที่สวยงามนี้ ข้าวเหนียวภายในมักจะมีไส้ถั่วแดงเพื่อเพิ่มรสชาติและความหวานอ่อน ส่วนด้านนอกของซากุระโมจิจะถูกห่อด้วยใบซากุระดองเกลือ ทำให้มีกลิ่นหอมและรสชาติเค็มโดยที่ไม่เป็นระคายเคือง
สีชมพูและสีเขียวของใบซากุระโมจิเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิที่สดใสและมีชีวิตชีวา ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่คนญี่ปุ่นมักจะรับประทานซากุระโมจิในวันเด็กผู้หญิง การสวมใส่สีสันนี้เป็นการแสดงถึงความรักและความเอื้อเฟื้อต่อเด็กผู้หญิงในช่วงเทศกาลที่มีความสำคัญนี้ของประเทศญี่ปุ่น
ดังนั้น การรับประทานอาหารในเทศกาล “ฮินะ มัตสึริ” ไม่เพียงแต่เป็นการเพลิดเพลินกับรสชาติและกลิ่นหอมของอาหาร แต่ยังเป็นการออกแบบให้เกิดความหมายและความทรงจำที่สวยงามในช่วงเวลานี้ด้วย
งานแสดงตุ๊กตาฮินะนินเงียว: เทศกาลที่เรียบง่ายแต่สวยงามของเมืองคัตสึอุระ
ในเมืองคัตสึอุระ จังหวัดโทคุชิมะของประเทศญี่ปุ่น มีเทศกาลฮินะมัตสึริซึ่งเป็นหนึ่งในงานเทศกาลที่สวยงามและน่าประทับใจที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เทศกาลนี้เป็นการจัดแสดงตุ๊กตาฮินะนินเงียวจำนวนมากถึง 30,000 ตัว ที่ได้รับมาจากบ้านเรือนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นตุ๊กตาที่ไม่ได้ใช้แล้ว
การแสดงนี้จะเกิดขึ้นบนเวทีตุ๊กตาที่มีขนาดใหญ่ถึง 100 ขั้น โดยมีความสูงถึง 8 เมตร และเต็มไปด้วยตุ๊กตากว่า 30,000 ตัวที่เรียงรายอย่างสวยงามและน่าประทับใจอย่างต่อเนื่อง งานแสดงนี้มีการจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเจริญเติบโตของเด็กผู้หญิง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวญี่ปุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย นับเป็นที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างใกล้ชิด