การเลือกซื้อเครื่องซักผ้าใหม่: สิ่งที่ควรพิจารณา
เครื่องซักผ้าเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในทุกครัวเรือน และการเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เมื่อเราย้ายเข้าที่พักใหม่ ความสะดวกสบายของชีวิตประจำวันจะขึ้นอยู่กับเครื่องซักผ้าที่ทำงานดี
วิธีการเลือกเครื่องซักผ้า
เครื่องซักผ้าในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีคุณสมบัติเด่นที่ต่างกันไป รวมถึงงบประมาณด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกคือการใช้งานที่ตอบโจทย์กับจำนวนสมาชิกในครอบครัวและไลฟ์สไตล์การใช้งานด้วย โดยเราขอแนะนำหลักการเบื้องต้นดังนี้
- ประเภทของเครื่องซักผ้า: สำหรับบ้านที่เน้นการใช้ซักผ้าทั่วไปเป็นหลัก แนะนำให้เลือกเครื่องซักผ้าแบบฝาบนที่ใช้งานง่าย มีประสิทธิภาพการซักพื้นฐานและราคาไม่สูงเกินไป
- ขนาด: เลือกขนาดความจุเครื่องซักผ้าให้เหมาะกับจำนวนสมาชิกในบ้านและปริมาณผ้าที่ซักในแต่ละครั้ง
- ฟังก์ชันพิเศษ: พิจารณาจำนวนโปรแกรมในการซักให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
- ราคา: คำนึงถึงราคาและคุณภาพของเครื่อง และจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม
- รีวิวและคะแนน: ศึกษาความคิดเห็นและคะแนนจากผู้ใช้เพื่อความมั่นใจในการเลือกซื้อ
พิจารณาขนาดความจุเครื่องซักผ้าให้เหมาะกับจำนวนสมาชิกในบ้านและปริมาณผ้าที่ซักในแต่ละครั้ง หากเครื่องซักผ้าขนาดเล็กเกินไปเมื่อเทียบกับปริมาณเสื้อผ้าที่ซัก อาจทำให้เสื้อผ้าไม่สะอาดและทำให้เครื่องทำงานหนักด้วย การเลือกขนาดเครื่องซักผ้าที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญต่อการใช้งาน
เพื่อความคุ้มค่าขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีโปรแกรมในการซักเหมาะสมกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน โดยอาจเลือกเป็นเครื่องซักผ้าที่มีโปรแกรมในการซักพื้นฐาน เช่น โปรแกรมซักปกติ ซักด่วน ปั่นหมาด และล้างถังซัก ซึ่งส่วนใหญ่เครื่องซักผ้าจะมีโปรแกรมเหล่านี้มาให้อยู่แล้ว
นอกจากนี้ การพิจารณาโปรแกรมการซักผ้าเพิ่มเติม เช่น โปรแกรมซักผ้าเด็ก ซักผ้านวม ซักผ้าขนสัตว์ หรือซักแบบถนอมผ้า สามารถช่วยรองรับการใช้งานได้ครอบคลุมมากขึ้น โดยคำนึงถึงความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการซักผ้าในชีวิตประจำวันของคุณ
คู่มือการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า: ตัดสินใจให้ถูกต้อง
หากต้องการประหยัดเวลาในการตากผ้า เครื่องซักผ้าฝาหน้าที่มีเครื่องอบในตัวจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด ปัจจุบันเครื่องซักผ้าฝาหน้าจะมีรุ่นที่สามารถซักและอบผ้าได้ภายในเครื่องเดียว หรือเรียกอีกอย่างนึงว่า “เครื่องซักอบ” เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาและต้องการลดระยะเวลาในการตากผ้า หรือบ้านที่ไม่มีพื้นที่เพียงพอในการตาก โดยข้อดีของเครื่องซักอบนั้นนอกจากจะช่วยให้ผ้าแห้งเร็วแล้ว ยังช่วยลดกลิ่นอับบนเสื้อผ้าด้วย
การเลือกเครื่องซักอบจะต้องเลือกจากระบบทำความร้อนให้เหมาะสมกับลักษณะที่อยู่อาศัยเป็นหลัก โดยจะมีอยู่ 2 ระบบด้วยกัน ได้แก่
- ระบบอบลมร้อน (Venting): ทำงานโดยการใช้ลมร้อนเป่าเสื้อผ้าแล้วระบายลมออก มีให้เลือกทั้งแบบอัตโนมัติและแบบตั้งเวลาได้ ซึ่งการระบายลมออกจะต้องมีการต่อท่อไปยังพื้นที่ด้านนอก จึงเหมาะกับที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่กว้าง หรือมีอากาศถ่ายเท เช่น บ้านเดี่ยว
- ระบบควบแน่น (Condensing): เป็นระบบที่ได้รับความนิยมเพราะใช้งานในพื้นที่ใดก็ได้โดยไม่ต้องท่อระบายอากาศ ระบบจะทำการควบแน่นความชื้นไปเก็บไว้ในภาชนะบรรจุน้ำในตัวเครื่องและเทน้ำทิ้งออกได้ทีหลัง แต่ผ้าจะมีความชื้นหลงเหลืออยู่บ้าง ไม่แห้งสนิทและมีราคาแพงกว่าระบบอบลมร้อน จึงเหมาะกับผู้ที่อาศัยในพื้นที่จำกัด เช่น คอนโด หรือบ้านที่มีพื้นใช้สอยน้อย
พื่อหาเครื่องซักผ้าที่ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้นตามงบประมาณที่มี หลายแบรนด์มักเพิ่มเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าไปในรุ่นล่าสุดของเครื่องซักผ้าฝาหน้า เพื่อช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ บางเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมปัจจุบันได้แก่
- ระบบ Steam: เทคโนโลยีการสร้างไอน้ำด้วยพลังความร้อนสูง เพื่อให้ไอน้ำเข้าไปขยายใยผ้า ช่วยในการล้างคราบที่ฝังอยู่ในใยผ้าอย่างล้ำลึก และช่วยลดความอับชื้นบนเสื้อผ้าได้ดี
- ระบบซักผ้าอัจฉริยะ Smart Sensor: เป็นระบบที่ช่วยตรวจจับสภาวะต่าง ๆ ภายในเครื่องระหว่างการซัก เช่น การตรวจจับน้ำหนัก ระดับน้ำ ความเร็ว ความสกปรก และอุณหภูมิ เพื่อให้การซักผ้าเป็นไปตามที่ต้องการ
- เทคโนโลยีลดรอยยับ Easy Iron: ช่วยปรับปริมาณน้ำ อุณหภูมิ และความเร็วในการปั่นหมาดให้เหมาะสม เพื่อลดรอยยับของผ้า ทำให้กระบวนการรีดผ้าเรียบร้อยขึ้น
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีอื่น ๆ มากมายที่เป็นจุดขายของแต่ละแบรนด์ ทำให้ราคาของแต่ละรุ่นต่างกันไป ผู้ใช้งานสามารถเลือกรุ่นตามงบประมาณที่มี โดยยิ่งเป็นรุ่นที่มีฟังก์ชันเยอะ ราคาจะสูงขึ้น
สำหรับบ้านที่ต้องการซักผ้าเยอะและต้องการความรวดเร็ว การเลือกใช้เครื่องซักผ้าแบบ 2 ถังเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมาก โปรแกรมซักพื้นฐานมีให้ในทุกเครื่อง และยังมีฟังก์ชันเสริมที่ช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างสะดวก เช่น
- โหมดการแช่ผ้า: ช่วยในการล้างคราบสกปรกออกจากผ้าได้ง่ายขึ้น
- เทคโนโลยีช่วยลดผ้าพันกัน: ด้วยแกนซักที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้เสื้อผ้าพันกันง่ายและลดความเสียหาย
- ระบบปั่นแห้งเร็ว: ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วยิ่งขึ้น ลดปัญหากลิ่นอับ
- โปรแกรมละลายผงซักฟอก: ไม่จับเป็นก้อนและไม่ทิ้งคราบบนผ้า
ด้วยฟังก์ชันอัตโนมัติต่าง ๆ ที่มีน้อย เครื่องซักผ้า 2 ถังมีราคาที่ถูกกว่าแบบถังเดียว และเหมาะสำหรับครัวเรือนที่ต้องการความเร็ว สามารถควบคุมเวลาการซักเองได้ และหยุดการทำงานได้ทันทีเมื่อคิดว่าผ้าสะอาดแล้ว
แนะนำการเลือกใช้วัสดุถังซัก: แนะนำให้คุณเลือกเครื่องซักผ้าที่มีถังซักทำจากพลาสติกคุณภาพ เนื่องจากวัสดุนี้สามารถป้องกันสนิมและยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้าได้ดี เพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพของเครื่องซักผ้าที่คุณเลือกใช้มีความทนทานและประสิทธิภาพที่ดีในการใช้งานในระยะยาว
ข้อเสียของเครื่องซักผ้า 2 ถัง: การเลือกใช้เครื่องซักผ้า 2 ถังมีข้อจำกัดเกี่ยวกับอายุการใช้งานที่มักจะสั้นกว่าเครื่องซักผ้าแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะถังซักที่ทำจากเหล็กหรือเหล็กชุบสังกะสี ซึ่งมีโอกาสเกิดสนิมเมื่อโดนน้ำบ่อย แนะนำให้คุณเลือกเครื่องซักผ้าที่มีถังซักทำจากพลาสติกคุณภาพ เนื่องจากวัสดุนี้มีคุณสมบัติที่ทนทานต่อน้ำและไม่เกิดสนิม
ประโยชน์ของวัสดุพลาสติก: การเลือกใช้วัสดุพลาสติกมีประโยชน์มากมาย เนื่องจากวัสดุนี้ไม่นำไฟฟ้า ทำให้ป้องกันการเกิดปัญหาไฟรั่วและไม่ทำให้เนื้อผ้าเสียหาย อีกทั้งยังมีเนื้อสัมผัสเรียบจึงไม่ทำให้เนื้อผ้าเสียหาย เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะยาว โดยเฉลี่ยอายุการใช้งานอยู่ที่ 8 – 10 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
การเลือกความเร็วรอบในการซักและปั่นหมาด: ความเร็วรอบในการซักและปั่นหมาดต้องเหมาะสมกับเนื้อผ้า เพื่อช่วยถนอมเนื้อผ้าและลดเสียงรบกวน การเลือกโปรแกรมที่ตรงกับเนื้อผ้าจะช่วยให้ความเร็วรอบที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
เลือกเครื่องซักผ้าระบบอินเวอร์เตอร์ (Inverter): สำหรับบ้านที่ใช้งานเครื่องซักผ้าบ่อย แนะนำให้คุณเลือกเครื่องซักผ้าที่มีระบบอินเวอร์เตอร์ เพราะมีการประหยัดพลังงานได้มากถึง 30% และลดเสียงรบกวนจากการสั่นสะเทือนอย่างมีประสิทธิภาพ เรียบเนียนขึ้นเมื่อเทียบกับระบบทั่วไป
โหมด ECO หรือโหมดประหยัดพลังงาน: บางยี่ห้อมีโปรแกรมหรือโหมด ECO ที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการซักผ้าที่ไม่ต้องการการปั่นสูงมาก เพื่อประหยัดพลังงาน คุณสามารถใช้โหมดนี้เพื่อลดการใช้พลังงานในการซักผ้าที่ไม่ได้ต้องการการปั่นที่รุนแรงมาก
ผู้ใช้ควรพิจารณาความต้องการของครัวเรือนและเลือกเครื่องซักผ้าที่ตรงกับการใช้งานและงบประมาณที่มีในการทำความตั้งใจที่จะซื้อเครื่องซักผ้าใหม่