สารส้ม: มากกว่าเพียงการระงับกลิ่นกาย

สารส้ม: สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการใช้ในการดูแลสุขภาพ

สารส้มหรือ Alum เป็นสารที่มีคุณสมบัติ Astringent หรือที่เรียกว่าเกลือเชิงซ้อน ซึ่งเป็นผลึกเกลือที่ประกอบด้วยธาตุอะลูมิเนียมและซัลเฟตอย่างหลัก สารส้มสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ อะลูมิเนียมซัลเฟตที่มีลักษณะเป็นก้อนผงสีขาว โพแทสเซียมอะลัมที่มีลักษณะเป็นผลึกใสไม่มีสี และแอมโมเนียมอะลัมที่มีลักษณะเป็นผลึกใสไม่มีสี ทั้ง 3 ประเภทนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในแบบเดียวกันได้ และหากมีการเติมแอมโมเนียมอะลัมและโพแทสเซียมลงไปจะทำให้สารส้มเป็นก้อนผลึกใสและบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น

สารส้มมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย เช่น ไม่มีสีและกลิ่นที่สามารถเป็นการรบกวนหรือเป็นสาเหตุในการหักล้างกลิ่นน้ำหอมที่ใช้ นอกจากนี้ยังไม่เปื้อนเสื้อผ้าเนื่องจากไม่มีส่วนผสมของครีมและน้ำมัน ซึ่งทำให้มันปลอดภัยต่อร่างกายโดยไม่เป็นอันตรายต่อระบบของเซลล์ นอกจากนี้ยังไม่เสื่อมสภาพ มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อม และไม่ทำลายโอโซน เช่นกัน สารส้มยังมีความคงทนต่อสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิห้อง และสามารถใช้ในหลายภาคของอุตสาหกรรมได้ เช่น การใช้เป็นส่วนผสมในน้ำประปา การใช้ในการผลิตผ้า และการใช้ในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในโรงงาน

สารส้มยังมีประโยชน์ในการดูแลสุขภาพอย่างมากมาย เช่น การใช้ในการระงับกลิ่นตัวโดยเฉพาะใต้วงแขน ซึ่งสามารถดับกลิ่นได้ 100% และมีประสิทธิภาพนานถึง 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการกำจัดกลิ่นเท้าได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย

สารส้ม หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่าโพแทสเซียมอะลูมิเนียมซัลเฟตในรูปแบบไฮเดรต (Potassium Aluminum Sulfate Hydrate) มักถูกเรียกว่าเป็น “สารสีสันขาวที่ไม่มีกลิ่นและมีรสเปรี้ยว” ซึ่งมีสูตรทางเคมีเป็น KAl(SO4)2·12H2O ลักษณะของมันคือเป็นผลึกก้อนสีขาวที่ไม่มีกลิ่นและมีรสเปรี้ยว โดยสารส้มมักจะละลายน้ำได้ดีและมักถูกนำมาใช้เพื่อระงับกลิ่นกาย โดยเฉพาะในพื้นที่ใต้วงแขน เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในการดูแลสุขภาพและอาบน้ำของเราทุกคน

การใช้สารส้มเพื่อระงับกลิ่นกายไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ นับตั้งแต่ยุคโบราณ มนุษย์ก็ได้ใช้สารส้มในการดูแลสุขภาพและความสะอาดของตัวเองแล้ว ทั้งในรูปแบบของผงหรือแม้กระทั่งในรูปแบบของหินสีขาวใหญ่ๆ ซึ่งเรามักพบเห็นในร้านขายยาของวันนี้อย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตาม สารส้มไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่การระงับกลิ่นกายเท่านั้น มันยังมีส่วนสำคัญในการใช้งานในอุตสาหกรรมและการผลิตอาหารด้วย ในอุตสาหกรรม สารส้มมักถูกใช้เป็นสารเคมีในกระบวนการเตรียมอาหาร เช่น ในการทำขนมปังเพื่อช่วยให้ขนมปังเรียบนิ่ม และในการทำเครื่องดื่มเช่น การทำแช่อัดลมเพื่อเพิ่มความกรอบและความฟูของฟองอากาศ

ดังนั้น ถึงแม้เราจะรู้จักสารส้มเป็นสารเคมีที่น่าสนใจในการใช้งานในการดูแลสุขภาพและความสะอาดของตัวเอง แต่คุณอาจจะต้องมองในมุมมองที่กว้างกว่านั้น เพราะมันยังมีหลายประโยชน์และการใช้งานที่น่าสนใจในด้านอุตสาหกรรมและการผลิตอาหารด้วย ไม่ว่าจะเป็นในการทำขนมหวานหรือแม้กระทั่งในการผลิตเครื่องดื่มที่เราบริโภคประจำวัน

การมาและกระบวนการผลิตของสารส้ม

เมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล สารส้มถูกค้นพบในธรรมชาติเป็นแร่ธาตุที่ปรากฏอยู่ในแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น โพแทสเซียมสารส้มพบได้ในแร่ธาตุคาลิไนต์ อะลูไนต์ และลิวไซต์ ที่นักธรณีวิทยาค้นพบว่าสารส้มสามารถถูกบำบัดด้วยกรดซัลฟิวริกเพื่อให้เกิดผลึกของสารส้ม และในศตวรรษที่ 13 มนุษย์ได้เริ่มการผลิตสารส้มในยุโรปโดยการเผาหินจำนวนมหาศาลจนเหลือแต่ผงสีขาว จากนั้นน้ำถูกเท่าน้ำตราจุดจุด ทั้งนี้เพื่อแยกธาตุเหล็กซัลเฟตจนเหลือผลึกอะลูมิเนียมซัลเฟตแอมโมเนียบริสุทธิ์ที่สามารถเก็บได้และใช้ได้เป็นสารส้ม

วิธีการผลิตทั่วไปคือการบำบัดแร่บอกไซต์ด้วยกรดซัลฟิวริกและโพแทสเซียมซัลเฟต แอมโมเนียม สารส้มจะเกิดขึ้นจากการระเหยของสารละลายน้ำที่มีแอมโมเนียมซัลเฟตและอะลูมิเนียมซัลเฟต นอกจากนี้ยังสามารถผลิตได้โดยการตกตะกอนจากสารละลายที่เป็นน้ำ เช่น อะลูมิเนียมซัลเฟตและโพแทสเซียมซัลเฟต ที่จะละลายในน้ำและเมื่อระเหย ก็จะได้ผลึก สารส้ม ออกมาจากสารละลาย

นอกจากสารส้มที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์ยังสามารถผลิตสารส้มขึ้นมาเอง เนื่องจาก สารส้มตามธรรมชาติมีจำนวนไม่มากพอที่จะใช้ในงานพาณิชย์ บริษัทต่างๆ จึงมีการคิดค้นการผลิตสารส้มขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ในงานต่างๆ

การใช้สารส้ม: ประโยชน์ที่หลากหลายและการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

  1. ระงับกลิ่นตัว: การใช้สารส้มในน้ำเช็ดตัวเพื่อดับกลิ่นตัวได้สูงสุดถึง 100% และหน่วงการเกิดกลิ่นได้ไม่น้อยกว่า 10 ชั่วโมง
  2. การใช้สารส้มในการแก้ส้นเท้าแตก: สารส้มช่วยลดอาการส้นเท้าแตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. การลดอาการคัน: สารส้มช่วยบรรเทาอาการคันที่เกิดจากยุงกัด มด หรือแมลงสัตว์อื่นๆ
  4. ประโยชน์ทางยาตำรับไทยโบราณ: สารส้มใช้ในการรักษาหนองใน นิ่ว และช่วยถอนพิษ
  5. การดับกลิ่นเหม็น: สารส้มช่วยในการดับกลิ่นเหม็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นคาวหรือกลิ่นกาย
  6. การใช้ในอุตสาหกรรม: สารส้มมีการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น สิ่งทอ การทำน้ำประปา ฟอกหนัง และผสมเป็นยาดับเพลิง
  7. ช่วยให้ข้าวเหนียวมีเมล็ดสวย: การใช้สารส้มแกว่งในน้ำแช่ข้าวเหนียวช่วยให้มีเมล็ดสวย
  8. ช่วยให้พริกขี้หนูดูสดใส เก็บไว้ได้นาน: การแช่พริกขี้หนูในน้ำสารส้มช่วยให้สามารถเก็บไว้ได้นานและดูสดใส
  9. รักษาถั่วงอก: การนำสารส้มในน้ำช่วยให้ถั่วงอกมีอายุการเก็บรักษาได้นานและกรอบ
  10. ทำให้น้ำใส: การกวนสารส้มในน้ำช่วยให้น้ำขุ่นใสขึ้น

ประเภทของสารส้ม: การแบ่งประเภทและลักษณะของแต่ละชนิด

สารส้ม (alum) เป็นคำที่มีรากศัพท์มาจากคำในภาษาลาตินว่า “alumen” ซึ่งแปลว่า “สารทำให้หดตัว” (astringent) อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน สารส้มมักหมายถึงเกลือเชิงซ้อนหรือผลึกเกลือ ซึ่งเป็นสารประกอบที่ประกอบด้วยธาตุอะลูมิเนียมและซัลเฟตเป็นส่วนประกอบหลัก สารส้มแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่

  1. เกลือซัลเฟตของอะลูมิเนียมหรืออะลูมิเนียมซัลเฟต [AL2(SO4)3. XH2O]: มีลักษณะเป็นก้อนผงสีขาว

    อลูมิเนียมซัลเฟตเป็นสารประกอบที่มีความหลากหลายในการใช้งาน โดยมักนำมาใช้ในการย้อมสีเสื้อผ้า ผลิตโฟม และสร้างเสื้อป้องกันไฟ ทั้งยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการผลิตอีเทน และควบคุมค่า pH ในอุตสาหกรรมกระดาษ

    อลูมิเนียมซัลเฟตยังมีความสามารถในการใช้เป็นสารป้องกันน้ำในคอนกรีต และเป็นสารหล่อลื่น รวมถึงมีคุณสมบัติในการดับกลิ่นและเปลี่ยนสีในปิโตรเลียมรีไฟนิ่ง

    ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและการใช้งานที่มากมาย อลูมิเนียมซัลเฟตเป็นสารที่สำคัญในหลายอุตสาหกรรมและมีความสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพสูงในวงการอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างกว้างขวาง

  2. เกลือเชิงซ้อนของโพแทสเซียมหรือโพแทสเซียมอะลัม [AL2(SO4)3 . K2SO4 . 24H2O]: มีลักษณะเป็นผลึกใสไม่มีสี

    ชื่อที่คุ้นเคยกันในชื่อ “สารส้มโพแทชเซียม” หรือ TAWAS ซึ่งมีส่วนผสมของโพแทสเซียมซัลเฟตและอลูมิเนียม เป็นสารส้มที่พบได้บ่อยที่สุดในร้านขายของชำ

    การใช้งานทั่วไปของสารส้มโพแทสเซียมค่อนข้างหลากหลาย โดยส่วนมากได้ใช้เพื่อทำให้น้ำบริสุทธิ์ ฟอกหนัง ย้อมสี และผงฟู นอกจากนี้ยังมีการใช้ในการรักษาสิ่งทอทนไฟ นอกจากนี้ยังพบใช้เป็นเครื่องสำอางค์ เช่น ยาระงับกลิ่นกาย หรือใช้เป็นยาบำรุงสำหรับผู้ชายหลังโกนหนวด

  3. เกลือเชิงซ้อนของแอมโมเนียมหรือแอมโมเนียมอะลัม [AL2(SO4)3 . (NH4)2SO4 . 24H2O]: มีลักษณะเป็นผลึกใสไม่มีสีสารส้มแอมโมเนียมมีราคาที่เข้าถึงง่ายและมีการใช้งานเฉพาะกลุ่มหลักๆ โดยประโยชน์ที่เด่นคือการใช้ในการทำน้ำให้บริสุทธิ์ การดับกลิ่น ฟอกหนัง ย้อมสี และใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์ การใช้สารส้มแอมโมเนียมเป็นที่นิยมในการทำน้ำให้บริสุทธิ์เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ช่วยลดความเข้มข้นของน้ำ และใช้ในกระบวนการฟอกหนังเพื่อล้างความสกปรก ย้อมสี เช่นในอุตสาหกรรมสิ่งทอและใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตปูนซีเมนต์ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความต้านทานต่อการกัดกร่อนของวัสดุ
  4. สารส้มโซเดียมหรือโซเดียมอะลัม เป็นสารส้มที่ได้รับความนิยมในการใช้เป็นผงฟูและเป็นกรดในอาหาร การนำสารส้มโซเดียมมาใช้ในอาหารมีความหลากหลาย โดยส่วนมากจะใช้เป็นผงฟูในการผลิตขนม และเป็นส่วนผสมของอาหารที่ต้องการเพิ่มความกรอบ เช่น ขนมปังและคุกกี้ นอกจากนี้ยังมีการใช้เป็นกรดในอาหาร เช่น ใช้ในการปรุงอาหารหรือใส่ลงในเครื่องดื่มเพื่อเพิ่มรสเปรี้ยว
  5. สารส้มในโครเมียม สารส้มในโครเมียมมีสีม่วงเข้มและมีการใช้งานที่หลากหลาย โดยที่ประโยชน์หลักคือการฟอกหนัง และสามารถนำไปผสมกับสารส้มอื่นๆ เพื่อเพิ่มผลึกสีม่วงหรือลาเวนเดอร์

    การใช้สารส้มในโครเมียมมีความสำคัญในอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์หนัง เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวหนังเรียบเนียนและสวยงาม โดยสารส้มในโครเมียมมีความเข้มข้นสูงทำให้เป็นส่วนประกอบที่มีประสิทธิภาพในการฟอกหนังให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

    นอกจากนี้ยังมีการนำสารส้มในโครเมียมมาผสมกับสารส้มอื่นๆ เพื่อเพิ่มผลึกสีม่วงหรือลาเวนเดอร์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ทำให้สร้างสีสันและความสวยงามที่โดดเด่น

  6. Selenate Alums: สารประกอบที่มีซีลีเนียม

    Selenate Alums เป็นสารประกอบที่ประกอบด้วยซัลเฟตและซีลีเนียม ซีลีเนียมเป็นสารออกซิไดซ์ที่มีความรุนแรงมากและมักนำไปใช้เป็นสารฆ่าเชื้อโรค

    การใช้ Selenate Alums เป็นสารฆ่าเชื้อโรคมีความสำคัญในการควบคุมการแพร่เชื้อของโรคต่างๆ ซึ่งซีลีเนียมเป็นส่วนประกอบที่มีคุณสมบัติที่ช่วยในการกำจัดและยับยั้งการเจริญของเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    นอกจากนี้ Selenate Alums ยังมีการใช้งานในงานอื่นๆ เช่น ในอุตสาหกรรมทำเครื่องประดับ และงานอุตสาหกรรมเคมี ซึ่งเป็นการนำเอาคุณสมบัติและประโยชน์ของสารประกอบนี้ไปใช้ในงานอุตสาหกรรมและสายตามติดในวงการต่างๆ อย่างกว้างขวาง

สรุปได้ว่า สารส้มมีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเภท แต่ทั้งหมดนี้มีการนำไปใช้ประโยชน์ในหลายด้านอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมต่อการใช้งานที่ต้องการวัตถุดิบที่มีความบริสุทธิ์และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและร่างกาย

ประโยชน์ของสารส้มในอุตสาหกรรมและการดูแลผิวหนัง

สารส้มมีความสำคัญในการใช้ประโยชน์ในหลายด้านทั้งในอุตสาหกรรมและการดูแลผิวหนังของคน ดังนี้:

  1. การใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรม: สารส้มมักถูกใช้ในหลายสาขาอุตสาหกรรม เช่น ในอุตสาหกรรมการประปา รองลง และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมในกระบวนการผลิต เช่น ในการสร้างกระดาษ ย้อมผ้า ฟอกหนัง ผสมเป็นยาดับเพลิง สารดับกลิ่น และฟอกสี อีกทั้งยังใช้ในการผลิตผงฟูใช้ในการทำขนมปัง เป็นต้น
  2. การใช้เกี่ยวข้องกับผิวหนัง: สารส้มมีคุณสมบัติในการระงับกลิ่นที่มีประสิทธิภาพในการใช้ทาตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะที่ใต้วงแขนและเท้า สารส้มสามารถระงับกลิ่นได้ 100% นานถึง 24 ชั่วโมง และยังช่วยลดการเกิดกลิ่นใหม่ในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง
  3. การใช้ในการดูแลผิวหนัง:
    • การทาหลังโกนหนวดจะช่วยลดการระคายเคืองที่เกิดขึ้นจากการโกนหนวด และช่วยห้ามเลือดและสมานบาดแผลที่เกิดขึ้นจากมีดโกนบาด หรือบาดแผลเล็กน้อย
    • การทาที่ส้นเท้าจะช่วยรักษาและป้องกันการแตกของส้นเท้า
    • การทาเพื่อแก้คันที่ผิวหนังเมื่อถูกยุงกัดหรือเกิดการคันจากสาเหตุอื่น ๆ

ดังนั้น สารส้มมีความสำคัญและมีความหลากหลายในการใช้ประโยชน์ทั้งในอุตสาหกรรมและการดูแลผิวหนังของคนในชีวิตประจำวัน

สารส้ม: ความปลอดภัยและข้อควรระวัง

การใช้สารส้มโพแทสเซียมอาจไม่ปลอดภัยในระยะยาวตามที่คณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อม (EWG) ได้สังเกตเห็น มีงานวิจัยบางชิ้นพบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างสารส้มโพแทสเซียมกับอัตราการเป็นมะเร็งเต้านม การทดลองของผู้หญิงกว่า 400 คนพบว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อที่มีอะลูมิเนียมเป็นประจำ มีความเชื่อมโยงกับการมีอะลูมิเนียมในเนื้อเยื่อเต้านม ซึ่งอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับการพัฒนามะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตาม ยังมีนักวิจัยบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับการค้นพบนี้ และยังต้องศึกษาวิจัยต่อไป

แม้ว่าสารส้มจะมีความสามารถที่สำคัญในการใช้งานในอุตสาหกรรมและสามารถมีประโยชน์ต่อคนได้ แต่เมื่อมีการสัมผัส อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง ดังนั้นควรล้างตาอย่างต่อเนื่องด้วยน้ำสะอาดเป็นเวลา 15-20 นาที หากมีการกลืนเข้าไปอาจทำให้เกิดคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องไส้ป่นปวน และหากมีการกลืนสารส้มเป็นจำนวนมาก อาจทำให้การทำงานของไตบกพร่องได้

ดังนั้น การใช้สารส้มต้องมีความระมัดระวังและความเข้าใจเพียงพอ เพื่อป้องกันการเกิดโทษที่อาจเกิดขึ้นได้ และแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้สารเคมีอันตรายในทุกครั้ง