สายแลนคืออะไร มีกี่รูปแบบ สมัยนี้ควรใช้สาย LAN รุ่นไหนดี

สายแลนคืออะไร มีกี่รูปแบบ สมัยนี้ควรใช้สาย LAN รุ่นไหนดี

“ไม่ว่าจะทำงาน เล่นเกม ดูหนัง หรือใช้งานระบบออนไลน์ต่างๆ ในบ้านและออฟฟิศ ต้องเคยเห็นสาย LAN ที่เชื่อมต่อจากเราเตอร์ หรือ HUB เชื่อมต่อออกมาสู่อุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค หรือแม้แต่สมาร์ททีวีที่ต้องใช้อินเตอร์เน็ตก็มีเช่นกัน แม้ว่าระบบไร้สายอย่าง Wi-Fi ในสมัยนี้เทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้การส่งสัญญาณเสถียรเป็นอย่างมาก แต่การเชื่อมต่อผ่านระบบสาย LAN ก็ยังให้ความเสถียรมากกว่า

สาย LAN นั้นอยู่กับเรามาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเริ่มต้นของการใช้งานอินเตอร์เน็ตจนถึงปัจจุบัน การพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ทำให้ตอนนี้สาย LAN มีให้เลือกหลายรุ่น หลายรูปแบบ ซึ่งแตกต่างกันไปตามความเร็วของการส่งสัญญาณ และความยาวสูงสุดที่ทำได้

วันนี้ Mercular ขอพาไปรู้จักกับ สายแลนคืออะไร มีกี่รูปแบบ สมัยนี้ควรใช้สาย LAN รุ่นไหนดี ใครที่กำลังจะเดินสายแลนในบ้านใหม่ หรือกำลังมองหาสายแลนอยู่ไม่ควรพลาด จะได้เลือกซื้อให้ตรงกับสเปกและความต้องการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพเลยครับ”

“สายแลนคืออะไร?”

สายแลน (LAN Cable) หรือ UTP (Unshielded Twisted Pair) เป็นสายนำสัญญาณชนิดทองแดงที่นำมาตีเกลียว และหุ้มฉนวน มักใช้ในการต่อคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน หรือจะเป็นคอมพิวเตอร์กับเครื่อข่ายอินเตอร์เน็ตที่หลายคนจะคุ้นชื่อกับพอร์ตที่ชื่อว่า RJ45 นี่คือพอร์ตสำหรับการใช้งานร่วมกับสายแลนนั่นเอง

การที่สายแลนมีการหมุนเกลียวอยู่ภายใน หรือมีการหุ้มฉนวนอยู่นี้จะช่วยลดสัญญาณรบกวนในการส่งสัญญาณ โดยปัจจุบัน สายแลนมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ หลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นเองก็มีความแตกต่างกันที่ความเร็วในการส่งข้อมูล และความยาวสูงสุดที่สายจะทำได้ การใช้งานในแต่ละพื้นที่เองก็มีชนิดที่เหมาะสมต่อการใช้งาน วันนี้เรามาดูกันว่า สานแลนมีให้เลือกกี่แบบ กี่รุ่น แล้วตัวไหนจะเหมาะสำหรับการใช้งานในปัจจุบัน”

สายแลนสีน้ำเงิน

สายแลนมีกี่ประเภท

หากเป็นคนทำงานทั่วไป สายแลนที่ติดตั้งมาให้ตามโต๊ะที่ออฟฟิศหรือตามบ้านอาจเป็นสายเดียวที่เรารู้จัก แต่ทราบหรือไม่ว่าสายแลนมีตัวเลือกเยอะกว่านั้น สามารถแบ่งได้ตามการใช้งาน ตามความเร็ว และตามการกั้นสัญญาณรบกวน จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง มาดูกันครับ

สายแลนแบ่งตามลักษณะการติดตั้ง

สายแลนสามารถติดตั้งได้ทั้งในอาคารและนอกอาคาร แน่นอนว่าสภาพแวดล้อม การใช้งาน การเดินสายมีความแตกต่ากกัน ทำให้ตัวสายเองก็มีความแตกต่างกันด้วยเช่นกัน สายแลนชนิดติดตั้งภายในอาคาร (Indoor Cable)

ภายในอาคารไม่จำเป็นต้องโดนแดด ลม ฝน หรือสภาพแวดล้อมที่หนักหน่วงมากนัก ตัวสายจึงเป็นการหุ้มวัสดุ PVC ที่มีความยืดหยุ่นสูงแทน เพื่อให้สามารถมุดไปตามโต๊ะ ตามผนังได้ง่าย และลดการลามของไฟได้ดี มีข้อกำหนดหรือมาตรฐานป้องกันทางด้านอัคคีภัย มีการเพิ่มสายพิเศษเข้าไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกัน จึงสามารถแบ่งได้ออกมาเป็น 4 ประเภทย่อยด้วยกันครับ

็สายแลนเชื่อมต่อเข้า HUB

CM (Communication Metallic) : เป็นสายที่สามารถป้องกันการลามไฟได้ในแนวราบ เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปอย่างการติดตั้งสายแนวราบภายในชั้นเดียวกัน

CMR (Communication Metallic Riser) : สายชนิดนี้สามารถป้องกันการลามไฟทั้งแนวราบและแนวดิ่ง มักใช้ในการเดินสายสัญญาณระหว่างชั้นในอาคารโดยผ่านช่องเดินสายของตัวอาคาร

CMP (Communication Metallic Plenum) : เป็นสายที่เหมาะสำหรับการเดินสายบนฝ้าเพดาน หรือบริเวณช่องว่างเหนือฝ้าที่มีอากาศไหลเวียน แต่ไม่สามารถป้องกันการลามไฟในแนวดิ่งได้

LSZH (Low Smoke Zero Halogen) : สามารถป้องกันการลามไฟได้ทั้งในแนวราบและแนวดิ่งเหมือน CMR แต่มีคุณสมบัติเพิ่มเติมคือเมื่อเกิดอัคคีภัย สายชนิดนี้จะมีควันน้อยและไม่ก่อให้เกิดสารพิษ อันนี้เพิ่มความปลอดภัยขึ้นได้มากเลยครับ”

จุดรวมสายแลน

สายแลนชนิดติดตั้งภายนอกอาคาร (Outdoor Cable)

ในส่วนของสายแลนชนิดที่ติดตั้งภายนอก ซึ่งจะโดนแดด ลม ฝนมากกว่าภายในอาคาร วัสดุที่ใช้หุ้มจึงเป็น PE ที่มีความแข็งแรง ทนทานมากกว่าภายในอาคาร แต่ไม่สามารถป้องกันไฟได้เท่าชนิดภายในอาคาร การเลือกซื้อสายจึงต้องดูการติดตั้งด้วยครับ

สายแลนแบ่งการป้องกันสัญญาณรบกวน

ภายในสายแลนจะมีการบิดเกรียวของสายทองแดงภายในเพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ในบางสถานที่ที่มีสัญญาณรบกวนสูง จำเป็นต้องมีฉนวนเพิ่มเพื่อให้การส่งสัญญาณมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น

สายแลนชนิดไม่มีฉนวนป้องกันสัญญาณรบกวนหรือ Unshield Twisted Pair (UTP)

จะเป็นสายแลนแบบทองแดงคู่ บิดตีเกลียวแบบไม่มีชิลด์ป้องกันสัญญาณรบกวน โดยตัวนำสัญญาณจะมี 8 เส้น เป็นทองแดงแท้ นิยมใช้กับงานระบบคอมพิวเตอร์ทั่วไปที่ใช้กันในครัวเรือนและออฟฟิศ

สายแลนชนิดมีฉนวนป้องกันสัญญาณรบกวนหรือ Foil Twisted Pair (UTP)

เป็นสายทองแดงคู่ บิดตีเกลียวแบบมีชิลด์ป้องกันสัญญาณรบกวน นิยมใช้งานในพื้นที่ที่มีสัญญาณรบกวนสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ติดตั้งผ่านเครื่องจักรขนาดใหญ่ ซึ่งเครื่องจักรหรือสนามไฟฟ้านี้จะมีผลรบกวนสัญญาณที่ส่งผ่านสายแลน การมีซิลด์ป้องกันจะช่วยให้สัญญาณส่งได้เสถียรมากยิ่งขึ้น

สายแลนแบ่งตาม Bandwidth ที่รองรับได้

สายแลนในปัจจุบันจะมีรุ่นบอกบริเวณสาย หากมีสายแลนที่บ้าน หรือที่ออฟฟิศ จะเห็นคำว่า CAT ตามด้วยตัวเลขอย่าง CAT5 CAT6 CAT6a พวกนี้พิมพ์อยู่บนสาย นอกจากจะแบ่งได้ว่ามันสามารถส่งความเร็วได้เท่าไหร่ มี Bandwidth ขนาดไหน รุ่นของสายแลนนี้ยังบอกได้ด้วยว่าความยาวสายสูงสุดนั้นทำได้ที่กี่เมตร เนื่องจากยิ่งส่งความเร็วได้มาก มี Bandwidth สูง ก็ยิ่งลดความยาวสายสูงสุดที่ทำได้ลง แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีสายแลนรุ่นใหม่ๆ ออกมา ทำให้ความเร็วที่ส่งได้สูง ก็มีความยาวสายสูงสุดเยอะตามไปด้วย จะมีรุ่นไหนบ้างที่น่าใช้งานในปัจจุบัน มาดูกันครับ

สายแลน Category 5E (CAT 5E)

เป็นสาย LAN ทองแดงที่มีความเร็วต่ำ พัฒนามาจากสาย CAT 5 เดิม ออกแบบมาเพื่อรองรับ Bandwidth อยู่ที่ 100-200 MHz ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 1 Gbps ในระยะทางไม่เกิน 100 เมตร

สายแลน Category 6 (CAT 6)

เป็นสาย LAN ทองแดงที่มีความเร็วสูงขึ้น ถูกผลิตขึ้นมาตามมาตรฐานของ Gigabit Ethernet ออกแบบมาเพื่อรองรับ Bandwidth อยู่ที่ 250 MHz ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 10 Gbps ในระยะทางไม่เกิน 55 เมตร

สายแลนCategory 6A (CAT 6A)

เป็นสาย LAN ทองแดงที่มีความเร็วสูง พัฒนามาจากรุ่นเดิมอย่าง CAT6 ทำให้รองรับ Bandwidth อยู่ที่ 500 MHz ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 10 Gbps ในระยะทางไม่เกิน 100 เมตร ซึ่งมากกว่าเดิมเกือบเท่าตัวเลยครับ

สายแลนCategory 8 (CAT 8)

เป็นสาย LAN ทองแดงที่มีความเร็วสูงขึ้นมากอีกครับ ออกแบบมาเพื่อรองรับ Bandwidth อยู่ที่ 2GHz ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 25/40 Gbps ความเร็วขนาดนี้ ก็แลกมากับระยะทางที่สั้น อยู่ในช่วงไม่เกิน 30 เมตรครับ

สายแลนเชื่อมต่อเข้ากับช่อง RJ45 กับโน๊ตบุ๊ค

สายแลน: เครือข่ายที่เชื่อมต่อความสามารถของบ้านและออฟฟิศ

สายแลนถือเป็นหลักการเชื่อมต่อที่สำคัญในบ้านและออฟฟิศทั่วๆ ไป เรามาเข้าใจกันก่อนว่าสายแลนคืออะไร มีชนิดอะไรบ้าง และคุณสมบัติของแต่ละรุ่นได้อย่างไร ซึ่งจะช่วยให้เลือกสายที่เหมาะสมตามสถานที่ติดตั้งและความต้องการการใช้งานได้อย่างถูกต้อง

หากต้องการสายแลน ร้าน Mercular เรามีหลากหลายตัวเลือกให้เลือกสรรค์ มากมายจากแบรนด์ชั้นนำ ทั้งนี้ทุกรายการมีการรับประกันคุณภาพหลังการขายเพื่อให้คุณได้ความพึงพอใจอย่างสูง ลูกค้าสามารถเลือกสินค้าได้อย่างอิสระตามความต้องการของตนเอง โดยไม่ต้องกังวลว่าจะได้สินค้าที่ไม่เหมาะสมหรือมีปัญหาหลังการใช้งานครับ