รู้จักโรคเหน็บชา – เป็นเหน็บชาบ่อยๆ อย่าคิดว่าไม่เป็นอะไร?

รู้จักโรคเหน็บชา – เป็นเหน็บชาบ่อยๆ อย่าคิดว่าไม่เป็นอะไร? -  โรงพยาบาลศิครินทร์

โรคเหน็บชา (Beriberi) – ภาวะขาดวิตามินบี 1

โรคเหน็บชา เป็นภาวะขาดวิตามินบี 1 ที่เกิดขึ้นในร่างกาย ซึ่งเป็นโรคทางระบบประสาทหนึ่งที่สามารถเกิดได้ในทุกส่วนของร่างกาย อาการที่พบบ่อยคือการชาที่ปลายมือและปลายเท้า แม้ว่าอาการนี้จะแตกต่างจากอาการเหน็บชาที่พบบ่อยในชีวิตประจำวัน แต่โรคเหน็บชาอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายได้!

สาเหตุของโรคเหน็บชา

1. ขาดวิตามินบี 1 หรือไธอามีน (Thiamine)
2. สัญญาณเตือนของโรคอื่น ๆ เช่น เบาหวาน หรือพิษสุราเรื้อรัง
3. ปัจจัยอื่น ๆ เช่น การเกิดเหน็บชาจากพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา หรือการเจ็บป่วยเป็นเวลานาน

อาการของโรคเหน็บชา

เมื่อร่างกายขาดวิตามินบี 1 จะทำให้เกิดอาการชา และอาจมีอาการหอบเหนื่อย หัวใจเต้นเร็ว และตับโต เหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนเริ่มต้นของการขาดวิตามิน หรือโรคเบาหวาน อาการชานี้อาจเป็นสัญญาณแรกของโรคเหน็บชา ที่สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

รู้จักโรคเหน็บชา – เป็นเหน็บชาบ่อยๆ อย่าคิดว่าไม่เป็นอะไร? -  โรงพยาบาลศิครินทร์

โรคเหน็บชาในเด็ก (Infantile beriberi)

พบบ่อยในทารกที่มีอายุระหว่าง 2-6 เดือน ซึ่งมักเกิดจากการกินนมมารดาที่ขาดวิตามินบี 1 หรือการอดอาหารของแสลง อาการอาจรวมถึงซึม หน้าเขียว ตัวเขียว หอบเหนื่อย หรือหมดสติ ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที

โรคเหน็บชาในผู้ใหญ่ (Adult beriberi)

วิธีการคิดแบ่งได้ ๓ ประเภทดังนี้คือ

1. โรคเหน็บชาชนิดผอมแห้ง (Dry beriberi)
2. โรคเหน็บชาชนิดเปียก (Wet beriberi)
3. Wernicke-Korsakoff syndrome

วิธีป้องกันโรคเหน็บชา

1. รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 1 เช่น ถั่ว ธัญพืช และข้าวซ้อม
2. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากผู้ที่ติดสุราเรื้อรังมักมีโอกาสเสี่ยงต่อโรคเหน็บชา
3. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารดิบหรือหมักดอง เนื่องจากอาหารดังกล่าวอาจมีส่วนประกอบที่ขัดขวางการดูดซึมวิตามินบี 1 ในร่างกาย
4. รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

โรคหน็บชา ที่เป็นแล้วไม่ควรเฉย

การรักษาโรคเหน็บชาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ และอาจรวมถึงการให้สารอาหารเสริมวิตามินบี 1 หรือการรักษา