การรักษาเล็บขบไม่ยากเลย!

บางครั้งการแก้ไขปัญหาเล็บขบไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนหรือค่าใช้จ่ายสูง ด้วยวิธีง่าย ๆ ที่อยู่ใกล้ตัว เราสามารถทำให้เล็บขบดีขึ้นด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญ

เล็บขบอาจเป็นปัญหาที่ค่อนข้างน่ารำคาญ เพราะมันอาจทำให้มือดูไม่สวย รวมถึงมีความเจ็บปวดได้ด้วย แต่ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เพราะมีวิธีการแก้ไขที่ง่าย ๆ และไม่ต้องใช้เงินเยอะ มาลองดูกันค่ะว่าเราสามารถรักษาเล็บขบด้วยตัวเองได้อย่างไรบ้าง

แช่เท้าในน้ำเกลือ

การใช้เกลือเพื่อรักษาเล็บขบเป็นวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ โดยเพียงแค่แช่เท้าในน้ำอุ่นผสมเกลือ 1 ถ้วยตวง เป็นเวลา 10 นาที จะช่วยบรรเทาอาการอักเสบและลดความเจ็บปวดได้ หากยังมีอาการไม่ดีขึ้น เราสามารถทำการแช่เท้าในน้ำอุ่นอีก 4 ครั้งต่อวัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา

ใบบัวบกลดการอักเสบ

การใช้ใบบัวบกเพื่อลดอาการอักเสบของเล็บขบก็เป็นวิธีหนึ่งที่ค่อนข้างอยู่ใกล้ตัว โดยใช้ใบบัวบกที่แหลกสะอาด ตำให้และทาลงไปบนเล็บขบ และพันด้วยผ้าพันแผล สารในใบบัวบกจะช่วยลดอาการอักเสบและประทับใจ

ทาน้ำมันมะกอก

การทาน้ำมันมะกอกอาจช่วยให้เล็บขบง่ายต่อการตัดมากขึ้น โดยช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังและเล็บ ลดความแข็งของเล็บและทำให้การตัดเล็บเป็นไปอย่างสะดวกและไม่เจ็บปวด เราควรหลีกเลี่ยงการทาน้ำมันโดยตรงลงบนเล็บขบ เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายหรืออาการอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

วิธีตัดเล็บขบที่ถูกต้อง

1. แช่เท้าในน้ำอุ่นผสมเกลือตามที่แนะนำไป รอจนกว่าผิวเนื้อบริเวณที่เป็นเล็บขบจะอ่อนนุ่มลงและลดอาการปวด และบวมลงได้
2. ใช้กรรไกรตัดเล็บเพื่อตัดเล็บส่วนเกินที่ไม่ใช่เล็บขบออก ลดความเสี่ยงในการเกิดการอักเสบหรือติดเชื้อจากเศษผงหรือสิ่งสกปรกที่ค้างอยู่ที่เล็บ
3. เช็ดเล็บให้สะอาดด้วยแอลกอฮอล์ 70%
4. ใช้กรรไกรตัดเล็บเล็มเนื้อที่เป็นเล็บขบออก โดยตัดจากด้านข้างเข้ามาทีละนิด ไม่จำเป็นต้องตัดเนื้อที่อักเสบออกไปทั้งหมด ตัดเท่าที่ตัดไหวเพื่อลดความเจ็บปวด
5. ปั้นสำลีเป็นก้อนเล็กๆ แล้วคั่นระหว่างนิ้วที่เป็นเล็บขบ เพื่อป้องกันการเสียดทานระหว่างเล็บของแต่ละนิ้วที่สามารถทำให้เล็บขบกำเริบอีกครั้ง
6. ทายาแก้อักเสบลงไปยังบริเวณที่เป็นเล็บขบ เพื่อรักษาอาการอักเสบที่เหลืออยู่ หากมีอาการปวดมากสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
7. พยายามเปลือยเท้าให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หรืออย่างน้อยขณะที่เป็นเล็บขบ ควรใส่รองเท้าแตะไว้ก่อน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ทำให้เล็บขบหายเร็วขึ้นได้

   

   วิธีป้องกันอาการเล็บขบที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

   1. รักษาความสะอาดของเท้าอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อโรคที่อาจทำให้เกิดเล็บขบได้
   2. ตัดเล็บเท้าให้มีความยาวเหมาะสมโดยไม่ตัดเกินไป เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดเล็บขบ
   3. สวมใส่ถุงเท้าและรองเท้าที่มีความสะอาดและไม่ชื้น เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคในรอยเท้า
   4. บำรุงเท้าให้เนียนนุ่มโดยใช้ครีมหรือน้ำมันบำรุงเท้าเพื่อป้องกันการแตกหรือเกิดเล็บขบ
   5. เลือกใส่รองเท้าที่มีหัวแหลมเรียวหรือส้นสูงให้น้อยลง เพื่อลดแรงกระแทกที่เท้าที่อาจทำให้เกิดเล็บขบได้
   6. หลีกเลี่ยงให้มือและเท้าเปียกชื้นอย่างต่อเนื่อง เพราะความชื้นอาจสร้างสภาพที่เหมาะสมสำหรับการเกิดเชื้อโรคและเล็บขบ

   นอกจากนี้ หากเล็บขบมีอาการแสดงว่าเกิดการติดเชื้อที่ร้ายแรง เช่น มีหนอง หรือมีอาการปวดมาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสมและทันที การใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงอันตรายต่อสุขภาพ