รวมประโยชน์ของ สับปะรด วิตามินเพียบ แร่ธาตุเยอะ หวานอร่อย สดชื่น!

1. วิตามิน C (Vitamin C): สับปะรดเป็นแหล่งวิตามิน C ที่ดี ซึ่งมีบทบาทในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยในกระบวนการฟื้นฟูเซลล์และรักษาผนังเลือดแข็งตัว
2. ธาตุเหล็ก (Iron): สับปะรดมีปริมาณธาตุเหล็กที่สูง มีประโยชน์ในการสร้างเซลล์เลือดแดง ช่วยในกระบวนการการลดความเมื่อยล้าและความอ่อนเพลีย
3. ไฟเบอร์ (Fiber): สับปะรดมีไฟเบอร์ที่สูง สามารถช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและลดความดันเลือด
4. เอ็นไซม์และกรดอินทรีย์: สับปะรดมีเอ็นไซม์ที่ช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร และกรดอินทรีย์ที่สามารถช่วยลดอาการท้องเสีย
5. กรดสลัด (Bromelain): สับปะรดมีสารกรดสลัดที่เรียกว่า bromelain ซึ่งมีความสามารถในการช่วยย่อยโปรตีน และมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบ
6. กรดฟอลิค (Folic Acid): สับปะรดมีกรดฟอลิคที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคที่เกี่ยวกับระบบทารกแรกเกิด
7. ประโยชน์ต่อระบบทางเดินอาหาร: สับปะรดมีสารที่ช่วยในการลดอาการท้องอืด และมีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการท้องที่ค้างอาหาร
8. ลดความเครียดและอัตราการหัวเราะ: กลิ่นหอมของสับปะรดสามารถช่วยลดความเครียดและกระตุ้นอัตราการหัวเราะ
9. ช่วยลดน้ำหนัก: ไฟเบอร์ที่มีในสับปะรดช่วยเพิ่มความอิ่มนานและลดการหิว
10. ส่วนผสมในการบำรุงผิว: สับปะรดสามารถใช้ทาหน้าหรือเป็นส่วนผสมในการทำมาส์กผิวเพื่อบำรุงผิวหน้าได้

    

สับปะรดมีคุณค่าทางโภชนาการที่สูง และมีส่วนผสมต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย. นี่คือคุณค่าทางโภชนาการของสับปะรดในส่วนต่อไปนี้:

• ส่วนผสมใน 100 กรัมของสับปะรด (ประมาณ):
  1.พลังงาน: 50 กิโลแคลอรี
  2.โปรตีน: 0.5 กรัม
  3.ไขมัน: 0.1 กรัม
  4.คาร์โบไฮเดรต: 13.1 กรัม
  5.ใยอาหาร: 1.4 กรัม
  6.น้ำตาล: 9.9 กรัม
  7.วิตามิน C: 47.8 มิลลิกรัม (ประมาณ 80% ของปริมาณวิตามิน C ที่แนะนำในแต่ละวัน)
  8.แคลเซียม: 13 มิลลิกรัม
  9.เหล็ก: 0.3 มิลลิกรัม
  10.แมกนีเซียม: 12 มิลลิกรัม
  11.ฟอสฟอรัส: 8 มิลลิกรัม
  12.โพแทสเซียม: 1 มิลลิกรัมสับปะรดมีพลังงานที่ไม่สูงมาก แต่มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามิน C ที่มีปริมาณสูงและมีผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกันและการผลิตคอลลาเจนในร่างกาย ทำให้ผิวหนังและหลอดเลือดมีสุขภาพดี การบริโภคสับปะรดเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มปริมาณวิตามิน C และอื่นๆ ที่สำคัญในอาหารของคุณ.

  

การบริโภคสับปะรดมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย, แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่ควรทราบ:

1. สารกรดบรอมิเลน (Bromelain): สับปะรดมีสารกรดบรอมิเลนที่อาจทำให้คนบางคนแพ้ หรือมีอาการปวดท้องหลังทานมากๆ จะมีความจุในสารนี้มากขึ้น ดังนั้น, หากคุณมีประวัติการแพ้สารอาหารหรือการตอบสนองที่ไม่พึงประสงค์, ควรระวังการบริโภคสับปะรดมากๆ.
2. เม็ดสับปะรด (Core): การบริโภคเม็ดสับปะรดอาจทำให้รู้สึกไม่สบายหรือท้องอืด โดยเฉพาะถ้าบริโภคมากๆ หรือถ้าคุณมีประวัติท้องอืด.
3. ผลกระทบต่อระบบย่อยอาหาร: สับปะรดมีสารอาหารที่สามารถกระตุ้นกระบวนการย่อยอาหาร ทำให้บางคนที่มีปัญหาในระบบย่อยอาหาร หรือมีกรดสูงอาจมีอาการไม่พึงประสงค์หลังการบริโภคสับปะรด.
4. ประวัติโรค: ผู้ที่มีประวัติของโรคหรือสภาวะทางการแพทย์บางประการอาจต้องปรึกษาแพทย์ก่อนการบริโภคสับปะรด โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาในระบบไต, โรคเบาหวาน, หรือโรคทางหัวใจ.
5. การบริโภคมากมาย: กการบริโภคน้ำตาลเกินไปและมีผลกระทบต่อระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย.

เพื่อความปลอดภัย, ควรให้ความสำคัญในการรับประทานสับปะรดอย่างเป็นความสมดุล และถ้าคุณมีปัญหาสุขภาพหรือข้อกังวลในการบริโภคสับปะรด, ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อคำแนะนำที่เหมาะสม.