ปั๊มน้ำ : สุดยอดเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาเรื่องการใช้น้ำในครัวเรือน

น้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อทุก ๆ ครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นการบริโภคหรือการใช้ในทางอุตสาหกรรม หลายครัวเรือนอาจเผชิญกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับน้ำ เช่น น้ำไหลช้า, น้ำดันหยุดไหลไปดื้อ ๆ ขณะกำลังอาบน้ำอยู่

ในกรณีที่คุณต้องการการแก้ไขปัญหาน้ำเหล่านี้อย่างทันที “ปั๊มน้ำ” จะเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ประจำในครัวเรือน ดังนั้นการติดตั้งปั๊มน้ำจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำที่หลายคนพบเจอได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากความสะดวกในการใช้น้ำตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว ยังปั๊มน้ำหลากหลายประเภทที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้

สำหรับใครที่กำลังมองหาปั๊มน้ำที่เหมาะสมกับการใช้งานสักเครื่อง บทความนี้ได้รวบรวมวิธีการเลือกปั๊มน้ำแต่ละประเภทมาแนะนำกัน

วิธีการเลือกปั๊มน้ำให้ตอบโจทย์การใข้งาน

อย่างที่ทราบกันดีการเลือกปั๊มน้ำ ไม่ได้หมายความถึงการเลือกอุปกรณ์ที่สามารถผลักดันน้ำไปยังจุดที่ต้องการได้เท่านั้น แต่ยังคือการเข้าใจเทคโนโลยีและความต้องการในการใช้งาน ซึ่งปั๊มน้ำแต่ละประเภทนั้นมีลักษณะและการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้ปั๊มน้ำควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ :

1. เลือกโดยพิจารณาจากประเภทของปั๊มน้ำ :

ปั๊มน้ำที่ใช้ในบ้าน มีหลากหลายประเภท โดยหลัก ๆ เราสามารถเลือกประเภทของปั๊มน้ำให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานได้ ดังนี้ :

  • ปั๊มน้ำแรงดันอัตโนมัติ : ปั๊มน้ำแรงดันอัตโนมัติเป็นปั๊มที่สามารถปรับแรงดันของน้ำได้โดยอัตโนมัติตามความต้องการ มีความสามารถทำงานเองโดยไม่ต้องมีการควบคุมจากระบบภายนอก ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในบ้านหรือที่ที่มีการใช้น้ำที่คงที่

  • ปั๊มหอยโข่ง : ปั๊มหอยโข่งมีลักษณะการทำงานที่เหมาะสำหรับการบริโภคน้ำไหลช้าหรือน้ำจากระดับต่ำ มีลำแสงทำหน้าที่ดูดน้ำเข้ามาและผลักดันให้ไหลออกมีความสามารถทำงานในสภาวะที่น้ำมีการหยุดไหล.

  • ปั๊มซับเมอร์ส : ปั๊มซับเมอร์สถูกออกแบบมาเพื่อประหยัดพลังงาน มีความสามารถปรับการทำงานตามปริมาณน้ำที่ใช้งาน ทำให้มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน

  • ปั๊มน้ำจุ่ม : ปั๊มน้ำจุ่มเหมาะสำหรับการใช้น้ำจากบ่อหรือสระ มีลำแสงที่ลอยอยู่ในน้ำและสามารถดูดน้ำขึ้นมาใช้งานได้

 

2. เลือกปั๊มน้ำที่เหมาะสมสำหรับที่พักอาศัย

ปั๊มน้ำสำหรับใช้ในที่พักอาศัยส่วนมากมักจะเป็นปั๊มน้ำอัตโนมัติ จึงควรพิจารณาลักษณะต่าง ๆ และวิเคราะห์ความต้องการในการใช้งานเพื่อให้ได้ปั๊มที่เหมาะสมที่สุด ปั๊มน้ำที่ใช้ในที่พักอาศัยมักแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ที่มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน

  • ปั๊มน้ำอัตโนมัติชนิดถังแรงดัน หรือถังกลม : เป็นปั๊มน้ำอัตโนมัติรุ่นแรกเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากในตอนแรก ๆ ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อดีก็คือ น้ำแรงสะใจ ทนทานและบำรุงรักษาง่าย แต่ก็มีข้อเสียหลักซึ่งก็คือ แรงดันน้ำไม่คงที่ทำให้จ่ายน้ำไม่สม่ำเสมอ เสียงค่อนข้างดังพอสมควรเวลาเครื่องทำงาน และมีขนาดใหญ่กว่าปั๊มชนิดแรงดันคงที่

  • ปั๊มน้ำอัตโนมัติชนิดแรงดันคงที่ หรือปั๊มน้ำถังเหลี่ยม :  มีหลักการทำงานที่คล้ายกับปั๊มอัตโนมัติชนิดมีถังแรงดัน ซึ่งมีข้อดีคือ ถึงแม้จะเปิดน้ำใช้พร้อมกันหลาย ๆ จุด แต่แรงดันน้ำก็ยังสม่ำเสมอเท่ากันทุกที่ อุณหภูมิของเครื่องทำน้ำอุ่นก็คงที่เช่นกัน อีกทั้งเสียงยังเงียบกว่าขณะทำงาน ขนาดก็เล็กไม่กินพื้นที่ แต่ก็มีข้อเสียซึ่งก็คือ หากมีอากาศปนมากับน้ำมากก็จะทำให้เครื่องร้อนเพราะต้องทำงานหนัก และค่าบำรุงรักษาก็แพง และจำเป็นต้องติดตั้งในร่มอีกด้วย

  • ปั๊มน้ำอัตโนมัติแบบอินเวอร์เตอร์ : เป็นปั๊มน้ำที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ที่พัฒนามาจากปั๊มน้ำอัตโนมัติชนิดแรงดันคงที่ ซึ่งมีข้อดีประหยัดพลังงาน เสียงเงียบขณะทำงาน อีกทั้งเวลาเปิดน้ำใช้พร้อมกันหลาย ๆ จุด แรงดันน้ำก็ยังสม่ำเสมอเท่ากันทุกที่ แต่ก็มีข้อเสียคือราคาค่อนข้างแพงกว่าชนิดถังแรงดัน และชนิดแรงดันคงที่ แถมยังการบำรุงรักษายากกว่าหากว่ามีการชำรุดเสียหาย เนื่องจากความซับซ้อนของระบบนั่นเอง

3. เลือกขนาดของมอเตอร์หรือกำลังวัตต์ให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งาน

การเลือกปั๊มน้ำนอกจากจะจากชนิดของปั๊มน้ำแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกปั๊มน้ำ นั่นก็คือ ขนาดของมอเตอร์ปั๊มน้ำหรือกำลังวัตต์ โดยควรพิจารณาตามปัจจัยดังต่อไปนี้ :

  • พิจารณาจากจำนวนชั้นหรือความสูงของบ้านและจำนวนผู้พักอาศัยภายในบ้าน : บ้านยิ่งสูง ระยะส่งน้ำก็ต้องสูงตาม ซึ่งเพิ่มกำลังวัตต์ของปั๊มน้ำต้องเพิ่มขึ้นด้วย และถ้าจำนวนผู้พักอาศัยในบ้านมีจำนวนมาก ปริมาณการใช้น้ำก็มากตามด้วย ดังนั้นกำลังวัตต์ของปั๊มน้ำต้องเพิ่มขึ้นให้เหมาะสมด้วย

  • จำนวนจุดที่มีโอกาสจะใช้น้ำพร้อม ๆ กัน : หากที่บ้านมีการใช้น้ำพร้อม ๆ กันหลายจุด  ก็ต้องคำนวณว่ากำลังวัตต์ของปั๊มน้ำจะเพียงพอหรือไม่ ถ้าเปิดน้ำใช้พร้อม ๆ กัน