ประโยชน์ และเรื่องน่ารู้ของอินทผลัม

“อินทผลัม” หรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่า “Dates” เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกับปาล์ม มักถูกปลูกในภูมิประเทศที่มีอากาศร้อน เช่น ประเทศอาหรับและประเทศอิหร่าน ในประเทศไทยก็มีการเพาะปลูกอินทผลัมเพื่อให้ได้ผลผลิตที่สวยงามและรสชาติหวานอร่อยเหมาะสำหรับการบริโภค อินทผลัมมีหลายสายพันธุ์ที่สามารถเลือกปลูกได้ตามความต้องการ แต่ก็เกิดความยากลำบากสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการเลือกซื้ออินทผลัม เนื่องจากมีหลากหลายสายพันธุ์ที่มีรสชาติแตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนลิ้นและคุณประโยชน์มากมาย

ด้วยสายพันธุ์ที่มีมากขึ้นทำให้มีความยากลำบากสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นรับประทานอินทผลัม ซึ่งอาจไม่ทราบว่าสายพันธุ์ไหนมีรสชาติแบบไหนและมีความหวานอย่างไร ดังนั้นในบทความนี้เราจะนำเสนอข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับวิธีการเลือกอินทผลัม เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกได้รสชาติที่ตรงตามความพอใจของตนเอง และได้รับประโยชน์จากคุณค่าทางโภชนาการของอินทผลัมอย่างเต็มที่

ประโยชน์มากมายของอินทผลัม

อินทผลัม มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เป็นผลไม้ที่เป็นแหล่งรวมของพลังงาน ใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก และแมกนีเซียมที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในทุกด้าน
อินทผลัมเป็นผลไม้ที่ชาวมุสลิมนิยมรับประทานกันในช่วงถือศีลอด เพื่อเพิ่มพลังงานและความแข็งแรงให้กับร่างกาย นอกจากนี้ยังมีผลต่อระบบทางเดินอาหาร ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร ลดความหิว และช่วยเรื่องการขับถ่าย
อินทผลัมยังเป็นแหล่งโพแทสเซียมที่มีปริมาณสูง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดในสมองและควบคุมความดันโลหิต นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงสมอง บรรเทาความเครียด และลดความเสี่ยงของความดันโลหิตต่ำ ซึ่งอาจมีการลดน้ำตาลในเลือดอย่างเฉียบพลัน

ข้อควรระวังในการรับประทานอินทผลัม

ในกรณีของผู้ป่วยโรคไตวายและผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลว ควรระมัดระวังในการรับประทานอินทผลัม เนื่องจากโพแทสเซียมที่มีอยู่สูงในอินทผลัม สามารถมีผลกระทบต่อสุขภาพได้ เพราะฉะนั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนบริโภค นอกจากนี้ผู้ป่วยเบาหวานควรควบคุมปริมาณการบริโภคอินทผลัมในระดับที่ไม่เกินวันละ 4 – 5 ลูก เพื่อป้องกันการกำเริบของโรคที่อาจมีผลเสียต่อร่างกาย

สายพันธุ์ของอินทผลัมที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย

อินทผลัมที่จำหน่ายทั่วไป ถ้าดูแบบผิวเผินอาจจะดูเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วอินทผลัมมีสายพันธุ์ที่แตกต่างกันทั้งในรสชาติและเนื้อสัมผัส เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติที่ดีที่สุด เราขอแนะนำสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมาให้คุณได้อ่านและเลือกตามความชอบของคุณ

1. อินทผลัมสายพันธุ์ Barhi
   อินทผลัมสายพันธุ์ Barhi นั้นถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากในประเทศไทย มักถูกปลูกในสภาพอากาศที่ร้อนและได้รับการนำเข้ามาปลูกอย่างแพร่หลาย ผลผลิตที่ได้จึงมีลักษณะที่น่าตั้งใจ มีขนาดใหญ่ ทรงกลมรีเล็กน้อยและเปลือกสีเหลืองนวล
   รสชาติของ Barhi นั้นมีความหวานกรอบที่โดดเด่น นอกจากนี้เนื้อของผลมีความนุ่มอร่อย ทำให้เหมาะทั้งในการรับประทานแบบสดและแบบแห้ง ในแบบสดนั้นยังมีรสฝาดเล็กน้อยที่เพิ่มความเป็นมิตรกับปาก ด้วยรสชาติที่หวานที่มีความดีและเนื้อที่นุ่มนวล ทำให้อินทผลัมสายพันธุ์ Barhi ได้รับความนิยมสูงในวงกลมผู้ชื่นชอบผลไม้
2. อินทผลัมสายพันธุ์ Deglet Nour
   เมื่อพูดถึงอินทผลัมที่มีรสชาติที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ ไม่ควรพลาดอินทผลัมสายพันธุ์ Deglet Nour ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอินทผลัมที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในการส่งออกไปขายยังต่างประเทศ สายพันธุ์นี้มักถูกเพาะปลูกในประเทศตูนีเซียและประเทศแอลจีเรีย
   Deglet Nour มีลักษณะทรงร่างเรียวยาว เปลือกสีเหลืองอมน้ำตาล และมีรสชาติหวานน้อยที่ทำให้เหมาะที่จะรับประทานง่าย เคี้ยวเพลิน เนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุน นอกจากนี้ยังมีความนิยมในการรับประทานแบบแห้งอีกด้วย
3. อินทผลัมสายพันธุ์ Medjool
   หนึ่งในอินทผลัมที่ต้องไม่พลาดในการลิ้มลองคือ อินทผลัมสายพันธุ์ Medjool ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศโมร็อกโก นับเป็นหนึ่งในอินทผลัมที่ได้รับความนิยมเนื่องจากรสชาติที่หวานละมุนคล้ายกับคาราเมลหรือน้ำผึ้ง
   เนื้อสัมผัสของ Medjool อาจจะดูแห้งเนื่องจากมีความเป็นเนื้อทรายเล็กน้อย แต่ก็ยังคงความนุ่มอร่อยอยู่ ทำให้ได้รับฉายา “ราชาแห่งอินทผลัม” ด้วยลักษณะของผลที่กลมใหญ่ มีเนื้อและกากใยสูง เมื่อผลสุกจะมีสีออกน้ำตาลอมแดง นอกจากนี้ยังนิยมในการรับประทานแบบแห้ง ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชื่นชอบความหวานและรสชาติที่เข้มข้นของอินทผลัม
4. อินทผลัมสายพันธุ์ Ajwa
   อินทผลัมสายพันธุ์ Ajwa นั้นมีลักษณะที่แตกต่างจากสายพันธุ์อื่น ๆ มาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ผลมีลักษณะกลมใหญ่ สีน้ำตาลเข้มจัดเมื่อผลสุก หรือแม้กระทั่งสีน้ำตาลแดงอมดำ นิยมรับประทานในรูปแบบแห้ง มีรสชาติหวานน้อย และเนื้อสัมผัสแห้งเล็กน้อย แม้ว่าจะแห้งเนื่องจากความหวาน แต่คงความนุ่มและมีกากใยที่สูง ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักและผู้ป่วยโรคเบาหวาน

วิธีการเลือกซื้ออินทผลัม ทั้งแบบผลสดและแบบแห้ง

1. วิธีเลือกอินทผลัมแบบสดมีสองแบบ หากคุณไม่ต้องการรับประทานทันที คุณสามารถเลือกอินทผลัมที่ยังไม่สุกมากนัก สังเกตได้จากความตึงๆ ของผิวด้านนอกและรสชาติที่มีความฝาดเล็กน้อย ลักษณะนี้ทำให้สามารถเก็บได้นานถึง 3-4 วัน

สำหรับคนที่ต้องการรับประทานทันที ควรเลือกลูกที่มีสีเขียวอ่อน สัมผัสแล้วมีความนิ่ม และเนื้อด้านในมีความฉ่ำ รสชาติจะหวานอร่อย พันธุ์ที่นิยมรับประทานอินทผลัมสดคือ Barhi

2. วิธีเลือกอินทผลัมแบบแห้ง เมื่อพูดถึงการเลือกซื้ออินทผลัมแบบแห้ง วิธีการนั้นมีความคล้ายคลึงกับการเลือกอินทผลัมสดในบางที่ โดยทั่วไปแล้วควรสังเกตวันที่ผลิตที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ สำหรับยี่ห้อ คุณสามารถเลือกตามความชอบของคุณได้ และจุดสังเกตที่ควรรู้เลยคือสายพันธุ์ เพราะแต่ละสายพันธุ์จะมีรสชาติต่างกันนั่นเอง