ทราบหรือไม่ว่าทุกวันที่ 6 กุมภาพันธ์ของทุกปีนี้เป็นวันที่เฉลิมฉลองแห่งชาเขียว? ในวงบริโภคทั่วโลก, ชาเขียวถือเป็นอีกหนึ่งชนิดของชาที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดเนื่องจากประโยชน์ที่มีต่อร่างกายและจิตใจของเรา
ชาเขียวนั้นไม่เพียงแต่มีรสชาติที่หอมหวานและเข้มข้น, แต่ยังนับถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการดูแลสุขภาพ วิธีการผลิตชาเขียวนั้นมีความพิเศษ เพราะใช้ใบชาสดจากต้นโดยไม่ผ่านขั้นตอนการหมัก แค่ให้ใบชาผ่านความร้อนเพื่อยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ ทำให้ชาเขียวยังคงความสด, สีเขียวสวย และรสชาติที่หอมหวาน ที่คงความเป็นธรรมชายังคงอยู่
“ประโยชน์ที่น่าทึ่งของชาเขียว 🍵
ชาเขียวไม่เพียงแค่เป็นเครื่องดื่มที่อร่อยและหอมหวานที่ทำให้คนหลายคนหลงรัก, แต่ยังมีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพที่ทำให้เป็นที่นิยมมากขึ้น ต่อไปนี้คือประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการดื่มชาเขียว:
1. ลดคอเลสเตอรอล: ชาเขียวช่วยลดระดับไขมันชนิดไม่ดีในร่างกาย, ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และเพิ่มปริมาณไขมันชนิดดีที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของเรา
2. ช่วยลดน้ำหนัก: สารต่างๆ ในชาเขียวสามารถเสริมการเผาผลาญพลังงานและไขมัน, ทำให้ช่วยลดน้ำหนักโดยเฉพาะไขมันที่อยู่ที่หน้าท้อง
3. ลดกลิ่นปากและป้องกันฟันผุ: มีสารโพลิฟีนอลและแคททีซินในชาเขียวที่ช่วยลดกลิ่นปากและป้องกันฟันผุจากแบคทีเรีย
4. ชะลอความแก่: ชาเขียวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า, ลดริ้วรอยและจุดด่างดำ, ทำให้ผิวเปล่งปลั่งและดูอ่อนเยาว์
5. ป้องกันโรคเบาหวาน: ชาเขียวช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินและลดระดับน้ำตาลในเลือด, เป็นการป้องกันโรคเบาหวาน
6. ลดความเสี่ยงสมองเสื่อม: สารสกัดจากชาเขียวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อของสมอง, ป้องกันเซลล์ประสาทและลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะสมองเสื่อม
การดื่มชาเขียวไม่เพียงแค่เป็นประสบการณ์ทานของอร่อย, แต่ยังเป็นการดูแลสุขภาพที่น่าสนใจ ทำให้ชาเขียวกลายเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเพิ่มคุณภาพชีวิตของเรา”
“การดื่มชาเขียวอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
นอกจากสรรพคุณมากมายที่ได้รับจากการดื่มชาเขียวแล้ว, หากคุณต้องการให้การดื่มชาเขียวมีประโยชน์มากที่สุด, ควรทราบถึงวิธีการดื่มที่เหมาะสม ต่อไปนี้คือเคล็ดลับในการดื่มชาเขียวที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของประโยชน์:
1. หลีกเลี่ยงการดื่มชาเขียวกับนม: การผสมชาเขียวกับนมอาจทำให้โปรตีนในนมจับกับสารอาหารของชาเขียว, ลดประโยชน์ทางสุขภาพ
2. ชาเขียวต้องเข้มข้น: เลือกดื่มชาเขียวที่เข้มข้นเพื่อให้ได้สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพต่อร่างกาย
3. ดื่มเมื่อชงเสร็จใหม่ ๆ: สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลตในชาเขียวมีประโยชน์ต่อร่างกายและควรดื่มทันทีหลังจากชงเสร็จ
4. ดื่มไม่เกิน 4 – 5 ถ้วยต่อวัน: การดื่มเกินปริมาณนี้อาจทำให้ได้รับคาเฟอีนมากเกินไปและส่งผลกระทบต่อร่างกาย
5. ดื่มระหว่างกินข้าว: การดื่มชาเขียวระหว่างมื้ออาหารช่วยให้อิ่มง่ายและป้องกันการดูดซึมไขมันในร่างกาย
6. ไม่ผสมน้ำตาล: เลือกชาเขียวที่ไม่มีการเพิ่มน้ำตาล หรือใช้ใบชาสดหรือถุงชาสำหรับชงเพื่อประโยชน์ที่สูงสุด”
