ประวัติ โคโค่ ลี นักร้องดีว่าชื่อดังในยุค 90 ผู้จากไปเพราะโรคซึมเศร้า

ประวัติ โคโค่ ลี นักร้องดีว่าชื่อดังในยุค 90 ผู้จากไปเพราะโรคซึมเศร้า

 โคโค่ ลี นักร้องดีว่าชื่อดังในยุค 90 ผู้จากไปเพราะโรคซึมเศร้า

“ในวันพุธที่ 5 กรกฎาคม 2566, โคโค่ ลี, นักร้องเพลงป๊อปที่เคยโด่งดังในยุค 90, เสียชีวิตที่บ้านของเธอในฮ่องกง ในวัยที่เพียง 48 ปีเท่านั้น สาเหตุของเหตุการณ์นี้เกิดจากการตัดสินใจอย่างสิ้นเชิงในการจบชีวิตตัวเอง.

พี่สาวของเธอได้เผยแพร่ข้อมูลบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับการต่อสู้ของโคโค่กับโรคซึมเศร้าที่รุนแรงมานานหลายปี ซึ่งอาการที่แย่ลงของเธอได้เพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สุดท้ายก็นำไปสู่การจบชีวิตเสียชีวิต.

นับเป็นระยะเวลา 29 ปีที่โคโค่ลีก้าไว้ในวงการดนตรี, เธอสร้างผลงานมหาศาลและกลายเป็นนักร้องเชื้อสายจีนแรกที่ได้รับการยอมรับในตลาดเพลงของสหรัฐฯ ผลงานของเธอตกลงใจแฟนๆ เพลงทั้งในเอเชียและอเมริกาในช่วงยุคที่กล่าวถึง.

ขณะที่โคโค่ลีจบการทำงานในโลกนี้เมื่อวันพุธที่ 5 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ทางพี่สาวได้เปิดเผยว่า น้องสาวของเธอเสียชีวิตหลังจากพยายามทำอัตตวินิบาตกรรมในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (2 กรกฎาคม) ทำให้เธอต้องเผชิญกับอาการโคม่า แม้แพทย์จะพยายามทำทุกวิธี เธอก็ไม่สามารถรอดชีวิตได้.

ความทรงจำที่เหลือในหัวใจของแฟนๆ และวงการเพลงจะยังคงอยู่กับผลงานที่โคโค่ลีสร้างไว้, นับเป็นเสียงที่ทรงพลังที่ติดตามมาตลอดยุค 1990-2000 และเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ. ในตอนนี้, เธอจะยังคงอยู่ในความทรงจำของเราอย่างไม่มีที่สิ้นสุด.”

ประวัติโคโค่ ลี

โคโค่ ลี เป็นนักร้องเพลงป๊อปที่เคยดังและโด่งดังในยุค 90 ซึ่งตลอดเส้นทาง 29 ปีในสายอาชีพนักดนตรีของเธอ, เธอสร้างผลงานมหาศาลและกลายเป็นนักร้องเชื้อสายจีนคนแรกที่ได้รับการยอมรับในตลาดเพลงของสหรัฐฯ. เธอมีโอกาสร่วมงานกับฮอลลีวูดและผู้กำกับชื่อดังหลายคน, ทำให้เธอกลายเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ.

โคโค่ ลี ช่วงชีวิตในวัยเด็ก

ช่วงชีวิตเด็กของโคโค่ลีเริ่มต้นเมื่อเธอเกิดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2518, โดยมีชื่อเดิมว่า เฟอร์เรน ลี. เธอเป็นลูกคนเล็กจากบิดาชาวมาเลเซียและมารดาชาวฮ่องกง. พี่สาว 2 คนของเธอมีชื่อว่า แนนซี ซึ่งในภายหลังจะกลายเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเธอ, และเฟอร์นันด์ ซึ่งเป็นนักกีฬาลีลาศชื่อดัง.

แต่ทว่า, บิดาของโคโค่เสียชีวิตตอนที่เธอยังเด็ก. เมื่ออายุได้ 9 ขวบ, เธอพร้อมกับพี่ๆ ย้ายไปอาศัยในเมืองซานฟรานซิสโก ในสหรัฐอเมริกา. เธอได้รับการศึกษาในโรงเรียนชั้นมัธยมต้นที่โรงเรียน เพรซิดิโอ มิดเดิล สคูล และชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียน ราอูล วอลเลนเบิร์ก เทรดิชันนัล ไฮสคูล.

หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมปลายในปี 2535, โคโค่เดินทางกลับฮ่องกงเพื่อร่วมเชียร์พี่สาวทั้ง 2 คนที่เข้าประกวดนางงามฮ่องกง. ในขณะที่พี่สาวร่วมแข่งขันงานนางงาม, เธอเองก็ลงทะเบียนเข้าร่วมการประกวดร้องเพลงประจำปีรายการ นิว ทาเลนต์ ซิงกิง อวอร์ดส์ ครั้งที่ 12 และได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 จากการร้องเพลง ‘Run to You’ ของวิตนีย์ ฮิวสตัน.”

เส้นทางการเป็นศิลปินของโคโค่ ลี

เมื่อโคโค่ ลี ประทับตาประชาชนในการประกวดค่ายเพลง แคปิตอล อาร์ติสต์ (Capital Artists) ในวันเดียว, ค่ายนี้ก็มีความสนใจและยื่นข้อเสนอสัญญาทำเพลงให้เธอ. การได้รับข้อเสนอนี้ทำให้โคโค่ตัดสินใจยุติการเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย ในเมืองเออร์วิน เพื่อที่จะตั้งสมาธิทำงานสายอาชีพเพลงป๊อปของเธอ. ปี 2536, เธอเปิดตัวเพลงของตัวเองในอัลบั้มรวมมิตรเพลงดังต่างๆ เช่น ‘Red Hot Hits ปี 93’ ซึ่งเป็นอีกขั้นตอนที่ทำให้ชื่อเสียงของเธอเติบโต.

ในปีต่อมา, โคโค่ ลี ทำงานกับค่าย แฟนซี พาย เรคคอร์ดส์ (Fancy Pie Records) และได้ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวภาษาแมนดารินเริ่มแรกชื่อ ‘Love from Now On,’ ตามด้วยอัลบั้ม ‘Promise Me’ ในปี 2538. ในปี 2539, โคโค่ทำสัญญากับบริษัท โซนี่ มิวสิก เอนเตอร์เทนเมนต์ และปล่อยอัลบั้มเปิดตัว ‘Coco Lee,’ ที่กลายเป็นอัลบั้มขายดีที่สุดในเอเชียในปีนั้น.

การทำงานในสายอาชีพของโคโค่เริ่มขยายไปสู่ระดับนานาชาติ, เธอได้รับคำเชิญจากบริษัทวอลต์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ส เพื่อร้องเพลง ‘Reflection’ ประกอบภาพยนตร์แอนิเมชัน ‘มู่หลาน’ และให้พากย์เสียงตัวละคร ฟา มู่หลาน ในภาพยนตร์เวอร์ชันภาษาแมนดาริน. ในปี 2542, โคโค่ ได้รับโอกาสจัดคอนเสิร์ตในไต้หวันที่มีผู้ชมมากกว่า 30,000 คน, เป็นคอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในไต้หวัน.

ในช่วงเวลาต่อมา, โคโค่ปล่อยอัลบั้มในเอเชียมากกว่า 20 อัลบั้มและเข้าร่วมการแข่งขัน I Am A Singer ที่จีน, ที่ทำให้เธอคว้าตำแหน่งชนะเลิศในซีซั่นที่ 4 ในปี 2559. เธอยังมีการปล่อยเพลงซิงเกิลใหม่อย่างต่อเนื่อง, โดยเพลง ‘Tragic’ เป็นล่าสุดที่ปล่อยในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา.

ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2546, โคโค่ ลี ปล่อยอัลบั้มสุดท้ายของเธอในชื่อ ‘Illuminate,’ แม้กระทั่งท้ายสุด, เธอยังคงมีความก้าวหน้าด้วยเพลงซิงเกิลใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง. ตลอดเส้นทางอาชีพ, โคโค่ ลี กลายเป็นนักร้องที่ไม่ได้มาจากแผ่นดินใหญ่ของจีนเท่านั้นที่ทำได้.”

โคโค่ ลี แต่งงานกับนักธุรกิจชาวแคนาดา

โคโค่ ลี: ชีวิตส่วนตัวและความรัก

“โคโค่ ลี: ชีวิตส่วนตัวและความรัก

ในด้านชีวิตส่วนตัว, โคโค่ ลี แต่งงานกับนายบรูซ ร็อกโควิตซ์, นักธุรกิจชาวแคนาดาเชื้อสายยิว และเป็นอดีตซีอีโอของบริษัทซัพพลายเชน Li & Fung ในฮ่องกง. พิธีสมรสอย่างอลังการได้ถูกจัดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2554 ที่ฮ่องกง, โดยมีเพลง “I just wanna marry u” เป็นเพลงประกอบทั้งในภาษาแมนดารินและภาษาอังกฤษ. เพลงนี้ได้ถูกเปิดตัวเพียง 4 วันก่อนงานแต่งงาน.

คู่บ่าวสาวนี้ไม่มีลูกด้วยกัน, แต่ในปี 2559, โคโค่ ลี เปิดเผยว่า เธอได้รับเลี้ยงลูกสาว 2 คน, ซึ่งเป็นลูกติดของฝ่ายสามี. และในปี 2561, โคโค่ยอมรับว่า เธอเคยพยายามทำเด็กหลอดแก้วเพื่อที่จะมีลูกเป็นของตัวเอง.”

โรคซึมเศร้าและการเสียชีวิต

ในวันพุธที่ 5 กรกฎาคม 2566, ความเศร้าที่ลึกลับโลกบันเทิงกำลังรอคอยทุกคน เนื่องจาก ข่าวการเสียชีวิตของโคโค่ ลี, นักร้องป๊อปที่มีชื่อเสียงในยุค 90 ที่นำเสนอความสดใสและเสียงสายหวานที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักมากมายในทุกที่ทำงาน.

แม้โคโค่จะยังคงปรากฏตัวในงานอีเวนต์บันเทิงอย่างไม่ทบทวน, พี่สาว แครอล และ แนนซี ลี, ทั้งสองคนของเธอ, ได้เปิดเผยข่าวร้ายผ่านโพสต์บนโซเชียลมีเดีย. โพสต์ระบุว่า โคโค่ ต่อสู้กับโรคซึมเศร้ามานานหลายปี และอาการแย่ลงมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา, สุดท้ายนำไปสู่การจบชีวิตตัวเอง.

“แม้ว่า โคโค่ ลีจะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อต่อสู้กับอาการซึมเศร้า น่าเสียดายที่ปิศาจในตัวเธอเป็นฝ่ายชนะ” คำระบุจากพี่สาวระบุ. โคโค่ ถูกนำเข้าโรงพยาบาล ควีน แมรี หลังจากพยายามจบชีวิตตัวเองที่บ้านในฮ่องกงในวันอาทิตย์ (2 กรกฎาคม 2566).

แม้ทีมแพทย์จะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือและรักษาเธอจากอาการโคม่า, สุดท้ายโคโค่ก็จากไปในวันพุธ.

“เธอพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อเปิดโลกใบใหม่ให้แก่นักร้องชาวจีนในเวทีดนตรีนานาชาติ และเธอทุ่มเทความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชาวจีน” พี่สาวของโคโค่ระบุ.

“เราหวังว่าทุกคนจะไม่เพียงคิดถึงโคโค่ แต่จะแบ่งปันรอยยิ้มที่สดใสของเธอ, ปฏิบัติกับทุกคนด้วยความจริงใจ, มีน้ำใจ และความรัก และสานต่อความปรารถนาของเธอ ที่ต้องการให้ทุกคนรอบตัวรู้สึกถึงความรักและความสุขของเธอ”