ประวัติความเป็นมา วันวิสาขบูชา

image

วันวิสาขบูชาเป็นวันที่มีความสำคัญในพุทธศาสนิกชน เนื่องจากเป็นวันที่สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ซึ่งเกิดขึ้นในวันและเดือนเดียวกัน คือในวันเพ็ญ (ขึ้น ๑๕ ค่ำ) เดือนหก หรือเดือนเวสาขะ พระจันทร์เสวยวิสาขฤกษ์

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาแล้วกว่าสองพันห้าร้อยปี ในระยะเวลาที่ต่างกัน ครั้งแรกเมื่อพระพุทธเจ้าประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ โอรสพระเจ้าสุทโธธนะ และ พระนางสิริมหามายาแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ที่ป่าลุมพินีวัน ณ เขตแดนรอยต่อระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์และกรุงเทวทหะ ครั้งที่สองเมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ ออกทรงผนวชได้ ๖ ปี พระชนมายุ ๓๕ พรรษา ณ ริ่มฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ประเทศมคธปัจจุบันคือที่ตั้งพุทธคยา และครั้งที่สามเกิดเมื่อพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพาน เมื่อพระชนมายุ ๘๐ พรรษา ณ เมืองกุสินารา

เหตุการณ์สำคัญทั้งสามครั้งนี้เกิดขึ้นในวันและเดือนเดียวกัน ตามจันทรคติธรรมชาติ ที่นับวันขึ้นแรมตามวิถีการโคจรของดวงจันทร์ และเป็นหลักในการกำหนดวัน เดือน และปีที่ยังคงใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการกำหนดวัน เดือน และปีทางสุริยคติ ตามวิถีการโคจรของดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นเรื่องอัศจรรย์และไม่เคยมีการประจวบกันเช่นนี้ก่อน ความอัศจรรย์ของวันวิสาขบูชานี้ไม่เทียบเท่ากับเหตุการณ์ใดๆ ในโลก และมีความสำคัญมากที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประดิษฐานพระพุทธศาสนาเพื่ออนุเคราะห์โลกให้เกิดประโยชน์สุขแก่มนุษยชาติและสัตว์โลกทั้งมวล

ในวันนี้พุทธศาสนิกชนจะน้อมระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ โดยการเข้าร่วมพิธีชุมนุมตามพระอารามต่างๆ เพื่อกระทำการบูชาปูชนียวัตถุ เช่น พระธาตุเจดีย์ หรือพระพุทธปฏิมา ที่เป็นพระประธานในพระอุโบสถ การบูชานี้จะเริ่มต้นด้วยการสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย ด้วยบทสวดมนตร์ตามลำดับ ได้แก่ บทสรรเสริญพระพุทธคุณ บทสรรเสริญพระธรรมคุณ และบทสรรเสริญพระสังฆคุณ

วันวิสาขบูชาคือวันที่ชาวพุทธศาสนิกชนทั่วโลกร่วมฉลองเพื่อเป็นการรำลึกถึงความอัศจรรย์ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวาระเดียวกัน แต่เกิดขึ้นในโอกาสต่าง ๆ โดยมีความสำคัญมากทั้งหมด 3 ประการ

1. **พระพุทธเจ้าประสูติ:**
วันนี้ถือเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติขึ้นมาเป็นเอกอัครบุรุษประสูติในโลก เพื่อบำเพ็ญประโยชน์สุขและเกื้อกูลแก่ปวงชน เขาเป็นแสงสว่างและดวงประทีปของโลก มีประวัติที่เป็นที่รู้จักดีเกี่ยวกับการประสูติที่สวนลุมพินีวัน ในเวลาที่พระนางสิริมหามายาประสูติพระโอรส “สิทธัตถะ” ณ สาละนั้น และได้รับพระนามว่า “สิทธัตถะ” ในขณะที่พระกุมารประสูติได้รับพระนามว่า “สุวรรณัตถะ” ทั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่แสดงถึงความมหัศจรรย์ของวันนี้

2. **พระพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมโพธิญาณ:**
ในวันนี้เกิดการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าที่สูงสุด องค์นี้ได้ตรัสรู้อริยสัจสี่ประการที่เป็นความจริงอันประเสริฐ โดยที่เขาตรัสรู้ถึงความทรงจำของตนเองและผู้อื่นในอดีต การทรงรู้ถึงการเกิดและการสูญหายของสรรพสัตว์ทุกชนิด และการรู้เทคนิคในการกำจัดกิเลส ได้เริ่มต้นจากการเข้า “ฌาน” เพื่อบรรลุ “ญาณ” โดยที่พระพุทธเจ้าทรงประทับจำพรรษา ณ เวฬุคาม ในระหว่างทรประชวรอย่างหนัก ในยามสุดท้ายของคืนนั้น เขาได้ประทับจำพรรษาที่ป่าสาละ เพื่อดับขันธุ์ปรินิพพาน ทำให้วันนี้เป็นวันสำคัญและมีความสำคัญทางศาสนา

3. **พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน:**
วันนี้เครื่องเคียงการสำคัญอีกประการหนึ่งคือเสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน หมายถึง พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้และแสดงธรรมในระดับสูงสุดแล้ว และมิได้กลับมาเกิดใหม่เพื่อสร้างชาติและภพ ซึ่งทำให้ชาวพุทธทั่วโลกรู้สึกเสียใจและอาลัยสุดจะพรรณนา ในรอบปี พุทธศาสนิกชนจึงมีการสำรวจปฏิบัติทางศาสนา และประกอบพิธีสักการบูชาในทุกประเทศที่นับถือพุทธศาสนา

การปฏิบัติพิธีในวันวิสาขบูชาแบ่งออกเป็น 3 พิธีหลัก คือ

๑. พิธีหลวง (พระราชพิธี)
๒. พิธีราษฎร์ (พิธีของประชาชนทั่วไป)
๓. พิธีของพระสงฆ์ (คือพิธีที่พระสงฆ์ประกอบศาสนกิจเนื่องในวันสำคัญวันนี้)

การประกอบพิธีและบทสวดมนต์ในวันวิสาขบูชา ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกับการประกอบพิธีในวันมาฆบูชา