ต้อเนื้อ (Pterygium) เป็นหนึ่งใน 4 โรคต้อที่พบได้บ่อย รวมถึงต้อเนื้อ, ต้อลม, ต้อหิน, และต้อกระจก โรคนี้เกิดได้ทุกเพศทุกวัย, แต่มักพบมากในผู้ที่ทำงานกลางแจ้งและมีอายุมากกว่า 40 ปี
ต้อเนื้อเกิดจากความเสื่อมของเยื่อบุตาขาว ทำให้เนื้อเยื่อบางส่วนพัฒนาผิดปกติ มักเป็นก้อนพังผืดสีขาวเหลืองหรือชมพูอ่อน รูปทรงสามเหลี่ยมปรากฎขึ้นบริเวณตาขาว เมื่อก้อนต้อขยายขึ้น, จะค่อยๆงอกเข้าไปบริเวณตาดำ ทำให้มีโอกาสสูญเสียการมองเห็นชั่วคราว
ไม่ว่าจะมีก้อนต้อขนาดใหญ่เพียงไร, ต้อเนื้อไม่เป็นโรคอันตรายแต่เพียงความรำคาญเท่านั้น สามารถรักษาให้หายขาดได้, และหากมีการสูญเสียการมองเห็น, ผ่าตัดลอกต้อเนื้อสามารถทำให้มองเห็นได้ดังเดิม
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดต้อเนื้อมีดังนี้ :
- การสัมผัสรังสี UVB (Ultraviolet B) ที่มีอยู่ในแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ ซึ่งการสัมผัสรังสี UVB นี้ทำให้เซลล์เยื่อบุตาขาวสร้างสารประเภทโปรตีนและไขมันมากกว่าปกติ จนเกิดเป็นก้อนหรือแผ่นหนาบนเยื่อบุตาขาวข้างกระจกตาดำ เนื่องจากประเทศไทยมีแสงแดดจัดตลอดทั้งปี ดังนั้น จึงพบผู้ที่เป็นต้อลมได้บ่อยมาก
- การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีลม, ฝุ่น, ความร้อน, สิ่งสกปรก, และความแห้ง
- การสัมผัสสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือภูมิแพ้ เช่น สารเคมี เป็นเวลานาน ๆ
- มีประวัติบุคคลในครอบครัวที่เคยเป็นต้อเนื้อ
- การใช้สายตามากเกินไป, เช่น การใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน
อาการของต้อเนื้อ :
อาการของต้อเนื้อสามารถมองเห็นได้จากภายนอก ผู้ป่วยจะมีก้อนต้อตาอยู่ที่บริเวณหางตาหรือหัวตา, มักพบด้านเดียวที่ฝั่งหัวตา. ก้อนต้อจะมีลักษณะเป็นพังผืดสีขาวเหลืองหรือสีชมพูอ่อนๆ, และมีเส้นเลือดฝอยกระจายอยู่ทั่วทั้งพังผืด.
การมีก้อนต้อนี้สามารถทำให้ผู้ป่วยมีอาการระคายเคืองตา, เจ็บ, และคันตา เหมือนมีเม็ดทรายอยู่ในดวงตา. บริเวณที่เกิดต้อนั้นอาจบวมและแดงขึ้น. นอกจากนี้, อาการระคายเคืองยังอาจกระตุ้นให้ผู้ป่วยขยี้ตา, ซึ่งอาจทำให้ดวงตาอักเสบ. บางครั้ง, อาจเกิดแผลในกระจกตาหรือการติดเชื้อที่ดวงตาได้
การป้องกันไม่ให้เกิดต้อเนื้อ :
เพื่อปกป้องดวงตาจากผลกระทบของแสงแดด, ลม, ฝุ่นละออง, และควัน, ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้ :
- หลีกเลี่ยงให้ดวงตาถูกแสงแดดโดยการสวมแว่นกันแดดเมื่อออกไปเผชิญแสงแดดจัดในที่กลางแจ้ง. เลือกใช้เลนส์แว่นที่มีคุณสมบัติดังนี้:
- เคลือบสารที่มีประสิทธิภาพสูงในการกรองรังสี UV (รังสียูวี), สามารถเคลือบกับเลนส์แว่นทุกชนิด.
- ลดความจ้าของแสงแดดลง, โดยเลือกเลนส์ที่มีความเข้มและสีตามความพอใจของผู้ใช้.
- สามารถลดความสว่างเพื่อให้รู้สึกสบายตาขึ้น.
- สวมหมวกปีกกว้างเพื่อป้องกันแสงแดดจากด้านข้าง
- สำหรับผู้ทำงานในอุตสาหกรรมที่มีการเชื่อมโลหะและได้รับรังสี UV ในระดับสูง, ควรสวมแว่นตากรองรังสีตลอดเวลา และใช้หน้ากากพิเศษกรองรังสีขณะปฏิบัติงาน
วิธีการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดต้อเนื้อ :
ในกรณีที่ต้อยังมีขนาดเล็กและต้อไม่แสดงอาการผิดปกติ, การดูแลเอาใจใส่สามารถช่วยป้องกันการเกิดอาการอักเสบได้ จึงควรระมัดระวังและปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้ :
- หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้ต้ออักเสบ, เช่น การใส่แว่นตาเพื่อป้องกันแสงแดด, ลม, ฝุ่น, และควัน.
- ไม่นอนดึกเกินไป, ลดการดื่มสุรา, และหลับตาเพื่อพักสายตาเป็นระยะๆ หรือมองไกลประมาณ 2-3 นาที ในทุกๆ ชั่วโมง ที่อ่านหนังสือหรือทำงานที่ต้องจ้องมองวัตถุในระยะใกล้.
หากต้ออักเสบ, ควรใช้ยาหยอดตาตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อบรรเทาอาการอักเสบ อย่างไรก็ตาม, หากดวงตาไม่มีอาการแดง, คัน, หรือระคายเคือง, การหยอดตาอาจไม่จำเป็น การใช้ยาหยอดตาจะช่วยลดอาการอักเสบเท่านั้น แต่ไม่ได้ทำให้ต้อหายไป
สำหรับต้อลมหรือต้อเนื้อขนาดเล็ก, ไม่มีอันตรายต่อดวงตา หากได้รับการดูแลและรักษาอย่างดี, หลีกเลี่ยงการทำให้ต้อเนื้ออักเสบ, จะไม่มีผลเสียต่อบุคลิกภาพ. การผ่าตัดเพื่อเอาต้อออกไม่จำเป็น. สำหรับต้อเนื้อที่มีขนาดใหญ่และอักเสบบ่อย, แพทย์จะแนะนำการผ่าตัดลอกต้อเนื้อ
การลอกต้อเนื้อ มีวิธีไหนบ้าง :
การลอกต้อเนื้อเป็นวิธีรักษาที่สามารถทำได้โดยใช้ยาชาโดยไม่ต้องให้ผู้ป่วยดมยาสลบและไม่จำเป็นต้องนอนพักรักษาในโรงพยาบาล วิธีการลอกต้อเนื้อมี 3 แบบ ได้แก่ :
- ลอกต้อเนื้อแบบไม่ปลูกเนื้อเยื่อ : จักษุแพทย์จะทำการลอกต้อเนื้อออกและทิ้งบริเวณที่ลอกไว้ให้เนื้อเยื่อที่งอกกลับมาคลุมส่วนที่ลอกออกไปเอง นั่นเป็นวิธีการผ่าตัดที่ใช้เวลาน้อยแต่มีโอกาสสูงที่จะเกิดการงอกใหม่ของต้อเนื้อ
- ลอกต้อเนื้อแบบปลูกเนื้อเยื่อโดยใช้เยื่อบุตาขาว : จักษุแพทย์จะลอกต้อเนื้อออกและเลาะเอาเยื่อบุตาขาวที่อยู่ใต้เปลือกตาบนมาปะเพื่อปลูกเนื้อเยื่อในบริเวณที่ต้อถูกลอกออกไป วิธีการผ่าตัดนี้ลดโอกาสการงอกใหม่ของต้อเนื้อมาก จากเดิมที่มีโอกาส 40-50% ลดลงเหลือเพียง 5-10% โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกที่เริ่มรักษาต้อเนื้อด้วยวิธีนี้
- ลอกต้อเนื้อแบบปลูกเนื้อเยื่อโดยใช้เยื่อรก : ใช้ในกรณีที่ไม่สามารถใช้เยื่อบุตาขาวได้ เช่น เยื่อบุตามีแผลมาก, หรือต้อหินจำเป็นต้องเก็บเยื่อบุตาขาวไว้เพื่อการผ่าตัดต้อหินในอนาคต
วิธีการดูแลดวงตาหลังผ่าตัดลอกต้อเนื้อ :
หลังการผ่าตัดลอกต้อเนื้อ การดูแลควรทำดังนี้ :
- งดน้ำเข้าตา : ควรงดการให้น้ำเข้าตาเป็นเวลา 7-10 วันหลังผ่าตัด.
- งดขยี้ตา : ควรงดการขยี้ตาเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการระคายเคืองและบรรเทาอาการบวม.
- หลีกเลี่ยงแสงแดด, ลม, ฝุ่น และควัน : จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง, ลมแรง, ฝุ่น, และควัน เพื่อป้องกันการเป็นซ้ำของต้อเนื้อ ซึ่งอาจทำให้การผ่าตัดลอกต้อเนื้อไม่ประสบความสำเร็จ