ขนมตาล มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของไทย

ประวัติความเป็นมาของขนมตาล

ขนมตาลเป็นของหวานที่มีชื่อเสียงเฉพาะตัวของจังหวัดเพชรบุรี และมีภูมิปัญญาที่ถูกสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นด้วยเวลานับหลายร้อยปี ขนมตาลเป็นขนมไทยแท้ที่มีลักษณะพิเศษไม่เหมือนขนมไทยชนิดอื่นที่มีผลกระทบจากวัฒนธรรมตะวันตกในสมัยอยุธยาต้น เนื่องจากขนมตาลไม่มีส่วนผสมของไข่ นอกจากนี้ขนมตาลยังถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของคนไทย มีความละเอียดอ่อนและประณีตในการเลือกใช้วัตถุดิบ วิธีการทำที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อย หอมหวาน มีรูปลักษณ์ที่ชวนให้ต้องลองรับประทานตามแบบของขนมไทย อย่างไรก็ตามในปัจจุบันพบว่าขนมตาลมีการผลิตน้อยลงมาก และไม่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคมากนัก เนื่องจากผู้ผลิตมักละเลยเรื่องความสะอาด ทำให้ขนมตาลดูไม่น่ารับประทานและมีปัญหาการบูดง่าย ซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการทำขนมตาลที่ซับซ้อน ยุ่งยาก และใช้เวลานานกว่าขนมไทยชนิดอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีการผลิตขนมอื่น ๆ ที่ง่ายต่อการหาซื้อ ดูสะอาด และมีจำหน่ายมากมายที่ร้านค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ต เนื่องจากขนมเหล่านั้นถูกทำให้ดูน่าทานมากกว่าขนมตาล ทำให้ความนิยมในขนมไทยโบราณลดลง

สูตรทำขนมตาลง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง

ขนมตาลเป็นขนมไทยที่มีสีสวย น่าทาน และสามารถทำได้โดยไม่ยากเกินไป นอกจากนี้ ขนมตาลมีกลิ่นหอมนุ่มที่ดึงดูดให้ต้องลองทานกับครอบครัวในวันหยุด สามารถรับรองได้ว่าจะอร่อยติดใจทุกคนในบ้านแน่นอน

ส่วนผสมของขนมตาล :

• เนื้อลูกตาลยี 200 กรัม
• แป้งข้าวเจ้า 250 กรัม
• แป้งมัน 2 ขีด
• กะทิ และหางกะทิ 1 กิโลกรัม
• น้ำตาลทราย 200 กรัม
• ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
• เกลือ 1 ช้อนชา
• ยีสต์แห้ง 2 ช้อนชา
• มะพร้าวขูด 1 ถ้วย

ขั้นตอนการเตรียมเนื้อลูกตาลยีสด :

นำลูกตาลสด 2 ลูกไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นใช้มีดปลอกเปลือกโดยการดึงขั้วตาลออก และใช้มือดึงเปลือกสีดำออกให้หมด ควรดึงแกนแข็ง ๆ หรือใจตาลออก เพื่อป้องกันรสขมและเฝื่อน

ในขั้นตอนล้างเนื้อตาล ให้เติมน้ำใส่ลงไปให้ท่วม และเติมเกลือลงไป (เพื่อลดความขมและเฝื่อนของเนื้อตาล) จากนั้นใช้มือคั้น และยีให้เนื้อตาลออกมาให้มากที่สุด นำเนื้อตาลที่ผ่านการคั้นมากรองด้วยตะแกรงใส่ลงในภาชนะอีกหนึ่งใบ

ขั้นตอนต่อมา นำเนื้อตาลในภาชนะที่ผ่านการกรองแล้วมาเทใส่ผ้าขาวบางที่ถูกทับ 2 ชั้น รองด้วยตะแกรง และรองด้วยชามผสม จากนั้นทำการรวบผ้าเข้าหากันแล้วมัดไว้ แล้วทิ้งไว้นาน 1 คืน เพื่อให้น้ำที่ปนอยู่ในเนื้อตาลไหลออกมาให้หมด เมื่อรอจนครบเวลา นำเนื้อตาลที่ถูกยีแล้วมาใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่มีฝาปิด เพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการทำขนมต่อไป

ขั้นตอนวิธีทำขนมตาล :

นำหัวกะทิไปใส่ในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลทรายและเกลือป่น เปิดเตาต้มด้วยไฟอ่อนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน พอเสร็จแล้วปิดเตาแล้วนำไปพักไว้ให้เย็นสนิท ผสมแป้งข้าวเจ้ากับยีสต์ให้เข้ากัน และใส่เนื้อตาลทั้งหมดที่เตรียมไว้ลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากันจนได้ลักษณะคล้ายเม็ดทราย

จากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำกะทิที่เตรียมไว้ลงไปนวดทีละนิด จนแป้งจับตัวเป็นก้อน และนวดต่อเป็นเวลา 30 นาที จนเนื้อแป้งเนียนได้ที่ และทยอยใส่น้ำกะทิที่เหลือลงไปละลายแป้งอีกครั้งให้เหนียวข้น จนกว่าน้ำกะทิที่เตรียมไว้จะหมด

ใช้แผ่นฟิล์มถนอมอาหารห่อชามผสมแล้วพักแป้งไว้ในบริเวณที่มีแดดจัด เป็นเวลา 3 ชั่วโมง เมื่อพักแป้งไว้จนครบเวลา ให้ร่อนผงฟูใส่ลงไป ใช้ไม้พายคนผสมให้เข้ากัน พักไว้แล้วไปนึ่งถ้วยตะไลด้วยน้ำเดือดจัดเป็นเวลา 10 นาที จากนั้นคนแป้งเล็กน้อยก่อนจะหยอดแป้งลงไปให้เต็มถ้วยตะไล

นำเนื้อมะพร้าวขูดฝอยมาคลุกเคล้าให้เข้ากันกับเกลือแล้วโรยหน้าขนม และนึ่งด้วยไฟแรงจัดเป็นเวลา 25 นาที เสร็จแล้วยกออกจากเตาพักไว้ให้เย็น และนำไปรับประทานได้เลย