การเลี้ยงงูสำหรับมือใหม่: เตรียมพร้อมก่อนเริ่มต้น

การเลี้ยงสัตว์เลี้ยง Exotic มักเป็นที่นิยมและเสนอความเท่ของลักษณะและความสวยงามที่หลากหลาย แต่สำหรับคนที่สนใจเลี้ยงงูแล้วเป็นมือใหม่ อาจพบความสับสนในการเลือกสายพันธุ์และวิธีการดูแล ดังนั้นเราจะพาคุณสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์ที่เหมาะสำหรับการเลี้ยง วิธีการดูแล และเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเริ่มต้นการเลี้ยงงูให้ได้เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยที่สุด.

การเลือกสายพันธุ์งูที่เหมาะสำหรับการเลี้ยง

การเลี้ยงงูเริ่มต้นด้วยการเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับระดับความเชี่ยวชาญของคุณเป็นสำคัญ สายพันธุ์ที่เป็นมิตรและง่ายต่อการดูแล เช่น งูที่ไม่ใช่พิษ เช่น งูบอลล์ งูขนาดเล็กเช่น งูเขียว หรืองูที่มีอาหารที่หาได้ง่าย เช่น งูกระดาษ

การเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มต้น

การเลี้ยงงูต้องการการเตรียมความพร้อมอย่างดีเพื่อให้การดูแลงูเป็นไปได้โดยราบรื่น นอกจากการเตรียมเงินทุนสำหรับค่างูและค่ากรง เรายังต้องพร้อมจัดสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น อาหาร อุปกรณ์ และการให้การรักษาสุขภาพ เพื่อรับมือกับความไม่คาดคิดเช่น ค่าหมอและการปฏิบัติตัวในกรณีฉุกเฉิน

วิธีการดูแลงู

การเลี้ยงงูไม่เพียงแค่การให้อาหาร แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น อุณหภูมิและความชื้น การจัดสรรอาหารที่เหมาะสมและมีคุณภาพ เช่น หนูนา กบ หรือนก และการสร้างที่อยู่ที่ให้ความปลอดภัยและสะดวกสบายสำหรับงู

การจัดที่อยู่และสภาพแวดล้อม

กล่องเลี้ยงงูควรมีขนาดที่เหมาะสม เพื่อให้งูสามารถเคลื่อนไหวอย่างเพียงพอ และต้องมีอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของงู นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการวางกล่องในที่ที่โดนแดดร้อนหรือมีเสียงดังเป็นประจำ

สายพันธุ์งูน่าเลี้ยง เลี้ยงงูมือใหม่หาไม่ยาก เลี้ยงง่าย

1. งูบอลไพธอน (Ball Python)
งูบอลไพธอนเป็นเสมือนเจ้าแมวน้อยในวงการเลี้ยงงู เนื่องจากมีลักษณะน่ารักและเรียบง่าย มีความยาวประมาณ 1-1.5 เมตร เป็นสัตว์ที่ไม่ดุและไม่กัด สามารถเลี้ยงได้ง่ายสะดวกและไม่ท้าทาย

2. งูมิลค์ (Milk Snakes)
เป็นงูตัวเล็กสีสันฉูดฉาดที่น่ารักมาก มีลำตัวเรียวยาวและเคลื่อนไหวเร็ว มีลายสีสันน่าตาและเป็นสัตว์ที่ไม่มีพิษ มีลักษณะนิสัยเชื่องและเป็นเพื่อนมนุษย์ได้ดี

3. งูข้าวโพด (Corn Snakes)
เป็นงูที่มีลักษณะสีสันสดใสและน่ารัก มีลำตัวเล็กและเคลื่อนไหวเร็ว มีนิสัยสงบและเป็นมิตร งูข้าวโพดเป็นที่นิยมในวงการเลี้ยงเนื่องจากง่ายต่อการดูแลและมีราคาไม่แพง

4. งูสายรุ้ง (Rainbow Water Snake)
เป็นงูน้ำขนาดเล็กราคาไม่แพงและเป็นสัตว์ที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว มีลักษณะสีสันน่ารักและมีลายเส้นเป็นจุดดำๆ จัดเป็นสัตว์นักล่าที่ซุ่มโจมตีในเวลากลางคืน

5. แซนด์โบอา (Kenya Sand Boas)
เป็นงูที่มีลักษณะน่ารักและมีขนาดเล็ก ชอบขุดดินและมีนิสัยเชื่อง งูแซนด์โบอาเป็นสัตว์ที่ต้องการสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและมีการจัดสรรพื้นที่เพื่อขุดเตรียมที่อยู่ในระดับความชื้นที่เหมาะสม

6. งูคิงสเนค (Kingsnakes)
Kingsnakes มีรูปร่างหลากหลายและลวดลายที่สวยงาม มีความแข็งแรงและสามารถหดตัวได้อย่างทรงพลัง มีความยาวตั้งแต่ 90 – 180 ซ.ม. และมีลวดลายที่โดดเด่นหลากหลาย

7. งูฮอกโนสตะวันตก (Western Hognose Snakes)
งูฮอกโนสมีจมูกที่ยื่นบนออกมา และมีลายสีสันลายละเอียดบนพื้นเกล็ดสีครีม มีพิษอ่อนแต่ไม่อันตรายกับคน มีความยาวประมาณ 70 – 100 ซ.ม.

8. งูการ์เตอร์ (Garter Snakes)
Garter Snakes มีลำตัวสีสันสดใสและลายสีต่าง ๆ ตามความหลากหลายของสายพันธุ์ มีพฤติกรรมที่สงบและอาจเป็นเพื่อนเล่นกับคนได้บ้าง

9. งูหลามบอหางแดง (Red-tailed Boas)
มีลายสีที่หลากหลายและมีลวดลายที่โดดเด่น มีขนาดใหญ่และมีพฤติกรรมเป็นนักล่าสัตว์ ต้องการพื้นที่อยู่ขนาดใหญ่

10. งูเหลือมโบอาเปรู (Peruvian Boa)
มีลายสีที่มีลวดลายที่ซับซ้อนและเป็นเอกลักษณ์ มีความสามารถในการปีนเขาและจัดอยู่ในเขตร้อน

การเลี้ยงงูต้องการเตรียมอุปกรณ์ที่เหมาะสมเพื่อให้งูมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและมีสุขภาพดี ดังนั้นนี่คือรายการของเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเลี้ยงงู

1. กล่องหรือกรงสำหรับงู: ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมสำหรับขนาดของงูและมีพื้นที่เพียงพอสำหรับงูเดินเล่นและหาที่ซ่อนตัว
2. ถ้วยใส่น้ำ: ควรใส่น้ำสะอาดให้เต็มถ้วยและเปลี่ยนน้ำอย่างสม่ำเสมอ
3. ถ้วยใส่อาหาร: ใส่อาหารสำหรับงูในถ้วยและเปลี่ยนอาหารอย่างสม่ำเสมอ
4. คีมคีบอาหาร: เพื่อให้งูกินอาหารอย่างง่าย
5. ถาดน้ำ: สำหรับงูที่ชอบลงไปแช่น้ำ
6. Hide Box: กล่องหรือท่อให้งูเข้าไปซ่อนตัว
7. ขอนไม้: ใช้เป็นจุดติดตั้งหรือสำหรับงูปีน
8. วัสดุรองพื้น: เช่น กระดาษหนังสือพิมพ์เก่าหรือขี้เลื่อยเพื่อช่วยให้งูรู้สึกสะดวก
9. ต้นไม้: ให้ความเข้ามาในกรงและเป็นจุดติดตั้งหรือเสาให้งูเลื้อยปีน
10. เครื่องวัดอุณหภูมิและความชื้น: เพื่อควบคุมสภาพแวดล้อม
11. ตัวช่วยควบคุมอุณหภูมิ: เช่น หลอดไฟให้ความร้อนหรือไฟ UVA/UVB เพื่อสร้างแสงและความร้อนที่เหมาะสม
12. เครื่องทำความชื้น: เพื่อควบคุมความชื้นในกรง
13. เกรียง: เพื่อทำความสะอาดกล่องงูอย่างสม่ำเสมอ

การเลี้ยงงูต้องการความระมัดระวังและการดูแลอย่างสม่ำเสมอ โดยควรเตรียมอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมตามที่แสดงไว้ด้านบนเพื่อให้งูมีสุขภาพดีและมีความสุขในการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ขอให้คุณมีประสบการณ์เลี้ยงงูที่ดี