“รู้จักกัน: ระเภทของน้ำมันมะกอก”
น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน (Extra Virgin):
– มีสีเขียวเข้มและมาจากการบีบออกมาจากมะกอกสดๆ
– เหมาะกับการใช้สดหรือในน้ำสลัด
– คุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ไม่ควรนำมาประกอบอาหารโดยที่ต้องผ่านความร้อน
น้ำมันมะกอกเวอร์จิน (Virgin):
– มีคุณภาพรองลงมาจาก Extra Virgin และราคาถูกกว่า
– สามารถนำมาใช้ในอาหารได้เช่นกัน
น้ำมันมะกอกแบบผสม (Olive Oil หรือ Pure Olive Oil):
– ผสมระหว่าง Extra Virgin และน้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีเพิ่มคุณค่า
– มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและทนความร้อนได้ดี
น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil, Light Olive Oil, Extra Light Olive Oil):
– ผ่านกรรมวิธีเพิ่มคุณค่าและกำจัดสี กลิ่น รส
– สีใสและราคาไม่สูง
น้ำมันกากมะกอก (Olive Pomace Oil):
– สกัดออกจากกากมะกอกและผ่านกรรมวิธีทางเคมี
– มีค่าไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกายแต่เหมาะสำหรับทอดอาหาร
ประโยชน์ของน้ำมันมะกอก
1.ควบคุมคอเลสเตอรอล: น้ำมันมะกอกช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและส่งเสริมคอเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด.
2. ลดภาวะไขมันในเลือดสูง: สารต่าง ๆ ในน้ำมันมะกอกช่วยลดการสะสมของไขมันในหลอดเลือดและลดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจ.
3. ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ: การบริโภคน้ำมันมะกอกส่งเสริมสุขภาพหัวใจโดยลดการอักเสบและการตีบตันของหลอดเลือด.
4. ลดน้ำหนัก: น้ำมันมะกอกช่วยเพิ่มความอิ่มตัว และลดความอยากอาหาร ทำให้ช่วยในการลดน้ำหนักได้.
5. เพิ่มการเผาผลาญอาหาร: สารต่าง ๆ ในน้ำมันมะกอกช่วยกระตุ้นการเผาผลาญอาหารในร่างกาย เพื่อเพิ่มพลังงานและลดการสะสมไขมัน.
6. ลดความดันโลหิตสูง: การบริโภคน้ำมันมะกอกสามารถช่วยลดความดันโลหิตสูงได้.
7. มีผลดีต่อระบบการหมุนเวียนโลหิต: สารต่าง ๆ ในน้ำมันมะกอกช่วยลดการตีบตันของเส้นเลือด และส่งเสริมการไหลเวียนของโลหิต.
8. ช่วยแก้อาการท้องผูก: การบริโภคน้ำมันมะกอกสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ และช่วยลดอาการท้องผูก.
9. มีสารต้านอนุมูลอิสระ: น้ำมันมะกอกมีสารต่าง ๆ ที่ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระและลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่าง ๆ.
การบริโภคน้ำมันมะกอกให้ปลอดภัย
1. น้ำมันมะกอกที่ใช้ผัด: น้ำมันมะกอกแบบผสม (olive oil หรือ pure olive oil) เหมาะสำหรับใช้ในการผัดอาหาร.
2. น้ำมันมะกอกที่ใช้ทอด: น้ำมันมะกอกแบบผ่านกรรมวิธี (Refined Olive Oil, Light Olive Oil, Extra Light Olive Oil) และน้ำมันกากมะกอก (olive pomace oil) เหมาะสำหรับใช้ทอดอาหาร.
3. น้ำมันมะกอกที่ควรรับประทานสด: น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน (extra virgin) และน้ำมันมะกอกเวอร์จิน (virgin) เหมาะสำหรับใช้ในรูปแบบสดๆ หรือไม่ผ่านความร้อน.
4. การบริโภคน้ำมันมะกอกในปริมาณที่เหมาะสม: แนะนำให้บริโภคประมาณวันล่ะ 2 ช้อนโต๊ะ (28 กรัม) หรือประมาณ 14% ของแคลอรีที่บริโภคในแต่ละวัน.
5. การใช้น้ำมันมะกอกที่บริเวณผิวหนัง: อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือผิวหนังอักเสบได้ ดังนั้นควรทดลองใช้ในบริเวณเล็กๆ ก่อนที่จะใช้ในพื้นที่กว้างขึ้น.
ข้อควรระมัดระวังในการบริโภคน้ำมันมะกอก
1. สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ควรระมัดระวังในการบริโภคน้ำมันมะกอกเพื่อป้องกันไม่ให้บริโภคเกินปริมาณที่เหมาะสม.
2. สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน: ควรตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดจากการบริโภคน้ำมันมะกอก.
3. สำหรับผู้ที่เข้ารับการผ่าตัด: ควรงดการบริโภคน้ำมันมะกอกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดและสุขภาพในช่วงระหว่างการผ่าตัดและในช่วงพักฟื้น.
4. การระมัดระวังในการบริโภค: น้ำมันมะกอกมีผลต่อร่างกายและสุขภาพให้ควรใช้ให้ถูกประเภทและควบคุมปริมาณอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโทษต่อร่างกาย ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริโภคน้ำมันมะกอกอย่างถูกต้องเพื่อให้ได้รับประโยชน์สุขภาพอย่างเต็มที่.