1 วันบนโลกนานขึ้นเรื่อย ๆ เพราะดวงจันทร์กำลังถอยห่าง
“หากพิจารณาถึงเวลา 24 ชั่วโมงที่แต่ละวันน่าจะไม่เพียงพอสำหรับการจัดการกับภาระงานที่ซับซ้อนและแออัดที่กองทุวมหัว อาจมีคนหลายคนที่ถูกต้องได้บ้างเมื่อทราบว่าในปัจจุบันนี้โลกมีการหมุนรอบตัวเองไปยาวขึ้นเป็นเวลาราว 5 ชั่วโมง นั่นเป็นผลมาจากการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ที่จะไกลออกไปจากโลกทีละ 3.82 เซนติเมตรต่อปี นั่นทำให้โลกหมุนช้าลงและส่งผลให้มีช่วงเวลาของ 1 วันที่ยาวขึ้นโดยเฉลี่ยถึง 1/75,000 วินาทีต่อปี
การค้นพบทางธรณีศาสตร์นี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร PNAS โดยนักธรณีศาสตร์ชาวอเมริกัน ซึ่งระบุว่าข้อมูลที่ใช้มาจากการวิเคราะห์ตะกอนดินใต้ทะเลที่หลากหลาย ทั้งจากแหล่งเซี่ยหม่าหลิงในจีนที่มีอายุกว่าพันล้านปีและชั้นหินในสันเขาใต้มหาสมุทรแอตแลนติก ได้ถูกนำมาใช้เพื่อหาสัดส่วนของทองแดงและอะลูมิเนียม ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่ช่วยในการทำความเข้าใจถึงวงจรการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกในรอบกว่าพันล้านปีที่ผ่านมา”
วงโคจรและความสัมพันธ์กับโลก
“การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่เกิดขึ้นบนโลกได้ถูกเชื่อมโยงกับวงจรทางดาราศาสตร์ที่น่าสนใจที่เรียกว่า ‘วงจรมิลันโควิตช์’ (Milankovitch cycle) ซึ่งมีผลต่อตำแหน่งและแสงอาทิตย์ที่โลกได้รับ. วงจรมิลันโควิตช์นี้เกิดจากแรงดึงดูดระหว่างดวงดาวในระบบสุริยะที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อระยะห่างและแนวทางการโคจร. ความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเป็นรอบในช่วงเวลาที่ยาวนานหลายแสนหรือล้านปี.
ศาสตราจารย์สตีเฟน เมเยอร์ส จากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน อธิบายว่า “การที่ดวงจันทร์เคลื่อนห่างออกจากโลกตามอิทธิพลของวงจรมิลันโควิตช์ ส่งผลให้โลกหมุนช้าลง คล้ายกับนักสเก็ตลีลาที่กำลังหมุนตัวเหยียดแขนทั้งสองข้างออก. การเคลื่อนที่ของดวงจันทร์นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคแคมเบรียน ที่เป็นเวลาที่เริ่มมีชีวิตมากมายบนโลก ประมาณ 1,400 ล้านปีก่อน และคาดว่าจะดำเนินต่อไปในอนาคตที่ยาวนาน ร้อยล้าน หรือ ล้านปีข้างหน้า.
อย่างไรก็ตาม, มนุษย์ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการถอยห่างของดวงจันทร์จากโลกไปเรื่อย ๆ, เนื่องจากวงจรการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์นั้นจะกลับมาที่จุดที่มีความเสถียรอีกครั้งในอีกหลาย ล้านปีข้างหน้า. ทำให้เราไม่จำเป็นต้องห่วงเหี้ยมถึงสถานการณ์ที่ดวงจันทร์จะหลุดลอยออกไปไกลจากโลก, และจะมองเห็นดวงจันทร์ได้จากพื้นที่บนโลกได้เพียงในบางพื้นที่เท่านั้น.”