กลับมามีความมั่นใจอีกครั้งด้วยการปลูกผม: คำแนะนำและเทคโนโลยีล้ำสมัย

ปลูกผมเพื่อความสวยงามและความเชื่อมั่น: ความจริงที่คุณต้องรู้

การหลุดร่วงของผมเป็นปัญหาที่เข้าใจได้ว่ามีความผิดปกติและทำให้รู้สึกไม่พอใจเกี่ยวกับลักษณะทางด้านลึกซึ้งของตัวเอง เคยมีครั้งไหมที่คุณได้สังเกตเห็นว่าผมของคุณมีแนวโน้มที่จะหลุดร่วงออกมาเป็นกระจุก หรือว่าคุณต้องพยายามดึงผมที่ติดอยู่กับหวีออกมาเป็นประจำทุกวัน อีกทั้งยังเจอกับปัญหาที่ว่า เวลาที่คุณสระผม มีปัญหาท่อตันเกิดขึ้นทุกครั้ง และเวลาคุณมองกระจกคุณรู้สึกว่าศีรษะของคุณดูเถิกกว่าเดิม หรือมีคนเริ่มสังเกตเห็นในส่วนที่หนังศีรษะเกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ทำให้คุณกังวลและตื่นตระหนกกับสุขภาพของผมของคุณ เป็นเรื่องที่ต้องการการแก้ไขให้เร็วที่สุด

หากคุณเคยเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ คุณไม่ได้เดินทางคนเดียว เพราะความคลาดเคลื่อนของผมเป็นปัญหาที่พบได้ในมากมายของคน และมันสามารถแก้ไขได้ด้วยการทำศัลยกรรมปลูกผม แต่ก่อนที่เราจะสามารถคว้าคืนความมั่นใจของเรากลับมา ก่อนหน้านี้ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการและตัวเลือกที่มีให้เราด้วยกัน

การปลูกผมถาวรหรือศัลยกรรมปลูกผมเป็นกระบวนการที่นำรากผมปลูกลงบนหนังศีรษะในตำแหน่งที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหนังศีรษะล้าน เพื่อให้ผมใหม่ที่ขึ้นมาสามารถอยู่ในตำแหน่งที่นำไปปลูกอย่างถาวร และสามารถหลุดร่วงได้ตามวงจรของผม โดยผมใหม่จะเจริญเติบโตเหมือนกับผมจริงที่มีคุณภาพและความแข็งแรงในระยะยาว

รากผมที่ใช้ในการปลูกมาจากผู้ที่เข้ารับการปลูกผมเอง แพทย์จะนำรากผมช่วงท้ายทอยหรือช่วงเหนือกกหูออกมา แล้วปลูกไปยังตำแหน่งใหม่ เช่น ปลูกผมหน้าผาก หรือ ปลูกผมกลางหัว

เหตุที่ต้องนำรากผมออกมาจากท้ายทอย เนื่องจากผมช่วงท้ายทอยหรือเหนือกกหูเป็นเส้นผมถาวรที่มีความแข็งแรงที่สุดบนหนังศีรษะ และไม่มีผลต่อฮอร์โมน DHT ที่เป็นสาเหตุหลักของอาการผมร่วง ผมบาง หรือหนังศีรษะล้านในผู้ชาย​

สาเหตุหลักของผมร่วง

การรู้สึกไม่พอใจเมื่อเห็นผมร่วงหรือผมบางบนหนังศีรษะมักเป็นเรื่องที่ผู้ชายหลายคนต้องเผชิญอยู่ทุกวัน สาเหตุหลักของปัญหานี้อาจมาจากฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างมาจากฮอร์โมนเพศชายและมีผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมบนหนังศีรษะ การเสี่ยงที่สูงของการหลุดร่วงของเส้นผมและผมบางทำให้ศีรษะเถิกล้านไปในที่สุด

นอกจากนี้ ผู้ที่มีผลกระทบจากพันธุกรรมก็อาจพบปัญหาเดียวกัน เนื่องจากระบบรากผมและหนังศีรษะของพวกเขามีการตอบสนองต่อฮอร์โมน DHT อย่างแตกต่าง ซึ่งทำให้ผมบางและศีรษะล้านได้รับอิทธิพลได้มากกว่าปกติ

ด้วยเทคนิคการปลูกผมที่ใช้เชื้อผมจากท้ายทอยมาปลูกใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เพียงแค่เป็นเส้นผมที่ขึ้นมาใหม่ แต่ยังเป็นการลดความเสี่ยงที่เกิดจากการร่วงของเส้นผมและผมบางจากฮอร์โมน DHT อีกด้วย ผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็นผมที่มีคุณภาพและมีความแข็งแรงมากขึ้น เป็นผมที่ไม่ร่วงง่ายและสามารถเติบโตได้อย่างถาวร เป็นการปลูกผมที่เป็นธรรมชาติและมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาผมร่วงและผมบางอย่างถาวร

  • ปัญหาผมร่วงจากพันธุกรรมและฮอร์โมน DHT

ปัญหาการร่วงผมเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้คนหลายคนต้องเผชิญหน้ากับความไม่สบายใจและความไม่มั่นใจในรูปร่างของตนเอง มันไม่เฉพาะเพียงแค่สำหรับผู้ชายเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อผู้หญิงด้วย ปัญหานี้สามารถตีกันมาจากหลายสาเหตุ และหนึ่งในสาเหตุที่สำคัญคือพันธุกรรม โดยมักจะมีการรายงานว่าปัญหาการร่วงผมที่เกิดจากพันธุกรรมมีการพบเจอในเกือบ 80% ของผู้ที่ประสบปัญหานี้

ฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) เป็นสารสำคัญที่มีผลต่อการร่วงผม การที่มีระดับ DHT ที่สูงในร่างกายมีความเกี่ยวข้องกับการทำให้รากของเส้นผมฝ่อลง ซึ่งจะทำให้ผมที่เติบโตขึ้นใหม่มีความแข็งแรงน้อยลง และมีขนาดเล็กลง การเส้นผมที่ลัดลงทำให้เห็นหนังศีรษะมากขึ้นเมื่อมีการสูญเสียผมมากขึ้น โดยเฉพาะในเพศชาย ฮอร์โมน DHT นี้เกิดจากการแปลง Testosterone โดยเอนไซม์ ซึ่งส่งผลให้เส้นผมฝ่อลงและรากผมผลิตเส้นผมน้อยลงจนหายไปเป็นหัวล้านได้

การรู้เรื่องปัญหาการร่วงผมและฮอร์โมน DHT เป็นสิ่งสำคัญในการจัดการและรักษาปัญหาผมร่วง การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้จึงเป็นขั้นตอนที่ดีที่สุดในการหาทางแก้ไขปัญหานี้ให้เหมาะสม อย่างไรก็ตามการดูแลผมและการรักษาสุขภาพของรากผมให้เหมาะสม เช่น การรักษาโดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่เหมาะสม และการปฏิบัติแบบการดูแลผมที่ถูกต้อง จะเป็นสิ่งที่ช่วยลดปัญหาการร่วงผมและช่วยให้ผมของคุณสุขภาพแข็งแรงได้อย่างเหมาะสม

  • โรคที่เป็นสาเหตุของผมร่วง

ผมร่วงอาจเกิดขึ้นจากโรคบางชนิดที่มีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น โรคผิวหนังเดิม (Alopecia Areata) ที่เป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันโต้ตอบผิดปกติ โรคนี้อาจทำให้เกิดเป็นจุดลอยผมหรือผมร่วงอย่างรวดเร็ว อีกตัวอย่างคือ โรคต่อมไทรอยด์ (Thyroid Disease) ซึ่งอาจมีผลต่อการทำงานของระบบสารพันธุกรรมและมีผลต่อการเติบโตของเส้นผม

การติดเชื้อเช่น ซิฟิลิส หรือเอชไอวี (HIV) ก็สามารถทำให้เกิดภาวะผมร่วงได้ เนื่องจากมีการทำลายระบบภูมิคุ้มกันซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยปกป้องผิวหนังและเส้นผม โรคทางภูมิคุ้มกันอื่น ๆ เช่น โรคแพ้ภูมิตนเอง (Systemic Lupus Erythematosus – SLE) และโรคโลหิตจาง (Anemia) ก็อาจมีผลต่อสุขภาพของเส้นผมในรูปแบบที่แตกต่างกันไป

นอกจากนี้ การติดเชื้อจากแบคทีเรียหรือเชื้อราที่เจริญอยู่บนหนังศีรษะก็สามารถเป็นสาเหตุของผมร่วง เนื่องจากการอักเสบที่เกิดขึ้นบนหนังศีรษะอาจทำให้รากผมถูกทำลายและส่งผลให้ผมร่วงได้ การรักษาโรคหรือการป้องกันการติดเชื้ออาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผมร่วงจากโรคดังกล่าวได้

  • ผลกระทบของยาและวิตามินอาหารเสริมต่อการร่วงผม

การรับประทานยาหรือวิตามินอาหารเสริมบางชนิดอาจมีผลต่อการร่วงผมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยาที่มีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบการเจริญเติบโตของเส้นผม ยาลดไขมันในเส้นเลือด และยาลดความดันเลือดบางชนิดเช่นกัน อาจมีส่วนผสมที่ส่งผลต่อการร่วงผมได้

ยารักษาโรคมะเร็ง และยารักษาโรคไขข้อเสื่อมที่มีผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับผมร่วงก็เป็นตัวอย่างอีกหนึ่งอย่าง อาจทำให้เส้นผมร่วงหรือแข็งแรงน้อยลง โดยเฉพาะยาที่มีส่วนประกอบออกฤทธิ์ต่อฮอร์โมน เช่น ฮอร์โมนการรักษามะเร็งหรือยาต้านการสร้างฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของผม

อาหารเสริมบางชนิดที่มีส่วนผสมของวิตามินหรือธาตุอาหารอื่น ๆ ที่บริโภคเกินความจำเป็นก็อาจมีผลกระทบต่อระบบการเจริญเติบโตของเส้นผม และเป็นสาเหตุให้เกิดอาการร่วงผมได้ ในบางกรณีหากหยุดใช้ยาหรืออาหารเสริมที่เป็นต้นเหตุ อาจทำให้ระบบการเจริญเติบโตของเส้นผมกลับมาปกติได้ อย่างไรก็ตาม การปรึกษาแพทย์ก่อนการเลิกใช้ยาหรือวิตามินอาหารเสริมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ได้ และหากมีปัญหาการร่วงผมเกิดขึ้น ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผมให้เป็นผู้แนะนำการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

  • ผมร่วงจากการทำคีโมหรือเคมีบำบัด

การทำคีโมหรือการใช้เคมีบำบัดเป็นวิธีการรักษาที่ใช้ตัวยาเคมีเพื่อหยุดการเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนของเซลล์มะเร็งในร่างกาย เคมีบำบัดจะทำงานโดยการเข้าถึงเซลล์มะเร็งผ่านทางกระแสเลือด เมื่อยาเคมีไปเข้าสู่เซลล์มะเร็ง มันอาจส่งผลกระทบต่อเซลล์รากผม ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่เกิดการร่วงผมขึ้น

การรักษาด้วยเคมีบำบัดมักใช้ในการต่อสู้กับมะเร็ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดขนาดของเนื้องอก หรือหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงของยาเคมีสามารถส่งผลต่อเส้นผมได้ โดยทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบการเจริญเติบโตของเส้นผม จึงอาจส่งผลให้เกิดอาการร่วงผมและผมบางได้ในบางผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด

ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผมเพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลผมในระหว่างการรักษา เพื่อลดผลกระทบต่อการร่วงผมให้มากที่สุดและเพื่อความเหมาะสมในการรักษาอื่น ๆ ที่เหมาะสมไปกับสภาพผมและสุขภาพทั้งร่างกาย

  • ผลกระทบของขาดสารอาหารและภาวะโภชนาการบกพร่องต่อผม

ภาวะโภชนาการบกพร่องหรือการขาดสารอาหารสำคัญสามารถทำให้เส้นผมเปราะบางและหลุดร่วงได้ ผู้ที่กำลังลดน้ำหนักอย่างผิดวิธีหรือที่กำลังดำเนินการลดน้ำหนักอาจเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารและภาวะโภชนาการบกพร่องได้

ผู้ที่มีอาการผมร่วงจากภาวะขาดสารอาหารควรพิจารณาเสริมวิตามินและธาตุอาหารที่สำคัญ เพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโตของเส้นผมได้อย่างเหมาะสม วิตามินและธาตุเหล่านี้รวมถึงเหล็ก สังกะสี วิตามินเอ และวิตามินบี (ไบโอติน) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระบวนการเจริญเติบโตของเส้นผมและการรักษาความแข็งแรงของเส้นผมได้ดีขึ้น

การรับประทานอาหารที่มีประสิทธิภาพและสมดุลเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพผม เพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหารและภาวะโภชนาการบกพร่องที่อาจส่งผลต่อความแข็งแรงและการเจริญเติบโตของเส้นผมอย่างมีประสิทธิภาพ

  • ผลกระทบของความเครียดต่อการร่วงผม

ความเครียดสะสมสามารถเป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะผมร่วงได้ ความเครียดที่สะสมมากจะมีผลกระทบทั้งต่อร่างกายและจิตใจ และมีความเป็นไปได้ที่จะส่งผลต่อสุขภาพของเส้นผมด้วย การเผชิญกับความเครียดสะสมทำให้ร่างกายปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมามากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เส้นผมอ่อนแอและร่วงลงได้

การเครียดที่สะสมเป็นระยะยาวอาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเส้นผมอีกด้วย นอกจากนี้ ความเครียดยังสามารถทำให้มีการตีสอบของฮอร์โมนอื่น ๆ ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมเช่นเดียวกัน

ดังนั้น การจัดการกับความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะผมร่วง การนอนหลับเพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ และการใช้เทคนิคการลดความเครียดเช่น การทำโยคะหรือการฝึกสมาธิ อาจช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตและผมได้ในทางกลับกัน

  • ผลของความเครียดสะสมต่อการร่วงผม

ความเครียดสะสมสามารถเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะผมร่วงได้ การเผชิญกับความเครียดสามารถส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจได้โดยตรง มันอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้เส้นผมร่วงอย่างมีชีวิตชีวา เนื่องจากเมื่อเกิดความเครียด ร่างกายจะเริ่มผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนของความเครียดในปริมาณมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เส้นผมกลายเป็นอ่อนแอและหลุดร่วงได้ง่ายขึ้นได้บ้างละ การจัดการความเครียดอย่างมีประสิทธิภาพสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผมร่วงได้ด้วยความเชื่อมั่นในตัวเองและเทคนิคการผ่อนคลายต่าง ๆ ที่สามารถใช้เพื่อลดระดับความเครียดในชีวิตประจำวัน

การปลูกผม: แบบและขั้นตอนของการปลูกผมถาวร

การปลูกผมเป็นกระบวนการที่มีหลายแบบ แต่ละแบบมีขั้นตอนและรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป โดยรายละเอียดเกี่ยวกับการนำรากผมออกมา วิธีการปลูกผม และลักษณะของผมที่นำมาปลูกจะมีความแตกต่างดังนี้:

  • การปลูกผมแบบ Strip FUT: วิธีและข้อดี-ข้อเสีย

การปลูกผมแบบ Strip FUT หรือ Follicular Unit Transplantation (FUT) เป็นกระบวนการที่พบมาก่อนและได้รับความนิยมในการปลูกผม เทคนิคนี้มีจุดเด่นที่สำคัญคือการใช้เทคโนโลยีเจาะหน่วยรากผม (Follicular Unit Dissection) เพื่อแยกหน่วยรากผมให้ออกมาจากชิ้นหนังศีรษะที่ถูกตัดออกมา เมื่อเทียบกับวิธีการอื่น ๆ ทำให้การปลูกผมแบบ FUT มักจะมีความสมบูรณ์และการประสานงานระหว่างรากผมกับหน้าผากได้ดีขึ้น แต่ก็มีข้อเสียหนึ่งคือการเกิดแผลเป็นจากการผ่าตัดที่ศีรษะซึ่งอาจจะเป็นปัญหาสำหรับบางคน

ในกระบวนการ FUT แพทย์จะทำการตัดแผลเอาชิ้นหนังศีรษะชั้นบนบางส่วนที่เรียกว่า ‘สายหนังศีรษะ’ (strip) ออกมาพร้อมกับรากผม หน้าที่ของแพทย์คือการแยกกอรากผมแต่ละหนึ่งออกจากกันใต้กล้องจุลทัศน์กำลังขยายสูง เมื่อได้รับกอรากผมที่ต้องการแล้ว แพทย์จะทำการปลูกรากผมเหล่านี้ลงในพื้นที่ที่ต้องการปลูกผมใหม่

ข้อดีของการปลูกผมแบบ FUT คือการได้รับกอรากผมที่สมบูรณ์และที่ปลูกได้ติดทนดี แต่ในขณะเดียวกัน ความเสียหายจากแผลเป็นอันตรายและอาจทำให้มีรอยแผลเป็นอย่างยากจะซ่อมแซมในบางกรณี ดังนั้น การตัดสินใจในการเลือกใช้วิธีการปลูกผมแบบ FUT ควรพิจารณาให้ดีและรอบคอบ

  • ปลูกผมแบบ FUE: วิธีที่เรียบง่ายและไม่เป็นแผล

การปลูกผมแบบ FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นวิธีที่มีความนิยมในการรักษาปัญหาผมร่วง เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากมีจุดเด่นและข้อด้อยที่แตกต่างจากวิธีอื่น ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

จุดเด่นของวิธีนี้คือการใช้เครื่องเจาะไฟฟ้าในการเจาะรากผมออกมา โดยรากผมที่ได้ออกมาจะเป็นเฉพาะส่วนกอรากผมเท่านั้น ทำให้ไม่มีเนื้อเยื่อรอบๆ รากผมออกมาด้วย และทำให้แผลจากการผ่าตัดมีขนาดเล็กมากเพียง 1 มิลลิเมตรเท่านั้น ผู้ที่ได้รับการปลูกผมแบบ FUE จึงไม่ต้องกังวลเรื่องรอยแผลหลังการผ่าตัด

อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ก็มีข้อเสียบ้าง เช่น ผมท้ายทอยอาจจะดูบางลงเนื่องจากการย้ายรากผมออกไป และไม่มีผมงอกใหม่ทดแทนในตำแหน่งเดิม นอกจากนี้ กอรากผมที่ได้ออกมาก็มีโอกาสเสียหายได้มากกว่า ซึ่งอาจทำให้ผลการปลูกผมไม่ติดทันทีในบางกรณี การเลือกใช้วิธีนี้ควรพิจารณาให้ละเอียดและศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนทำการตัดสินใจ

  • การปลูกผมแบบ Long Hair FUE

การปลูกผมแบบ Long Hair FUE คล้ายกับการปลูกผมแบบ FUE เลย แต่มีข้อแตกต่างที่สำคัญ ที่เราจะได้รับผลลัพธ์ที่ต่างกันไป หลังจากการทำกระบวนการปลูกผมนี้ แบบ Long Hair FUE นั้น เป็นวิธีที่เรามักจะเลือกใช้เมื่อต้องการผมที่ยาวมากขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ผมงอกใหม่หลังการปลูก

ข้อดีของวิธีนี้คือ เมื่อเราได้ผมที่ยาว ไม่จำเป็นต้องรอให้ผมยาวขึ้นอีก ซึ่งจะลดเวลาในการฟื้นตัวและกลับสู่ชีวิตปรกติ อีกทั้งยังไม่ต้องพบกับปัญหาของผมร่วงหลังการปลูก แต่ก็มีข้อเสียบ้าง เช่น การดูแลรักษาผมที่ยาวอาจจะทำได้ยากขึ้น รวมถึงมีความเสี่ยงที่รากผมที่ปลูกไปอาจหลุดได้ง่ายกว่า

หลังจากการปลูกผมแบบ Long Hair FUE ผมร่วงที่เรียกว่า Hair Shedding เป็นเรื่องปกติ การรักษาเซลล์รากผมและผมเดิมบริเวณรอบๆ ยังไม่เข้าสู่ระยะการปรับตัวใหม่ในช่วงเริ่มต้น ทำให้เส้นผมร่วงได้ แม้ว่าเราจะปลูกผมแบบ Long Hair FUE ผมก็จะร่วงตามปกติในช่วงเวลา 3-4 สัปดาห์ โดยมีกระบวนการผลัดผมอยู่ดี

  • ปลูกผมแบบ DHI

เมื่อพูดถึงการปลูกผมแบบ DHI (Direct Hair Implantation) เกิดความสงสัยอย่างแน่นอนว่ามันแตกต่างจากวิธีการปลูกผมอื่นๆ หรือไม่ ในความเป็นจริง วิธีการนี้มีแต่แนวคิดที่คล้ายกับ FUE (Follicular Unit Extraction) ทั้งหมด โดยส่วนหลักๆ เพียงเครื่องมือที่ใช้ในกระบวนการปลูกผมเท่านั้นที่แตกต่างกัน

ในกระบวนการปลูกผมแบบ DHI จะใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า Implanter หรือปากกาปลูกผม เพื่อทำการปลูกผมลงไปในหนังศีรษะ การใช้ Implanter นี้มีประโยชน์หลายประการ เช่น ช่วยลดการทำลายรากผมเพราะการใช้ forceps ที่อาจทำให้รากผมเสียหาย และยังช่วยให้ผมที่ปลูกลงไปไม่ช้ำและมีโอกาสปลูกติดสูงกว่า

อย่างไรก็ตาม ความจริงที่สุดคือ มีคลินิกที่ใช้เครื่องมือ Implanter ในกระบวนการปลูกผมแบบ FUE อยู่แล้ว และในกรณีของ Absolute Hair Clinic เช่นกัน คลินิกนี้ไม่ได้ให้บริการปลูกผมแบบ DHI อย่างเดียว เนื่องจาก DHI มักถูกใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการโฆษณาเท่านั้น และไม่มีความแตกต่างในทางการแพทย์

ดังนั้น การเลือกคลินิกที่จะทำการปลูกผมควรพิจารณาโดยรอบด้านคุณภาพของบริการ ประสบการณ์ของแพทย์ และรีวิวจากผู้รับบริการก่อนตัดสินใจที่จะเลือกใช้วิธีการที่เหมาะกับความต้องการของตนเองและไม่จำเป็นต้องสนใจเฉพาะชื่อของกระบวนการเท่านั้น

นอกเหนือจากการปลูกผมยังมีการรักษาอาการผมร่วง ผมบางในแบบวิธีอื่น ๆ อีกมากมาย

เมื่อพบปัญหาการร่วงของเส้นผมหรือผมบาง มีทางเลือกการรักษามากมายนอกเหนือจากการปลูกผม ดังนี้:

  1. การใช้ยาทาเฉพาะที่และยารับประทาน:
    • ยาไมนอกซิดิล (Minoxidil): ช่วยเจริญเติบโตของเส้นผมและป้องกันไม่ให้ผมร่วง ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
    • ยาฟีนาสเตอไรด์ (Finasteride): ชะลอการเกิดผมร่วงและผมบางมาก ใช้ในผู้ชายเท่านั้น
  2. ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น PRP (platelet rich plasma):
    • ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผม โดยการฉีด PRP ลงไปในบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง
  3. เซลล์บำบัด (Regenera Activa):
    • การปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด โดยการฉีด Stem Cell เข้าสู่บริเวณที่เกิดปัญหาผมร่วง ผมบาง
  4. Fotona Laser:
    • ใช้เลเซอร์ยิงพลังงานต่ำเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ช่วยเสริมสร้างรากผมทำให้ผมแข็งแรงขึ้น
  5. ฉายแสงเลเซอร์ LLLT (Low Level Laser Therapy):
    • กระตุ้นรากผมให้สร้างเส้นผมด้วยเลเซอร์แสงสีแดงพลังงานต่ำ
  6. ลดความเครียด ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม:
    • การลดหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเช่น พยายามหยุดการดึงผมตนเอง (Trichotillomania) ที่สามารถทำให้เส้นผมช้างอกใหม่ได้ช่วยลดอาการร่วงผมได้ด้วย

การปลูกผมถาวร: ปลูกแล้วขึ้นจริงมั้ย?

การปลูกผมถาวรเป็นวิธีที่มั่นใจในการกู้คืนความสมบูรณ์ของผมที่ขาดหายไป เมื่อเราสูญเสียผมเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น พันธุกรรม การแก้ปัญหานี้อาจเป็นทางออกที่ดีให้ผู้ที่ประสบกับปัญหาผมร่วงหรือผมบางจากอาการผลิตฮอร์โมนที่ไม่สมดุล

ผมที่ถูกปลูกโดยวิธีการนี้มีความสามารถในการเจริญเติบโตอย่างปกติเพราะมาจากรากผมที่แข็งแรงและสมบูรณ์ ซึ่งเมื่อได้รับการปรับตัวและพักผ่อนครบถ้วน ผมจะเริ่มเติบโตขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ผลลัพธ์ที่ได้จากการปลูกผมถาวรจะเป็นผมที่แข็งแรง ไม่ขาดร่วงง่าย และทนทาน เพียงแต่อาจต้องใช้เวลาในการเติบโตอย่างเต็มที่ประมาณ 3-4 เดือน แต่ผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับนั้นจะยังคงอยู่กับคุณอย่างถาวรแน่นอน การปลูกผมถาวรเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการมีผมที่หนาและสมบูรณ์อีกครั้งในชีวิต

การปลูกผม: เจ็บไหม

การปลูกผมถาวรไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดในระหว่างหรือหลังการกระตุ้นผิวหนัง เนื่องจากแพทย์จะให้ยาชาและยานอนหลับในทุกขั้นตอนของกระบวนการ ทำให้ผู้รับการรักษาไม่รู้สึกความเจ็บปวดเลย

นอกจากนี้ แผลจากการปลูกผมไม่ใช่แผลเปิดและมีขนาดไม่ใหญ่ ทำให้ความเจ็บปวดจากแผลหลังการผ่าตัดน้อยมาก แพทย์มักจะสั่งให้ใช้ยาแก้ปวดหลังการผ่าตัด ซึ่งอาจมีอาการปวดบางเล็กน้อย แต่จะหายไปเองในไม่กี่วันหลังผ่าตัด

ข้อดีของการปลูกผม

การปลูกผมมีข้อดีมากมายที่ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผมร่วงหรือผมบาง ดังนี้:

  1. ผลลัพธ์ที่ถาวร: ผมที่ปลูกจะยังคงอยู่บนหนังศีรษะไปตลอด ไม่ร่วงง่ายอย่างผมธรรมชาติ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องผมบางเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
  2. สามารถปรับปรุงได้: หากต้องการผมที่หนาขึ้นหรือเปลี่ยนรูปแบบทรงผมใหม่ สามารถทำการปลูกผมซ้ำได้ตามต้องการ
  3. ผลลัพธ์ที่สวยงาม: การปลูกผมจะทำโดยการปลูกรากผมทีละกราฟท์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีทิศทางและตำแหน่งที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด
  4. เสริมความมั่นใจ: การแก้ไขปัญหาผมร่วงและผมบาง ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับผู้ที่ทำ ซึ่งการแก้ไขปัญหาผมร่วงและผมบางอาจเป็นเรื่องที่ยากมาก
  5. การลงทุนระยะยาว: ผลประโยชน์ที่ได้จากการปลูกผมมีมูลค่าสูง และการลงทุนที่ต้องจ่ายก็ไม่ใช่เรื่องที่แพงมากเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้
  6. เสี่ยงต่ำ: การผ่าตัดในการปลูกผมมีความเสี่ยงน้อย เนื่องจากแผลที่เกิดขึ้นมีขนาดเล็กและสามารถหายได้เร็ว และมีโอกาสในการเสียหายจากการปลูกน้อยกว่า
  7. ผลข้างเคียงน้อย: ผมที่ปลูกเป็นของผู้รับการรักษาเอง และไม่ต้องใช้ยาที่เสี่ยงต่อผลข้างเคียงในระยะยาว
  8. สามารถทำร่วมกับการรักษาอื่น: การปลูกผมสามารถทำร่วมกับการรักษาอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานและถาวรในระยะยาว

4 เรื่อง ควรรู้ ก่อนคิดจะ “ปลูกผม”

การตัดสินใจที่จะทำการปลูกผมไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากเป็นกระบวนการผ่าตัดศัลยกรรมที่มีผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของเรา ดังนั้น เราควรทราบข้อมูลสำคัญเหล่านี้ก่อนตัดสินใจ

  • ไม่ใช่ทุกคนจะปลูกผมได้: การเข้าใจก่อนคิดจะปลูกผม

การปลูกผมนั้นไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำได้ และก่อนที่เราจะตัดสินใจปลูกผม เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการปลูกผมให้ดีก่อน วันนี้เราจะแบ่งปันคำแนะนำ 4 ข้อสำคัญที่ควรทราบก่อนพิจารณาให้ปลูกผม:

  1. การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ก่อนที่เราจะตัดสินใจปลูกผม เราควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรึกษาเรื่องความเหมาะสมของกระบวนการสำหรับเรา เนื่องจากการปลูกผมเป็นกระบวนการที่ต้องการการตรวจสอบว่าผมของเรามีเพียงพอหรือไม่ และอาจมีเงื่อนไขหรือโรคบางชนิดที่ทำให้ไม่เหมาะสมกับการทำปลูกผม
  2. ความเหมาะสมของรากผม: การปลูกผมเป็นกระบวนการที่นำเอาผมของเราเองมาปลูกในบริเวณที่ต้องการ แพทย์จะตรวจสอบว่าเรามีผมพอหรือไม่สำหรับการปลูก การปรับปรุงรูปแบบผมของเราก่อนการปลูกอาจเป็นเส้นทางที่ต้องพิจารณา
  3. ความเหมาะสมของสุขภาพ: บางโรคหรือการใช้ยาบางอย่างอาจทำให้การปลูกผมไม่เหมาะสม เนื่องจากมีผลต่อความสามารถในการติดตามรากผมหรือเสี่ยงต่อผลข้างเคียงในช่วงฟื้นตัว
  4. การเป็นผู้เข้ารับการรักษาที่ดี: การเป็นผู้เข้ารับการรักษาที่ดีและมั่นใจในการตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญ การทราบข้อมูลและความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการ รวมถึงความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น จะช่วยให้เราตัดสินใจได้อย่างมั่นใจที่สุด
  • การปลูกผมมีหลายวิธี: การเลือกวิธีที่เหมาะสม

หลังจากเราตัดสินใจที่จะแก้ปัญหาผมด้วยการปลูกผมแล้ว เราควรทราบก่อนว่ามีหลายวิธีให้เลือกในการปฏิบัติ แต่ละวิธีนั้นเหมาะสำหรับปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือความเสี่ยงที่แตกต่างกัน มีวิธีที่มีความเหมาะสมทั้งสำหรับผมที่ต้องการปลูกในปริมาณมาก (FUT – Follicular Unit Transplantation) ซึ่งอาจมีข้อเสียในรูปแบบของแผลขนาดใหญ่ และวิธีที่ย้ายเซลล์ผมที่ละกอเพื่อปลูกในบริเวณที่ต้องการ (FUE – Follicular Unit Extraction) ซึ่งมีแผลเล็กแทบมองไม่เห็น หรือการใช้อุปกรณ์ DHI ช่วยในการปลูกผม

การตัดสินใจเลือกวิธีปลูกผมจึงควรมีการปรึกษาระหว่างแพทย์และผู้เข้ารับบริการ เนื่องจากมีขั้นตอนในการรักษาและค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน

  • การปลูกผมแล้วก็ต้องกินยาควบคุม

การปลูกผมอาจเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเรียกคืนผมที่หายไปจากหนังศีรษะ แต่มันไม่ได้เป็นวิธีการแก้ปัญหาอย่างสมบูรณ์ ผมที่ปลูกใหม่ยังมีโอกาสร่วงหรือบางลงต่อไป ซึ่งเป็นไปได้เพราะการรักษาเซลล์รากผมไม่ได้หยุดการร่วงของผมอย่างถาวร

หากปัญหาผมร่วงเกิดจากปัจจัยที่ไม่ใช่การสืบพันธุ์ คุณอาจต้องพิจารณาการรับประทานยาเพื่อควบคุมการร่วงของผมต่อไป. การรับประทานยาก็เป็นวิธีการที่น่าสนใจในการดูแลผมให้แข็งแรงและป้องกันการสูญเสียของผมในอนาคต

การปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผมเป็นสิ่งสำคัญที่จะตรวจสอบว่ายาควบคุมผมร่วงนั้นเหมาะสมและปลอดภัยกับสุขภาพของคุณหรือไม่ ด้วยการควบคุมการร่วงของผมอย่างระมัดระวัง คุณสามารถให้ผมของคุณมีการเจริญเติบโตและป้องกันความสูญเสียของผมได้ที่ดีขึ้นในอนาคต

  • ค่าใช้จ่ายในการปลูกผม

การเลือกที่จะปลูกผมเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างมีค่าใช้จ่ายสูง เปรียบเทียบกับวิธีการรักษาอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือศีรษะล้าน ค่าใช้จ่ายของการปลูกผมสามารถสูงมากได้ถึงระดับหลักหมื่นถึงหลักหลายแสนบาท

ผู้ที่ตัดสินใจที่จะปลูกผมมักเป็นคนที่มีปัญหาผมร่วงหรือผมบางที่มีความรุนแรง อย่างไรก็ตาม หากคุณตัดสินใจที่จะทำการปลูกผม ควรเลือกสถานที่ที่มีมาตรฐานความสะอาด เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการปลูกผม ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดูแลผม อีกทั้งควรให้ความสำคัญกับการติดตามผลการรักษา และความเชื่อถือได้ของสถานที่ที่คุณเลือกใช้ในการปฏิบัติการปลูกผม